ปัญหาผมบาง ศรีษะล้าน เกิดจากการหลุดร่วงของเส้นผมก่อนเวลาอันควร และวงจรชีวิตของเส้นผมที่สั้นลง ซึ่งมีสาเหตุจากการที่ต่อมผมหยุดสร้างเส้นผม ซึ่งอาจเกิดได้จากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ภาวะความเครียด การเจ็บป่วย หรือการเปลี่ยนแปลงบางอย่างของร่างกาย ตลอดจนการใช้ผลิตภัณฑ์หรือสารที่รุนแรงต่อหนังศรีษะ
ปัญหาผมร่วง ผมบาง หัวล้านในหลายๆ กรณีสามารถรักษาให้ผมกลับมาใหม่ได้ โดยไม่ต้องอาศัยการปลูกผม ปัญหาแบบไหนเหมาะกับวิธีรักษาแบบใด? ไปดูกันเลย
แก้ปัญหาผมร่วง หัวล้าน ผมบาง
1. ปัญหาผมร่วง ผมบางในระยะแรก สามารถรักษาได้ด้วยการบำรุงรากผม และหนังศรีษะด้วย เซรั่มบำรุงรากผม Apex Hair Gain Serum และ Apex Hair Gain Spray ที่มีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้น และฟื้นฟูการทำงานของรากผม ช่วยให้เกิดผมงอกใหม่ ผมร่วงน้อยลง โดยใส่บริเวณหนังศีรษะวันละ 2 ครั้ง เมื่อใช้ต่อเนื่องผมจะร่วงน้อยลง ผมใหม่เริ่มขึ้นเล็กน้อย เห็นได้ใน 3-4 เดือนหลังจากใช้ เหมาะสำหรับคนที่ผมบางและร่วงไม่มาก ต้องการหยุดปัญหาผมร่วงไม่ให้ปัญหาลุกลามมากขึ้น หรือใช้ร่วมกับการรักษาวิธีอื่น
2. การรับประทานยา เป็นวิธีที่เห็นผลได้ดีสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ ในกรณีที่ผมร่วงบริเวณกลางศรีษะ ส่วนถ้าเกิดช่วงด้านหน้าของหนังศีรษะ ผลลัพธ์ก็อาจจะเห็นไม่ชัดเจนนัก ยาที่รับประทานมีอยู่ 2 ชนิดคือ ยาลดฮอร์โมนเพศชาย Finasteride และยากินไมนอกซิดิล ซึ่งเป็นยาลดความดัน โดยทั่วไปยาไมนอกซิดิลถ้าทานระยะยาว อาจมีผลต่อหัวใจและการไหลเวียนโลหิตได้ จึงไม่เหมาะกับการใช้ปลูกผมระยะยาว ส่วนในผู้หญิงยาที่รับประทานก็จะเป็นยาลดฮอร์โมน ซึ่งทานแล้วอาจเกิดผลข้างเคียงได้ จึงไม่ค่อยนิยมใช้เช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ในคนที่เป็นไม่มาก ที่ Apex เราจึงแนะนำให้ใช้วิตามินบำรุงเส้นผมสูตรเฉพาะของเอเพ็กซ์ สามารถรับประทานให้ผมร่วงน้อยลง และมีเส้นผมขึ้นใหม่มากขึ้น
3. เลเซอร์พลังงานต่ำ เพื่อกระตุ้นรากผม และการไหลเวียนบริเวณหนังศีรษะ ตลอดจนผลักวิตามิน รวมถึงยากระตุ้นเส้นผมลงสู่รากผมโดยตรง เพื่อการฟื้นฟูรากผมให้เกิดการสร้างเส้นผมใหม่ ข้อดีคือ สามารถทำให้ผมหลุดร่วงน้อยลงและมีผมขึ้นใหม่ ไม่เจ็บ เหมาะกับการบำรุงผม รักษาเส้นผม โดยเฉพาะผู้หญิงผมบาง แต่มีข้อเสียคือ ต้องเข้ามาทำบ่อยในระยะแรกแรก อาจต้องทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลาทั้งหมด 10 ครั้ง หลังจากนั้นก็อาจจะเป็น 1-2 เดือนครั้ง
4. การฉีดวิตามินหรือการฉีดยาปลูกผม หรืออาจเป็นการใช้ผสมผสานกัน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น หลังฉีดสามารถทำให้เกิดการสร้างเส้นผมใหม่ขึ้นได้ ลดการหลุดร่วง ผู้รับการรักษาสามารถรู้สึกได้ถึงประสิทธิภาพของการรักษาอย่างชัดเจน ผมร่วงน้อยลง ผมหนาขึ้น ข้อดีคือ มีผมใหม่ขึ้นจนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ข้อเสียคือ เจ็บ และต้องเข้ามาทำ 2 สัปดาห์ครั้ง ทั้งหมดประมาณ 5 ครั้ง
5. ปลูกผมด้วยพลาสมา (PRP) คือการฉีด plasma หรือเกล็ดเลือดเข้าไปบริเวณหนังศีรษะ โดยนำเลือดของผู้เข้ารับการรักษามาผ่านขบวนการทาง Bio-Tecnology เพื่อทำให้มีเกล็ดเลือดคุณภาพสูงจำนวนมาก สามารถทำให้เกิด Growth Factor และ Stem Cell ในบริเวณรากผม เพื่อซ่อมสร้างและฟื้นฟูรากผมให้กลับมาสร้างเส้นผมใหม่อีกครั้ง แม้จะหยุดสร้างเส้นผมไปแล้วก็ตาม มีผลการศึกษาอย่างชัดเจนจากในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สามารถทำให้เส้นผมหนาขึ้นได้ ผมร่วงน้อยลง และจะเห็นผลอย่างชัดเจนฉีดเดือนละ 1 ครั้ง ทั้งหมด 3 ครั้ง หลังจากนั้นจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปี หรือหากต้องการให้มีผลในระยะยาวอาจจะฉีดซ้ำทุก 6 เดือนก็ได้
*ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปแล้วแต่บุคคล
6. การฉีดปลูกผมด้วยสเต็มเซลล์ (Hair Stem) เป็นการกระตุ้น และฟื้นฟูเซลล์ใต้ต่อมผมด้วยการฉีดสเต็มเซลล์ เพื่อให้เซลล์ตั้งต้นใต้ต่อมผมกลับมาทำงาน มีการสร้างเส้นผมใหม่อีกครั้ง แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่ยังไม่ได้รับการรับรอง และยังไม่ได้เป็นมาตรฐานทางการแพทย์
Apex Hair Center ให้การรักษาปัญหาผมร่วง หัวล้าน ผมบางด้วยเทคโนโลยีล่าสุด พร้อมแพทย์เฉพาะทาง และผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม โดยการรักษาที่ต้นเหตุอย่างถูกวิธี มีการดูแลสุขภาพของเส้นผม รากผม และหนังศีรษะอย่างครบวงจร เพื่อให้เกิดการงอกใหม่ของรากผมที่แข็งแรงและยั่งยืน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
- โทร. 085-700-0053
- LINE : @apexbeauty
อ่านต่อประสบการณ์ “ปลูกผมเปลี่ยนชีวิต”
