ปัญหาขอบตาดำ และใต้ตาคล้ำ พบได้ในทุกเพศทุกวัย และเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ กรรมพันธุ์ ภูมิแพ้ การอดนอน นอกจากนั้นอาการระคายเคืองผิวบริเวณรอบดวงตา หรือตาแห้งก็สามารถทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตาได้เช่นกัน เพราะหลายคนเมื่อเกิดอาการระคายเคืองตามักจะลืมตัวเผลอขยี้ตาบ่อยๆ
ดังนั้นจึงทำให้ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาดำคล้ำ เกิดความไม่มั่นใจในใบหน้าของตัวเอง เนื่องจากขอบตาดำจะทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยโทรม เศร้าหมอง ไม่สดใส ใบหน้าดูมีอายุ และความสวยงามลดลงอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้ใต้ตากลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง เราจึงรวบรวม 6 วิธีเพื่อช่วยลดอาการขอบตาดำ แก้รอยรอยคล้ำใต้ตา แบบง่ายๆ ใครที่กำลังกลุ้มใจกับปัญหาใต้ตาคล้ำอยู่ ต้องรีบจัดการด่วน!
1.พักผ่อนให้เพียงพอ
วิธีนี้ถือว่าเป็นการดูแลตัวเองที่ดีที่สุด เพราะว่าการได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม ไม่ใช่แค่ช่วยให้ใต้ตาดูสดใสขึ้นได้เท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อร่ายกายทั้งหมดอีกด้วย ทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดีมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายได้รับการซ่อมแซม โดยเราควรนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 ชั่วโมง ดังนั้นเราควรหันมาดูแลตัวเองให้มากขึ้น นอนให้เพียงพอก็ช่วยให้ผิวสวยขึ้นได้แล้ว
2.เลี่ยงการสัมผัสบริเวณรอบดวงตา
การสัมผัสบริเวณรอบดวงตา เช่นการขยี้ตา หรือการเช็ดล้างเครื่องสำอางแรงๆ สามารถทำให้เกิดปัญหารอบดวงตาได้ ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย และความดำคล้ำ เนื่องจากบริเวณรอบดวงตาโดยเฉพาะใต้ตา เป็นส่วนที่ผิวหนังมีความบอบบางมาก ดังนั้นเมื่อถูกสัมผัสแรงๆ บ่อยเข้า จะทำให้เส้นเลือดดำขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลให้ใต้ตาดำคล้ำขึ้นนั่นเอง! ดังนั้นถ้าจำเป็นต้องสัมผัสบริเวณรอบดวงตาจริงๆ ควรเบามือลง เพื่อเป็นการช่วยถนอมผิวรอบดวงตา
3.ประคบถุงชา
เมื่อดื่มชาเสร็จแล้วอย่าเพิ่งรีบทิ้งถุงชา เพราะเราสามารถนำถุงชามาประคบบริเวณเปลือกตา เพื่อช่วยฟื้นฟูผิวรอบดวงตาให้กลับมาชุ่มชื้น ดูสดใสได้อีกครั้ง โดยเฉพาะในชาดำมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) สูง รวมไปถึงยังมีวิตามินE และ วิตามิน C อีกด้วย เมื่อนำถุงชาไปแช่เย็นแล้วนำมาประคบสัปดาห์ละ 2-3 วัน ประมาณ 10-15 นาที ก็จะสามารถช่วยลดอาการตาบวม รอยคล้ำใต้ตา และยังช่วยให้ริ้วรอยรอบดวงตาจางลง เพิ่มความชุ่มชื้นได้อีกด้วย
4.อย่าลืมทาอายครีม
บำรุงผิวหน้าแล้ว อย่าลืมบำรุงบริเวณรอบดวงตาด้วยนะคะ เพราะผิวบริเวณนี้ค่อนข้างเป็นส่วนที่บอบบางมาก ควรบำรุงให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ซึ่งอายครีมส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยส่วนผสมที่สามารถช่วยให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื้น และแข็งแรงขึ้นได้ นอกจากนั้นการเลือกอายครีมที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งก็จะช่วยให้ใต้ตากระจ่างใสขึ้นได้บ้าง
5.คอนซีลเลอร์ช่วยปกปิด
อีกหนึ่งตัวช่วยที่สามารถทำได้ง่ายๆ คือการแต่งหน้าโดยใช้คอนซีลเลอร์ช่วยกลบปัญหาใต้ตาดำคล้ำ โดยขั้นแรกเราอาจจะใช้ลิปสติกโทนส้มแดงทาเป็นเบสก่อน เพราะสีโทนนี้สามารถแก้สีคล้ำๆ น้ำเงินอมม่วงได้เป็นอย่างดี จากนั้นใช้คอนซีลเลอร์สีที่ใกล้เคียงกับผิวของเรา หรือสว่างกว่าสีผิวเรา 1 เฉด ทาทับอีกรอบเพียงเท่านี้ใต้ตาที่ดำคล้ำก็ดูสว่างขึ้นได้แล้ว
6.ฉีดฟิลเลอร์ (Fiiler)
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหารอยคล้ำใต้ตาให้ลดน้อยลงได้ แถมยังช่วยให้ใต้ตากลับมาดูเรียบเนียน โดยเฉพาะผู้ที่มีร่องน้ำตาลึก กระดูกรอบดวงตายุบตัวทำให้ดูตาลึก ตาโหล ผิวรอบดวงตาหย่อนคล้อย มีริ้วรอย การฉีดฟิลเลอร์สามารถเติมเต็มให้ร่องลึก และผิวบริเวณรอบดวงตาดูตื้นขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูสดใส มีชีวิตชีวา และดูอ่อนวัยได้มากขึ้นอีกด้วย
ฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าไปในบริเวณใต้ตา ซึ่งสารชนิดนี้สามารถสลายหมดไปได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย จึงถือว่ามีความปลอดภัยสูง และยังเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการแก้ปัญหาใต้ตาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นใต้ตาคล้ำ ริ้วรอยใต้ตาอีกด้วย เพราะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีดเสร็จ มีความละมุนและเป็นธรรมชาติ ไม่มีแผลจึงไม่จำเป็นต้องพักฟื้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้ปริมาณฟิลเลอร์อยู่ 1-3 cc. อีกทั้งผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถอยู่ได้นาน 18-24 เดือนเลยทีเดียว
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยอะไรบ้าง
- แก้ปัญหาร่องน้ำตา เบ้าตาลึก ตาโหล เมื่ออายุมากขึ้นกระดูกและไขมันบริเวณรอบดวงตามักจะฝ่อตัว การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มให้ผิวบริเวณใต้ตาดูเต็ม ส่งผลให้ใบหน้าดูเด็กลงได้
- แก้ปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม เหนื่อยล้า หมองคล้ำ การฉีดฟิลเลอร์จะช่วยให้ใต้ตาชุ่มชื้น ลดขอบตาดำ ความคล้ำลดลง ใต้ตาจึงดูสดใส สดชื่นมากขึ้น
- แก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยเหี่ยวย่น ความหย่อนคล้อยบริเวณรอบดวงตา ที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ การฉีดฟิลเลอร์สามารถช่วยให้ใต้ตาดูเรียบเนียนขึ้นได้ ใบหน้าจึงกลับมาดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง
- แก้ปัญหาใต้ตาหย่อนคล้อย ช่วยปรับผิวบริเวณรอบดวงตาให้ดูยกขึ้น มีความกระชับ มีความอิ่มฟู ใต้ตาดูเต็มมากขึ้น
ข้อแนะนำในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจจะเกิดอาการบวมได้ในบางเคส แต่ภายใน 2-3 วัน อาการบวมเหล่านั้นจะค่อยๆ หายไปได้เอง ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่อย่างใด
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว หลีกเลี่ยงการเอามือไปสัมผัสบริเวณที่ฉีด ห้ามกด ลูบ คลำ เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ หรือไหลไปในบริเวณอื่นที่เราไม่ต้องการได้
- ก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดรับประทานอาหารหมักดอง และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องอาการบวมและติดเชื้อ
- เนื่องจากฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ ดังนั้นหลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้วควรดื่มน้ำเยอะๆ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปดูอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น
- ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ฉีดให้ทุกเคส เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมามีประสิทธิภาพที่สุด และเพื่อความปลอดภัยของเราเอง
ขอบตาดำ หรือ รอยคล้ำใต้ตา เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ต้องรีบหาวิธีแก้ไขให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นใบหน้าของเราจะดูโทรม อ่อนล้า แถมยังดูแก่กว่าวัยอีกด้วย ซึ่งทั้ง 6 วิธีที่ได้แนะนำไปสามารถช่วยให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น ใครสะดวกวิธีไหนลองทำตามกันดูได้ ส่วนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติมสามารถสอบถามหรือขอคำแนะนำจาก APEX ได้เสมอ เพราะเรามีทีมแพทย์คอยให้คำปรึกษาอยู่ตลอด
