6 ท่า บริหารหน้าอก ให้กระชับภายใน 2 สัปดาห์

บริหารหน้าอกสาว ๆ สายเฮลตี้ รู้หรือยังการออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรง รูปร่างสวย น้ำหนักลด แล้วยังช่วยให้หน้าอกกระชับได้ด้วย ยิ่งมีอายุขึ้น หน้าอกก็จะหย่อนคล้อยเป็นเรื่องธรรมชาติ การป้องกันก่อนแก้ ดีกว่าเสมอ วันนี้เลยมาแนะนำท่าออกกำลังกายที่ช่วย บริหารหน้าอก ให้หน้าอกกระชับภายใน 2 สัปดาห์ มีท่าไหนบ้าง ?

 

ท่าที่ 1 นั่งคุกเข่ากับพื้น หรือเก้าอี้ ยืดหลังให้ตรง ไม่แอ่นหน้าอก กางแขนทั้งสองข้างออกระดับไหล และเคลื่อนแขนเข้ามาผสานกันด้านหน้า ให้มือซ้ายและมือขวาเสมอกัน ยืดแขนตรง  ท่านี้ช่วยให้หน้าอกชิดกันขึ้น และทำให้ต้นแขนกระชับขึ้น ทำ 15 ครั้ง 3 – 4 เซต

 

ท่าที่ 2 ท่าวิดพื้น Push up โดยวางมือไว้ที่พื้นยืดแขนให้ตรง เข่าชิดพื้น ตั้งตัวตรง หลังจากนั้นงอข้อศอกลง ยุบส่วนอกลงให้ใกล้พื้นมากที่สุดโดยไม่ถึงพื้น เกร็งบริเวณหน้าอก แล้วค่อย ๆ ดันตัวขึ้นกลับสู่ท่าที่ยืดแขนตรง ทำ 15 ครั้ง 3 – 4 เซ็ต

 

ท่าที่ 3 ท่านี้ต้องใช้อุปกรณ์เสริมเล็กน้อย เป็นเก้าอี้ที่แข็งแรงไม่ขยับเขยื้อนได้ง่าย โดยวางมือบนเก้าอี้ ค่อย ๆ ย่อตัว เหมือนนั่งเก้าอี้ ย่อลงให้ใกล้พื้น แต่ไม่ติดพื้น โดยหลังต้องตรง ใช้แขนดันตัวขึ้นให้กลับมาท่าเดิม ท่านี้ได้ออกกำลังกายหลายส่วนด้วยกัน ทั้งแขน หน้าอก ขา และก้น ได้หน้าอกที่สวย และส่วนอื่นยังฟิตอีกด้วย ทำซ้ำ 15 ครั้ง 3 – 4 เซ็ต

 

ท่าที่ 4 อย่าเพิ่งเก็บเก้าอี้ไปไหนค่ะ แต่เพิ่มดัมเบลเข้ามา ถือไว้ทั้งสองมือ หากไม่มีดัมเบล สามารถใช้เป็นขวดน้ำแทนได้ นั่งเก้าอี้ให้หลังตรงหลังชิดกับพนักเก้าอี้ เพื่อไม่ให้หลังแอ่น ยกแขนสองข้างขึ้นให้ตั้งฉากกับไหล่ งอข้อแขนขึ้นตั้งตรง หลังจากนั้นหุบแขนเข้าหากันด้านหน้า ให้ศอกทั้งสองข้างชิดกัน และกลับสู่ท่าเดิม ทำซ้ำ 15 ครั้ง 3 – 4 เซต

 

ท่าที่ 5 นอนลงกับพื้น หลังตรงไม่แอ่นหน้าอก มือถือดัมเบลไว้ข้างตัว ไม่งอข้อมือ ตามด้วยยืดแขนให้สุด ยืนตรง และค่อย ๆ ผ่อนลงมาบริเวณด้านข้าง เสมอหน้าอก จะทำให้รู้สึกตึง ๆ บริเวณหน้าอก ท่านี้ช่วยรูปทรงหน้าอกเข้ารูป ฐานอกแน่น กระชับยิ่งขึ้น ทำซ้ำ 15 ครั้ง 3 – 4 เซต

 

ท่าที่ 6 นอนกับพื้น มีท่าคล้าย ๆ กับท่าที่ 5 เตรียมท่าด้วยการกลางแขนไว้ข้าง ๆ แล้วยกแขนขึ้นยืดแขนตรง จากนั้นกลางแขนออกเป็นรูปทรงเหมือนครึ่งวงกลม เกร็งไว้ไม่ให้ถึงพื้น และกลับไปที่ท่ายืดแขนตรงเหมือนเดิม ท่านี้จะช่วยลดความหย่อนคล้ายหน้าอก ทำซ้ำ 15 ครั้ง 3 – 4 เซต

กระชับหน้าอก

ลองทำการ บริหารหน้าอก ตามกันดูได้นะคะสาว ๆ เพียงเท่านี้หน้าอกเราก็ฟิตเฟิร์มได้ เพียงทำต่อเนื่องกัน ร่วมกับการออกกำลังกายท่าอื่น ใช้เวลาในการออกกำลังกายอย่างต่ำ 30 นาที เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด นอกจากการ บริหารหน้าอก และออกกำลังกายแล้ว อีกส่วนที่ต้องเลือกดี ๆ นั่นคือ อาหารนั่นเอง 

 

ออกกำลังกายแล้วรับประทานอาหารแบบไหนดีให้เหมาะกับการออกกำลังกาย สามารถช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ และบำรุงส่วนต่าง ๆ รวมถึงหน้าอกของเราด้วย โดยขอยกมา 5 อย่างด้วยกัน

 

สารบัญ

1. อกไก่ และน่องไก่

เมนูที่สายเฮลตี้คงรับประทานเป็นประจำอยู่แล้วใช่ไหมคะ ? เพราะอกไก่มีโปรตีน ที่ช่วยให้อิ่มง่าย อยากอาหารน้อยลง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เหมาะอย่างมากกับผู้ที่กำลังออกกำลังกาย การรับประทานอกไก่และการออกกำลังกายคู่กันก็ยิ่งทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น แต่นอกจากโปรตีน ในไก่ส่วนน่องก็ยังมีคอลลาเจน ซึ่งสามารถช่วยดูดซึมแคลเซียมและโปรตีน นอกจากนี้เหมาะกับคนที่ออกกำลังกายเพราะช่วยระบบเผาผลาญในร่างกายได้ และมีโกรทฮอร์โมนช่วยการเจริญเติบโต เหมาะกับเด็ก ๆ กระตุ้นการสร้างเซลล์ในร่างกาย ซ่อมแซม และบำรุงหน้าอกของเราได้ แต่ต้องปรุงสุกให้เหมาะสมด้วย หากปรุงสุกโดยการทอดคงไม่เหมาะ แนะนำการปรุงสุกโดยการต้ม และปรุงรสชาติน้อย ๆ หรือไม่ปรุงเลย จะดีที่สุดค่ะ

 

2. กล้วยหอม

กล้วยหอมถือเป็นผลไม้ที่บำรุงหลายอย่างในร่างกายเรา มีคุณประโยชน์เยอะมาก ๆ และเป็นผลไม้ที่ช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างเอสโตรเจนได้ดี ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศหญิงที่ดีต่อผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล สุขภาพดี มีทรวงอกที่ดีเพื่อเตรียมให้นมบุตร นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ออกกำลังกายเพราะให้พลังงานได้ต่อเนื่อง มีน้ำตาลดีต่อสุขภาพ 

 

3. น้ำเต้าหู้

เครื่องดื่มที่หาได้ง่ายมาก ๆ เลยค่ะ แต่ต้องรับประทานให้ถูกวิธีนะคะ คือ ไม่ใส่น้ำตาล เพื่อให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ซึ่งน้ำเต้าหู้จะช่วยให้ร่างกายเราแข็งแรง บำรุงหน้าอกเราได้ เพราะน้ำเต้าหู้ มี ไฟโตเอสโตรเจน จะช่วยทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงสมดุล ไม่ให้เกิดคอลเลสเตอรอลที่สูงเกินไป ช่วยภาวะกระดูกพรุน ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งเต้านม ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งไฟโตเอสโตรเจนมักจะอยู่ในถั่วต่าง ๆ ซึ่งน้ำเต้าหู้เป็นเครื่องดื่มจากนมถั่วเหลือง จึงได้รับไฟโตเอสโตรเจน และยังรับประทานได้ง่าย

 

4. ไข่ 

น่าจะเป็นวัตถุดิบที่ทุกคนน่าจะมีติดบ้าน ในไข่มีโปรตีน ที่สามารถช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอ ซึ่งบริเวณหน้าอกเราเองก็มีเนื้อเยื่อที่สามารถสึกหรอได้ตามกาลเวลา ทำให้หย่อนคล้อย การรับประทานไข่ควบคู่กับการออกกำลังกายก็จะช่วยทำให้หน้าอกแข็งแรง กระชับขึ้น และโปรตีนช่วยให้เราอิ่มไว ถ้ารับประทานในช่วงที่เราออกกำลังกายจะช่วยให้เราอิ่มเร็วขึ้นและช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่าการรับประทานอาหารอย่างอื่น แนะนำปรุงสุกด้วยการต้ม จะดีต่อสุขภาพมาก และควรทานไม่เกิด 3 ฟอง ต่อวัน 

 

5.มะละกอ

เป็นผลไม้ที่คนลดน้ำหนักน่าจะทานกันอยู่แล้ว เพราะเป็นผลไม้ที่ช่วยระบบย่อยอาหารได้เป็นอย่างดี คนที่ลดน้ำหนักจึงนิยมรับประทานกัน และการทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี ก็สามารถย่อยโปรตีนไปเสริมหน้าอกได้ดีด้วย จึงเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่แนะนำให้รับประทานควบคู่กับการออกกำลังกาย นอกจากได้รูปทรงหน้าอกที่กระชับ สวย เต่งตึง ยังช่วยให้หุ่นดีอีกด้วย

 

อาหารเพื่อสุขภาพในปัจจุบันการหน้าอกเล็กไม่ได้เป็นปัญหาเสมอไป เพราะความสวยเราไม่ได้อยู่เพียงแค่หน้าอกจุดเดียว การสร้างให้ตัวเองดูดีสามารถทำได้หลายรูปแบบ การออกกำลังกายก็เป็นหนึ่งในนั้น สาว ๆ ที่อยากสวยอย่างธรรมชาติสามารถเลือกวิธีนี้ในการสร้างความมั่นใจในตัวเองได้ แต่คงมีสาว ๆ บางคนที่อยากมีความมั่นใจจากหน้าอก ใช่ไหมคะ ? ถ้าหากการออกกำลังอาจยังไม่เพียงพอ เพราะการออกกำลังกายเป็นส่วนช่วยให้หน้าอกที่หย่อนคล้อยในอนาคต กระชับขึ้นและชะลอการหย่อนคล้อยตามอายุ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ถ้าหากเราต้องการทางลัด ที่จะได้หน้าอกสวยทันที อยู่ได้นาน ไม่มีเวลาออกกำลังกาย การเสริมหน้าอกก็เป็นเรื่องน่าสนใจ

 

เพราะปัจจุบันการเสริมหน้าอกก็พบเห็นได้ง่าย ไม่น่าอาย นอกจากจะสวยขึ้นแล้วยังสร้างความมั่นใจให้เราเพิ่มขึ้น ถ้าหากใครที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย ทรงหน้าอกเดิมเล็กอยู่แล้ว ไม่มีเวลา บริหารหน้าอก ลองศึกษาเกี่ยวกับการ เสริมหน้าอก ดูได้นะคะ ไม่เสียหาย

 

การศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่นิยมมาก คือ เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน

 

เป็นที่นิยมมาเนิ่นนาน เพราะให้รูปทรงที่สวย ชัดเจน ช่วยแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยได้ดี ตรงจุด อยู่ได้นาน และมีรูปทรงให้เลือก ตามความต้องการ หรือปัญหาทรงหน้าอกเดิม ซึ่งควรให้ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้แนะนำขนาดและรูปทรง ให้เหมาะสมกับผู้เสริม เพราะแต่ละคนมีปัญหาหน้าอกไม่เหมือนกัน ควรได้รับการศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่เหมาะสมกับผู้เสริมให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ไม่เกิดผลกระทบในอนาคต และอยู่กับเราได้นานที่สุดนั่นเองค่ะ 

 

ซิลิโคน เสริมหน้าอก มีอยู่หลัก ๆ ด้วยกัน 2 แบบ คือ

 

ซิลิโคนทรงกลม 

เป็นทรงที่เหมาะกับผู้ที่มีหน้าอกอยู่แล้วระดับหนึ่ง แต่มีปัญหาหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง การเสริมทรงกลมจะช่วยดันให้หน้าอกเชิดขึ้น ดูเต่งตึงขึ้น ถ้าหากเสริมกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย ซิลิโคนทรงนี้จะเห็นได้ชัดมาก ดูไม่เป็นธรรมชาติ แนะนำกับผู้เสริมที่มีหน้าอกอยู่ระดับหนึ่งมากกว่า ทรงนี้ซิลิโคนเจลจะมีความเหลวกว่า ซิลิโคนทรงหยดน้ำ เมื่อเราทำกิจกรรมต่าง ๆ จะมีความเคลื่อนไหวตามแรงโนมถ่วง อาจหลุดทรงได้ 

 

ซิลิโคนทรงหยดน้ำ

ทรงหยดน้ำ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหน้าอกเดิมเล็กอยู่แล้ว ต้องการเสริมให้ดูมีความเป็นธรรมชาติ ไม่เห็นรูปทรงของซิลิโคนชัดเจน มีความคลายคลึงกับรูปทรงหน้าอกของผู้หญิงทั่วไป ซิลิโคนเจลจะมีความไม่ค่อยยืดหยุ่น เมื่อเวลาทำกิจกรรมต่าง ทำให้ซิลิโคนเคลื่อนไหวได้ยาก มีรูปลักษณะคล้ายหมดน้ำ ทรงสวย หากสาว ๆ ต้องการหน้าอกที่มีรูปทรงเหมือนหน้าอกธรรมชาติ ซิลิโคนทรงหยดน้ำจึงตอบโจทย์

 

นอกจากซิลิโคนมีรูปทรงแล้ว ยังมีผิวสัมผัสด้วยที่แตกต่างกัน และก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกให้เหมาะสม และคำนึงถึงการดูแลในอนาคต โดยหลัก ๆ มี 2 ผิวด้วยกัน 

 

ซิลิโคนผิวเรียบ

ซิลิโคนผิวเรียบ เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย ผิวบาง ซึ่งในการผ่าตัดซิลิโคนผิวเรียบสามารถผ่าตัดใส่ซิลิโคนได้ง่ายกว่า เกิดความบอบช้ำได้น้อย แผลขนาดเล็ก มีความนิ่ม ลื่น มีความเป็นธรรมชาติ แต่ข้อเสียคือ มีโอกาสหลุดทรงได้ และก่อให้เกิดพังผืดได้ง่าย จึงต้องนวดเพื่อลดการเกิดพังผืดสม่ำเสมอ 

 

ซิลิโคนผิวทราย

ซิลิโคนผิวทราย เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้หน้าอกคงรูปชัดเจน เพราะซิลิโคนเนื้อทรายสามารถยึดติดกับผิวได้ดี และอยู่ตัว เคลื่อนตัวได้ยาก โอกาสการหลุดทรงจึงน้อย โอกาสการเกิดพังผืดน้อยกว่าแบบเรียบ การผ่าตัดอาจจะทำได้ยากกว่าแบบผิวเรียบ ข้อเสียคือ การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนผิวทราย อาจทำให้หน้าอกเกิดริ้วคลื่นมากกว่าซิลิโคนผิวเรียบ 

 

เสริมหน้าอกอยู่ได้นานแค่ไหน 

โดยปกติแล้ว ซิลิโคนมีอายุอยู่ได้ตลอด แต่ร่างกายเรา อาจจะต่อต้านกับสิ่งแปลกที่เข้ามาในร่างกาย อาจเกิดการรัดกับซิลิโคนมากขึ้น ยิ่งอายุเยอะยิ่งรัด เพื่อให้ปลอดภัยต่อผู้เสริม ควรตรวจสุขภาพ เพื่อเช็คดูซิลิโคนในร่างกายให้มั่นใจว่า ซิลิโคนไม่ได้เกิดปัญหาในร่างกายเรา ปรกติตรวจเช็คกันเมื่ออายุครบ 10 ปี หากมีปัญหาอาจต้องมีการถอดหรือเปลี่ยนซิลิโคน ขึ้นอยู่กับการดูแลของผู้เสริม ถ้าหากดูแลดีอาจอยู่ได้ถึง 15 ปี 

 

เทคนิคการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอก

ในการผ่าตัดศัยกรรมเสริมหน้าอก มีจุดที่สามารถผ่าตัดได้หลัก ๆ 3 จุด ซึ่งการผ่าตัดจะทำให้เกิดแผล ในแต่ละจุดสามารถมีแผลเป็นได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เสริม การผ่าตัดแต่ละจุดจะใช้วิธีผ่าตัดที่แตกต่างกัน สามารถผ่าตัดได้ 3 จุดในร่างกาย คือ 

  1. ผ่าตัดบริเวณใต้ราวนม เป็นจุดที่สามารถผ่าตัดใส่ซิลิโคนได้ง่ายกว่าจุดอื่น ๆ และสามารถใส่ซิลิโคนได้ตรงจุด ทำให้ได้ทรงหน้าอกที่สวย  มีแผลผ่าตัดสังเกตเห็นได้ยาก เพราะอยู่บริเวณใต้หน้าอก โดยศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดและใส่ซิลิโคน ในจุดที่เหมาะสมกับผู้เสริม ดูแลได้ง่าย

 

  1. การผ่าตัดบริเวณรักแร้ จุดนี้จะมีการผ่าตัดที่ยากกว่าแบบที่ 1 เพราะจะต้องผ่าตัดบริเวณใต้รักแร้ เลาะผิวไปในบริเวณที่ต้องใส่ซิลิโคน วิธีดูแลรักษาอาจยากกว่าการผ่าตัดแบบอื่น แผลอยู่บริเวณใต้รักแร้ ซึ่งการผ่าตัดบริเวณรักแร้ ต้องทำการผ่าตัดโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ เนื่องจากต้องผ่าตัดเข้าไปยังหน้าอก เพื่อใส่ซิลิโคน จึงต้องมีความแม่นยำ ให้เกิดผลกระทบกับส่วนอื่นในบริเวณหน้าอกน้อยที่สุด

 

  1. การผ่าตัดบริเวณรอบปานนม บริเวณรอบปานนมหรือเรียกง่าย ๆ ว่ารอบหัวนม เป็นจุดที่สามารถซ่อนแผลเป็นได้เนียน สามารถเสริมซิลิโคนได้ปริมาณเล็ก ๆ ไม่สามารถเสริมซิลิโคนขนาดใหญ่เกินไปได้ เหมาะกับผู้ที่มีรอบปานนมกว้าง เพื่อซ่อนแผลได้ง่าย และบริเวณรอบปานนมมีเส้นประสาทอยู่มาก อาจมีผลกระทบทำให้หัวนมชา จึงควรผ่าตัดกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการศัลยกรรมเสริมหน้าอกด้วยเทคนิคผ่าตัดบริเวณรอบปานนม 

 

เสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง 

 

เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะมากกับสาว ๆ ที่ต้องการเพิ่มขนาดหน้าอกเล็กน้อย ไม่ต้องใหญ่มาก ได้ความธรรมชาติ โดยไม่ต้องผ่าตัด วิธีการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง จะต้องทำการดูดไขมันในร่างกายส่วนอื่น เพื่อนำมาฉีดเสริมบริเวณหน้าอก อาจมาจาก ต้นขา ต้นแขน หรือหน้าท้อง ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดสัดส่วนบริเวณที่ดูดไขมันออกได้ด้วย แต่ข้อเสียคือ ถ้าหากอัพไซซ์หน้าอกเพิ่มมาก ๆ อาจจะไม่เหมาะ เพราะการเสริมด้วยไขมัน สามารถฉีดเพิ่มได้เพียง 200 – 300 ซีซี ขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้เสริม และไขมันที่นำมาเสริมหน้าอก สามารถสลายหายไปได้ตามธรรมชาติบางส่วน แต่สามารถฉีดเพิ่มได้

 

สามารถทำร่วมกับการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนได้ หรือผู้ที่เสริมหน้าอกแบบซิลิโคนมาแล้วต้องการเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้น สามารถใช้วิธีการเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง ไปเสริมในบริเวณหน้าอกได้ ใครที่มีปัญหาเนื้อบริเวณเหนือหน้าอกน้อย หย่อนคล้าย สามารถใช้วิธีนี้ในการแก้ปัญหาได้

 

แต่ละคนเสริมหน้าอกได้ขนาดไม่เท่ากัน 

 

การเสริมหน้าอกต้องมีการเข้าปรึกษากับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมเสริมหน้าอก เพื่อวิเคราะห์ขนาดหน้าอก ที่เหมาะสมกับผู้เสริมที่สุด ในบางคนอาจมีปัญหาเนื้อหน้าอกน้อย ผิวบาง เกิดเสริมที่ใหญ่เกินไป อาจเกิดปัญหาซิลิโคนแตก ทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการแก้ไข ถ้าหากไม่อยากให้เกิดเหตุแก้ไขในอนาคต ควรเสริมให้อย่างเหมาะสมกับตัวเองที่สุด 

 

นอกจากปัญหาซิลิโคนแตกแล้ว ควรคำนึงถึงผลกระทบอื่นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย นั่นคือการเกิดนมแฝด หรือนมห่าง 2 ปัญหานี้ต้องให้ศัลยแพทย์ทำการแก้ไขให้ ซึ่งมักเกิดขึ้นกับการทำศัลยกรรมกับสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ศัลยแพทย์ไม่ชำนาญในการผ่าตัด จึงแนะนำให้ผู้เสริมควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาล เพื่อให้ได้รับการศัลยกรรมผ่าตัดได้อย่างถูกต้อง และปลอดภัย

 

ปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้ ถ้าศัลยกรรมเสริมหน้าอกมาไม่ดี

 

นมห่าง 

เกิดจากโครงสร้างของกระดูกบริเวณหน้าอก ทำให้หน้าอกห่างกัน มีเนื้อหน้าอกน้อย เกิดพังผืดบริเวณซิลิโคน ทำให้ซิลิโคนรั้งออกห่างจากกัน หน้าอกจึงห่างกัน หรือการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกที่ไม่ดี ใส่ซิลิโคนห่างกัน ซึ่งสามารถสังเกตเห็นได้ชัด ถ้าหากหน้าอกสองข้างห่างกันมากเกินไป ควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อรับการแก้ไข

 

นมแฝด

เกิดจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่เกินความเหมาะสมของผู้เสริม เสริมหน้าอกบริเวณเหนือกล้ามเนื้อ หรือการศัลยกรรมผ่าตัดที่มีความใกล้กับกระดูกส่วนกลางมากเกินไป ทำให้เกิดการซิลิโคนเคลื่อนเข้าหากัน มีลักษณะชิดกัน อาจนวดบริเวณซิลิโคนแรงจนเกินไป ทำให้มีโพรงถูกยืดออกทำให้ซิลิโคนไหลเข้าหากัน สังเกตบริเวณกลางหน้าอก ถ้าหากสองข้างมาความใกล้ชิดกันเกินไป จนร่องหน้าอกหาย ควรปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อรับการแก้ไข้

 

การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก 

 

ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐาน มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าสถานพยาบาลแห่งนี้ ปลอดภัย และผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกของผู้เสริมด้วยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ทำให้เกิดปัญหาตามมา โดย APEX เป็นศูนย์ความงามที่ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก ด้วยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ ใช้เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย และห้องผ่านตัดที่ผ่านการรับรอง JCI ปลอดภัย และได้หน้าอกที่เหมาะสมกับผู้เสริมได้อย่างแน่นอน 

 

นอกจากนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของผู้เสริมด้วย โดยทำตามศัลยแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด โดยการเสริมหน้าอก อาจต้องมีการนวดเพื่อลดพังผืดและใส่ชุดชั้นในสำหรับผู้เสริมหน้าอก หรือ ใส่เป็นสปอร์ตบาร์ เพื่อให้หน้าอกอยู่ทรง ไม่เคลื่อนหลุดจากทรงที่ทำศัลยกรรม รวมถึงการใช้ชีวิตประจำวันต่าง ๆ ควรหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้กระทบกระเทือนต่อหน้าอก ในช่วงแรก ๆ เพื่อให้แผลฟื้นฟูได้ดี และไม่มีปัญหา

 

การเตรียมตัวก่อนการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก

  1. งดอาหารและเครื่องดื่ม ก่อนการผ่านตัด 6 – 8 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของผู้เสริม เนื่องจากระหว่างผ่าตัดผู้เสริมอาจเกิดอาการสำลักอาหาร ซึ่งเป็นอันตราย
  2. งดยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวด เพราะยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวด อาจทำให้เลือดแข็งตัวได้ช้า เพื่อการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพควรงด
  3. งดอาหารเสริมและวิตามิน เพราะอาหารเสริมและวิตามิน สามารถไปกระตุนการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด อาจทำให้เลือดหยุดไหลได้ช้า ซึ่งเป็นอันตรายกับผู้เสริม
  4. งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เนื่องจากแอลกอฮอล์และบุหรี่อาจทำให้แผลติดเชื้อได้ และทำให้แผลหายได้ช้า
  5. ควรแจ้งโรคประจำตัวและยาที่ต้องรับประทานประจำ กับศัลยแพทย์ เพื่อได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมที่เหมาะสมและปลอดภัยกับผู้เสริมที่สุด

 

การดูแลตัวเองหลังการทำศัลยกรรมเสริมหน้าอก

  1. ควรรับประทานยา และปฏิบัติตามที่ศัลยแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เพื่อลดโอกาสการเกิดปัญหาที่อาจทำให้ต้องแก้ไข 
  2. งดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้แผลติดเชื้อ และหายได้ช้ายิ่งขึ้น
  3. งดอาหารประเภท หมัก ดอง เพราะอาจไม่สะอาด และทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อได้
  4. หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ ในน้ำอาจมีเชื้อโรค เสี่ยงทำให้แผลติดเชื้อ และอักเสบ
  5. งดออกกำลังกาย 2 – 3 สัปดาห์ เพราะการออกกำลังกาย อาจมีผลกระทบต่อแผลบริเวณที่ผ่าตัดศัลยกรรม เป็นอันตราย
  6. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เกิดการกระทบต่อหน้าอก อาจส่งผลให้เกิดปัญหากับแผลบริเวณหน้าอก
  7. ควรใส่ชุดชั้นในสำหรับผู้เสริมหน้าอก หรือ สปอร์ตบาร์ เพื่อล็อคทรงหน้าอกที่เสริม ไม่ให้ซิลิโคนเคลื่อนที่ ที่ก่อให้เกิดการเสียทรง
  8. ควรนวดหน้าอก เนื่องจากการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน อาจสร้างพังผืด ถ้าหากไม่ได้รับการนวด พังผืดจะแข็งตัว ทำให้ต้องเข้าสู่กระบวนการแก้ไข การนวดจะช่วยลดปัญหาพังผืดแข็งตัว

 

ความรู้สึกของผู้เสริมหน้าอกกับ APEX 

 

Q : ทำไมถึงเลือกศัลยกรรมกับ APEX ?

A : ออยหาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับคลินิคเสริมหน้าอก แล้วพบว่า สมัยนี้มีคลีนิคเสริมหน้าอกเยอะมากก ใช้เวลาหาข้อมูลเป็นเดือนเลยค่ะ ทั้งหาในอินเทอร์เน็ต และ จากการสอบถามคนรอบข้างที่เคยเสริมหน้าอกมา ซึ่งทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและต้องได้มาตรฐาน ตลอดจนถึงประสบการณ์และศักยภาพของทีมศัลยแพทย์ เพราะนี่เป็นการเสริมหน้าอกครั้งแรกของออย และจะอยู่กับออยตลอดไป ออยจึงต้องมั่นใจและใส่ใจกับทุกรายละเอียด ดังนั้น ด้วยเหตุผลที่กล่าวมา ทำให้ลงเอยที่ APEX ค่ะ เพราะเป็นคลีนิคที่ตอบโจทย์ออยได้ทุกข้อ ทั้งมีมาตรฐานและความสะอาด ปลอดภัย รวมถึงศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ และที่สำคัญโปรโมชั่นเด็ดมาก ๆ ค่ะ

 

Q : คุณออยศัลยกรรมเสริมหน้าอกแบบไหน ?

A : ออยเข้าปรึกษากับศัลยแพทย์ โดยบอกขนาดที่ต้องการเสริม ซึ่งศัลยแพทย์แนะนำทางเลือก 2 ทางด้วยกัน คือ ขยายฐานหน้าอกให้ลงต่ำ เพราะหน้าอกเดิมของออยสูงอยู่แล้ว อาจมีรอยพับในช่วงแรก ประมาณ 3 – 4 เดือน แล้วรอยจะหายไปเอง หรือ ลดขนาดซิลิโคนลง หน้าอกจะได้ไม่สูงเกินไป ซึ่งออยต้องการเสริมขนาด 400 ซีซี ออยจึงตัดสินใจเลือกตัวเลือกแรก เพราะ 400 ซีซี เป็นขนาดที่ออยตั้งใจไว้แล้ว โดยออยศัลยกรรมเสริมหน้าอก โดยใช้ซิลิโคนยี่ห้อ Mentor ผ่านการรับรอง อย. ประเทษไทย และผ่านการรับรองจาก FDA ประเทศอเมริกา จึงทำให้เรามั่นใจ ว่าจะได้หน้าอกที่สวยแน่นอน

 

Q : หลังทำแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ?

A : หลังผ่าตัดแล้วรู้สึกชิลล์มาก ๆ ค่ะ ออยสามารถเดิน นั่ง ยกแขน ทำทุกอย่างได้ปรกติ ไม่เหมือนที่กลัว แต่ต้องระวังเรื่องการยกของ และออกกำลังกายแบบหักโหม อาจเป็นผลไม่ดีหรือมีผลกระทบต่อการฉีกของแผลได้ค่ะ

 

หลังทำมาประมาณหนึ่งเดือน รู้สึกประทับใจมาก ๆ ที่ได้เสริมหน้าอกกับ APEX เพราะความน่ารักและความเอาใจใส่ของศัลยแพทย์และพนักงาน นอกจากนี้ยังช่วยศัลยกรรมเสริมหน้าอกใหม่ที่ใหญ่และไฉไลกว่าเดิม ที่สำคัญยังดูเป็นธรรมชาติ ทรงสวย ไม่หลอกตา ปลืมมาก ๆ ค่ะ

เสริมหน้าอก

การศัลยกรรมเสริมหน้าอกจำเป็นอย่างมากที่ต้องศัลยกรรมกับสถานพยาบาลที่ปลอดภัย APEX เป็นศูนย์ความงามที่มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมเสริมหน้าอก โดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย และห้องผ่าตัดที่ผ่านการรับรอง JCI ให้บริการโดยบุคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบริการต่าง ๆ ผู้เสริมจึงมั่นใจได้ว่าการทำศัลยกรรมที่นี้ปลอดภัยแน่นอน

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ศัลยกรรมหน้าอก

โทร : 0888-7000-39
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurgery