5 วิธีดูแลตัวเองหลังคลอด ให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว แถมหุ่นปัง

คุณแม่หลังคลอดที่กำลังเจอกับปัญหากังวลใจ ทั้งเรื่องร่างกายที่เปลี่ยนแปลง เป็นช่วงที่หลังคลอดลูกน้อยแล้วจะต้องดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง อยู่ไฟจำเป็นไหม ถ้าน้ำนมไม่ไหลจะทำอย่างไรได้บ้าง หรือเลี้ยงลูกจนไม่มีเวลาดูแลหุ่น หรือลดน้ำหนักหลังคลอด ทำอย่างไรดี เราจึงมีวิธีดูแลตัวเองหลังคลอดมาฝากกัน

 

สภาพจิตใจ

“ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด” เป็นสภาวะจิตใจที่คุณแม่หลังคลอดมีโอกาสเป็นได้ทุกคน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนกับโปรเจสเตอโรนที่ต่ำลงทันทีหลังคลอด ทำให้มีอารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า และวิตกกังวล ซึ่งส่งผลให้เกิดความเครียดจนเกิดการเบื่ออาหารหรืออดอาหารได้ โดยอาการนี้จะเป็นไม่เกิน 6 สัปดาห์ และอาจไม่เกิดขึ้นกับคุณแม่หลังคลอดทุกคน 

 

ในระหว่างนี้ให้คุณแม่หาเวลาว่างจากการเลี้ยงลูกน้อย หากิจกรรมผ่อนคลาย หรือทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบ หรือจะเป็นการเดินออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เพื่อไม่ให้รู็สึกเครียดจนเกินไป 

 

สภาพร่างกาย

การเปลี่ยนแปลงทางด้านสภาพร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัวที่ไม่ลดลง มีพุงเป็นชั้น ๆ เนื้อปลิ้นข้างรักแร้ หรือผิวเกินตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หน้าท้องหย่อนยาน มีรอยแตก เซลลูไลท์ที่ต้นขา เต้านมไม่กระชับจากการให้นมลูกน้อย 

 

5 วิธีดูแลตัวเอง หลังคลอด กู้หุ่นปัง

  1. พักผ่อนให้เพียงพอ

คุณแม่หลังคลอดที่เลี้ยงลูกน้อยด้วยตัวเอง จะใช้พลังงานในการเลี้ยงลูกอย่างมาก หากไม่มีการพักผ่อนที่เพียงพอ ร่างกายจะรู้สึกอ่อนเพลีย ส่งผลให้การฟื้นฟูกล้ามเนื้อและมดลูกให้กลับมาอยู่ในสภาพปกติได้ช้า

นอกจากนี้ ความเหนื่อยและความอ่อนเพลียจะทำให้คุณแม่เกิดความอยากอาหารมากขึ้น ส่งผลให้อ้วนและมีส่วนเกินได้ โดยการพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง

 

  1. กินอาหารที่มีประโยชน์

ในขณะตั้งครรภ์คุณแม่ต้องงดอาหารหลายประเภทที่อาจจะส่งผลกับลูกน้อยในท้อง ทำให้เมื่อคุณแม่คลอดลูกน้อยแล้วอาจจะทำให้เกิดอาการอยากอาหารมากกว่าปกติ จึงทำให้คุณแม่กินอาหารมากขึ้น ซึ่งหากกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ในปริมาณมากจะส่งผลต่อน้ำนม และส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงด้านรูปร่างของคุณแม่ด้วย

 

โดยคุณแม่ควรงดอาหารรสจัด ของหมักดอง คาเฟอีน และแอลกอฮอล์ และอาหารที่มีประโยชน์ที่ย่อยง่าย รสไม่จัด และมีกากใยมาก อาหารทะเล เพื่อเอาไปสร้างน้ำนมให้ลูก และเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว หุ่นกลับมาดูดี ส่วนไขมันและคาร์โบไฮเดรต และน้ำตาล ควรกินให้น้อยลง

 

  1. ทำความสะอาดเต้านมอยู่เสมอ

การให้ลูกดื่มนมบ่อย ๆ จะช่วยทำให้คุณแม่เผาผลาญแคลอรี่ได้ประมาณ 500 ต่อวัน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาคือการเกิดอาการคัดเต้านมที่ส่งผลให้ท่อน้ำนมอุดตันได้ เนื่องจาก มีสิ่งติดค้างอยู่ที่หัวนมทำให้น้ำนมไหลไม่สะดวก คุณแม่จึงควรทำความสะอาดหัวนมให้สะอาด นอกจากนี้ แม่ควรกระตุ้นน้ำนมให้ไหลด้วยการให้ทารกดูดนมทันทีหลังคลอดและดูดบ่อย ๆ ทุก 2 ชั่วโมงสลับข้างกัน จะทำให้น้ำนมไหลได้มากขึ้น 

 

  1. การอยู่ไฟ

การอยู่ไฟทำให้ร่างกายฟื้นตัวและแข็งแรงเร็วยิ่งขึ้น ช่วยลดน้ำหนักหลังคลอด สามารถลดการบวม ลดหน้าท้อง จากการขยายตัวให้ลดลงและช่วยทำให้กระชับมากขึ้น สามารถเริ่มอยู่ไฟหลังจากผ่าคลอดแล้ว 30-45 วัน เนื่องจากต้องรอให้แผลผ่าตัดแห้งสนิทเสียก่อน

 

  1. ออกกำลังกาย

พุงหลังคลอดเกิดจากกล้ามเนื้อหน้าท้องทั้ง 2 ซีก ยืดขยายออกเพื่อรองรับการขยายตัวของมดลูก ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างกล้ามเนื้อหน้าท้องด้านซ้ายและด้านขวากว้างขึ้น เมื่อคลอดแล้วกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แยกออกจะยังไม่ยุบลงทันทีต้องอาศัยการออกกำลังกายที่ถูกต้องหลังคลอดด้วย ทำให้เมื่อกินอาหารแม้จะน้อยนิดก็ทำให้พุงยื่นได้ ซึ่งการออกกำลังกายจะทำให้กล้ามเนื้อที่แยกออกจากกันกลับมาชิดมากขึ้น

 

Emsculpt เทคโนโลยีหนึ่งเดียวในปัจจุบันที่สามารถกำจัดไขมันควบคู่กับการสร้างกล้ามเนื้อ  ทำงานโดยการใช้เทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าแบบเฉพาะเจาะจง High-In Tensity Focused Electro-Magnetic (HIFEM) ส่งพลังงานเข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเกิดการหดเกร็งถึง 20,000 ครั้งต่อการทำทรีทเมนท์ 30 นาที เทียบเท่ากับการยกเวทหนัก ๆ แล้วทำ Sit up ไปด้วยพร้อม ๆ กัน 20,000 ครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงเราแทบจะไม่สามารถออกกำลังกายแบบนี้ได้เลย 

ทั้งนี้การหดตัวของกล้ามเนื้อจะสามารถสร้างมวลกล้ามเนื้อใหม่ ทำให้มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น สามารถสร้างเส้นใยกล้ามเนื้อ เพื่อเพิ่มจำนวนกล้ามเนื้อให้ทนทานแข็งแรงและอยู่ได้นานขึ้น ส่งผลให้รูปร่างกระชับ มีกล้ามเนื้อหน้าท้องและซิกแพค พร้อม ๆ กับการเผาผลาญไขมันและการทำลายเซลล์ไขมัน 

 

ต้องทำบ่อยแค่ไหน ต้องพักฟื้นหรือไม่

Emsculpt  ควรทำ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เหมือนกับการออกกำลังกายปกติ และสามารถทำทรีทเมนท์เพียง 4-6 ครั้งเท่านั้น ก็จะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว ที่สำคัญไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น

 

*** ผลการวิจัย แสดงถึงความพึงพอใจต่อการรักษามากถึง 96% และโดยเฉลี่ยมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น 16% และไขมันลดลง 19%

APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Emsculpt ได้รับการรับรองประสิทธิภาพและความปลอดภัย US FDA Approved ย่อมาจาก Food and Drug Administration ซึ่งเรามีเครื่อง Emsculpt มากที่สุดในประเทศไทย และมีประสบการณ์ทำเคสมากที่สุดเช่นกัน

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและสัดส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 095-102-8585
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/