5 เรื่อง BOTOX ที่คุณ(อาจ)ยังไม่รู้

5 เรื่อง Botox โบท็อกซ์ ที่คุณอาจยังไม่รู้

Botox กับเรื่องไม่ลับที่คุณอาจยังไม่รู้

Botox หรือ โบท็อกซ์ เป็นชื่อทางการค้าของผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยจากบริษัทแอลเลอร์แกน (Allergan) เป็นผู้พัฒนา ผลิตและจัดจำหน่ายเวชภัณฑ์รายใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา ชื่อโบท็อกซ์ที่ถูกเรียกจนติดปากนี้แท้จริงแล้วคือสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ไทป์ เอ (Botulinum Toxin Type A) เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium Botulinum)

เมื่อฉีดโบท็อกเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ หลักการทำงานคือ Botulinum Toxin ที่ฉีดเข้าไป จะไปจับตัวกับปลายประสาทที่เชื่อมต่อกับส่วนปลายของเซลล์ประสาททำให้เกิดการยับยั้งสารสื่อประสาทที่เรียกว่า Acetylcholine ส่งผลให้การขยับกล้ามเนื้อบริเวณนั้นลดน้อยลง ความหย่อนคล้อยและริ้วรอยต่างๆ ที่เคยเกิดจากการแสดงสีหน้า หรืออารมณ์จะจางลงจนหายไป รวมถึงสามารถลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลงได้ด้วย

เริ่มแรกที่นำมาใช้ คือ ในวงการแพทย์ระบบประสาท เพื่อรักษาเกี่ยวกับอาการเกร็งกระตุกของกล้ามเนื้อบริเวณรอบตา จนพบว่าผลข้างเคียงที่ดีอย่างหนึ่งของสารสกัดโบทูลินั่ม ท็อกซิน ช่วยให้ริ้วรอยอย่างตีนกาหายไปได้ด้วย จึงเป็นจุดกำเนิดการพัฒนาโบท็อกซ์มาใช้อย่างแพร่หลายในการเสริมความงามจนได้รับความนิยมถึงปัจจุบันนี้

หลายคนอาจจะทราบถึงหลายๆ เรื่องของโบท็อกซ์กันดีอยู่แล้ว ทั้งด้านการรักษาโรคและเสริมความงาม แต่โบท็อกซ์ยังมีเรื่องลับๆ ที่ไม่ลับอีกหลายข้อที่ไม่ค่อยได้ผ่านสายตาของคุณ ในบทความนี้ เราเลยรวบรวมเรื่องนอกสายตาของโบท็อกซ์ที่คุณ(อาจ)ยังไม่รู้มาให้อ่านกัน 5 เรื่อง

โบท็อกซ์ คือ

1. Botulinum Toxin Type A เป็นที่นิยมที่สุดในวงการเสริมความงาม

สาร Botulinum Toxin ที่นำมาใช้ในวงการเสริมความงามเพื่อการยกกระชับ ลดเลือนริ้วรอย มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด ได้แก่ Botulinum Toxin Type A และ Botulinum Toxin Type B ซึ่งผลิตภัณฑ์ Botox ที่นิยมใช้ในประเทศไทย เป็น Botulinum Toxin Type A ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนและรับรองจากอย.ของไทยแล้ว จึงมั่นใจในเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย

สารโบทูลินั่ม ท็อกซินไทป์เอ สามารถแบ่งได้เป็น 7 ชนิด ตั้งแต่ Type A จนถึง G แยกย่อยตามสายพันธุ์ของเชื้อ Clostridium Botulinum นั่นเองและเหตุที่ Botulinum Toxin Type A ได้รับความนิยมที่สุด เพราะเป็นเพียงชนิดเดียวที่ได้การยอมรับจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (FDA) ซึ่งในกระบวนการผลิตต่างๆ เพื่อสกัดให้เกิดความบริสุทธิ์มากที่สุดจะอยู่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัย เมื่อเพาะเชื้อจนสำเร็จแล้ว จะทำการแยกออกมาเพื่อผลิตเป็นสารลดเลือนริ้วรอย ซึ่งก่อนนำออกจำหน่ายสู่ท้องตลาดจะมีการทดสอบ เพื่อยืนยันความปลอดภัยและผลการรักษาก่อนเสมอ

smile face

2. โบท็อกซ์ ช่วยลดความรู้สึกแย่ๆ ได้

มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งของวิทยาลัย Barnard ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับผลข้างเคียงอย่างหนึ่งของการฉีดโบท็อกซ์ พบว่าหลังจากการฉีดโบท็อกซ์ คนที่ได้รับการฉีดจะไม่สามารถสัมผัสถึงความรู้สึกที่เกิดขึ้นได้ หรือเราไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อเพื่อแสดงออกทางสีหน้าได้

งานวิจัยยังระบุถึงการทดลองว่า พวกเขาได้แบ่งผู้เข้าร่วมทดลองออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 ได้รับการรักษาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ ส่วนกลุ่มที่ 2 ได้รับการรักษาด้วยการฉีดฟิลเลอร์จากนั้นให้ผู้เข้าร่วมทดลองทั้ง 2 กลุ่ม ดูคลิปวิดีโอที่ทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ ทั้งก่อน-หลังฉีด ปรากฏว่าหลังจากที่ฉีดสารทั้งสองตัวเข้าไปแล้วในผู้เข้าทดลองกลุ่มที่ 2 ที่ฉีดฟิลเลอร์มีการตอบสนองต่อความรู้สึกต่างๆ ได้ดีมากกว่ากลุ่มที่ 1 ที่ฉีดโบท็อกซ์ จึงถือว่าการทดลองนี้สามารถตอบสมมติฐานเรื่อง กล้ามเนื้อกับความรู้สึกมีความเกี่ยวเนื่องกันได้นั่นเอง 

‘คนเรามีความรู้สึกเพราะว่ากล้ามเนื้อเคลื่อนไหว และเพราะกล้ามเนื้อเคลื่อนไหวเราถึงรู้สึก’

3. โบท็อกซ์ ช่วยลดหน้ามัน

หลายคนอาจทราบแล้วว่าการฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยลดการเกิดเหงื่อตามฝ่ามือ รักแร้ ฝ่าเท้าได้ แต่ยังมีอีกผลลัพธ์หนึ่งที่โบท็อกซ์สามารถทำได้เช่นกัน คือ ลดหน้ามัน

หลักการทำงานของโบท็อกซ์เพื่อลดความมันบนใบหน้าจะเหมือนกับการฉีดเพื่อลดเหงื่อ โดยทำการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เข้าสู่กล้ามเนื้อและชั้นผิวในปริมาณน้อยและจะฉีดเป็นจุดเล็กๆ ไปทั่วบริเวณที่ต้องการ เพื่อให้สารโบท็อกซ์ไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณรอบๆ ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันบนผิวหน้าผลลัพธ์ที่ได้คือรูขุมขนกระชับมากขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้นความมันบนใบหน้าก็จะลดลงด้วย ออกฤทธิ์ได้นาน 2-3 เดือน ส่วนการฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดเหงื่อตามฝ่ามือ รักแร้ ฝ่าเท้า จะออกฤทธิ์นาน 4-6 เดือน

4. โบท็อกซ์บ่า – ไหล่ ลดออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) โรคยอดฮิตในหมู่คนวัยทำงาน จากพฤติกรรมต้องนั่งอยู่กับที่วันละหลายๆ ชั่วโมงบวกกับการขยับเขยื้อนร่างกายน้อยเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ หดตัวเกร็งรู้ตัวอีกทีก็ปวดหนึบจนร้องโอดโอย ต่อให้บีบนวด กดจุด กินยาแก้ปวดหรือทายาคคลายเส้นก็ไม่หายขาดและการการกินยาแก้ปวดบ่อยๆ อาจทำให้เกิดการดื้อยา จนไม่สามารถบรรเทาความปวดได้อีก ด้วยเหตุนี้โบท็อกซ์เลยเข้ามามีบทบาทในเรื่องรักษาออฟฟิศซินโดรม

โบท็อกซ์ช่วยคลายกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดเข้าไปบริเวณบ่าและไหล่ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้แทบจะทันทีหลังฉีดเสร็จ และผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน 4-6 เดือน การช่วยลดปวดเมื่อยกล้ามเนื้อของโบท็อกซ์นี้จะส่งผลได้ในระยะยาวเลย ซึ่งคุณเองก็ต้องไม่ทำแบบเดิมอีก เช่น นั่งทำงานในท่าเดิมนานเกินไป หรือทำงานหนักเกินจนทำร้ายกล้ามเนื้อให้ปวดเกร็งอีก เป็นต้น ซึ่งเป็นการรักษาออฟฟิตซินโดรมที่ทางการแพทย์แพทย์ทั่วโลกยอมรับ

5. โบท็อกซ์ ช่วยปรับบุคลิกภาพ เสริมความมั่นใจ

นอกจากโบท็อกซ์จะช่วยปรับรูปลักษณ์ใบหน้าให้คุณมั่นใจมากขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยปรับบุคลิกให้คุณได้อีกด้วย ซึ่งโบท็อกซ์สามารถฉีดที่กล้ามเนื้อทุกส่วนทั่วร่างกายของเราได้ เลยมีการนำมาปรับใช้เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจอยู่ด้วยเหมือนกัน

หากใครหลายคนที่ชอบนั่งก้มหน้าหรือก้มหลังบ่อยๆ เป็นประจำจนกล้ามเนื้อเคยชินและยึดไว้ในท่าที่คล้ายการห่อไหล่หรือค้อมหลัง ส่งผลให้เวลายืน เดินหรือนั่งดูเสียบุคลิกไป ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์เลยถือว่าเป็นหนึ่งในหนทางที่แก้ปัญหาเรื่องบุคลิกได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณช่วงไหล่ให้กลับมายืดขึ้นได้ โดยช่วยแก้ความไม่บาลานซ์ของคอกับไหล่ได้ด้วย ช่วยปรับไหล่และช่วงคอให้ดูสมส่วนขึ้น อีกทั้งใครที่ไหล่ตก ไหล่สองข้างไม่เท่ากัน ไหล่กว้างเกินไป ก็สามารถใช้การฉีดโบท็อกซ์ช่วยแก้ไขได้เช่นกัน

เพราะเรารู้ว่าโบท็อกซ์เป็นได้มากกว่าความงาม หากยังลังเลว่าจะฉีดโบท็อกที่ไหนดีต้องเลือกสถานที่ปลอดภัยได้ตามมาตรฐานสากล และต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลให้คำแนะนำ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่วางแผนไว้ และดูเป็นธรรมชาติให้มากที่สุด เอเพ็กซ์ของเราจึงเลือกใช้แต่โบท็อกซ์ของ Allergan เพราะมีความบริสุทธิ์สูงไม่เสี่ยงต่อการดื้อยา และเรายังมี Training Center ของเราเองไว้ เพื่อคอยอัพเดทเทคนิคและฝีมือการรักษาให้แก่ทีมแพทย์และพนักงานของทางเอเพ็กซ์รวมไปถึงเรายังมีอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นมือหนึ่งในประเทศไทยคอยคิดค้นเทคนิคต่างๆ ให้ตอบโจทย์และเป็นประโยชน์กับผู้เข้ารับการรักษาอยู่เสมอ

เรื่องฉีดโบท็อกซ์ต้องที่เอเพ็กซ์! ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่กังวลรูปใบหน้าของตัวเองอยู่ และยังไม่แน่ใจว่าเหมาะกับการฉีดโบท็อกซ์หรือไม่ สามารถขอคำแนะนำ/ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี@นำหน้า) หรือที่คลินิกเอเพ็กซ์กว่า 30 สาขาทั่วประเทศไทย