จดด่วน! 5 วิธี ยืดอายุโบท็อก Botox ที่ฉีดไป ให้อยู่นานขึ้น
การฉีดโบท็อก Botox เรียกได้ว่าเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้า หรือต้องการลดริ้วรอย เพราะเป็นวิธีที่สะดวก ขั้นตอนการรักษาไม่ยุ่งยาก ไม่เจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น แถมยังเห็นผลลัพธ์รวดเร็วอีกด้วย ทำให้การฉีดโบท็อกได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง
บางคนที่เพิ่งเริ่มฉีดโบท็อก หรือแม้แต่คนที่ฉีดมานานแล้ว อาจจะมีข้อสงสัยว่าทำอย่างไรให้โบท็อกที่เราฉีดเข้าไปสามารถคงผลลัพธ์ได้อย่างยาวนาน วันนี้เราเลยมี 5 วิธี ยืดอายุโบท็อก Botox ที่ฉีดไป ให้อยู่นานขึ้นมาฝากกัน รับรองว่าทำตามทั้ง 5 วิธีนี้ โบท็อกจะอยู่ได้นานกว่าเดิมแน่นอนค่ะ
เลือกฉีดโบท็อกอย่างไรให้ปลอดภัย
เนื่องจากการฉีดโบท็อกได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จึงเป็นที่ต้องการสูง ดังนั้นของปลอมที่ไม่ผ่านมาตรฐาน หรือไม่มีคุณภาพจึงระบาดหนัก ซึ่งถ้าเราไม่ตรวจสอบให้ดีก่อนฉีด หรือเลือกฉีดกับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หมอกระเป๋าต่าง ๆ ก็อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ ตั้งแต่ฉีดแล้วไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลง หรือฉีดไปแล้วหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว ตาตก ไปจนถึงเคสหนัก ๆ อย่างติดเชื้อได้เช่นกัน ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อกควรศึกษาหาข้อมูลเป็นอย่างดีก่อนทุกครั้ง โดยมีวิธีการเลือกฉีดโบท็อกให้ปลอดภัย ดังนี้
- โบท็อกของแท้ : มีคุณภาพ สามารถตรวจสอบได้จากบริษัทผู้นำเข้า หรือแสกน QR Code ข้างกล่องโบท็อก ซึ่งผู้ที่เข้ารับบริการฉีดโบท็อกควรศึกษาข้อมูล วิธีการดูโบท็อกแท้ไว้ล่วงหน้า เมื่อไปฉีดจะได้สามารถตรวจเช็ดได้อย่างถูกต้อง
- คลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ : มีมาตรฐาน สะอาด ปลอดภัย มีเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย ที่สำคัญต้องมีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง รวมทั้งมีรีวิวจากผู้เข้าใช้บริการจริง เพื่อช่วยให้เรามั่นใจกับผลลัพธ์ที่ได้มากขึ้น นอกจากนั้นควรดูที่การบริการทั้งก่อนและหลังด้วย คลินิกสามารถให้คำแนะนำ ปรึกษาได้ง่าย ไม่ทิ้งคนไข้
- แพทย์มีความเชี่ยวชาญสูง : การฉีดโบท็อกแม้จะใช้เวลาไม่นาน แต่แพทย์จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญ ความรู้และประสบการณ์เป็นอย่างมาก เพื่อลดความเสี่ยงในการฉีดพลาด ไม่ตรงจุดของปัญหา ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้
5 เคล็ด(ไม่)ลับ ยืดอายุโบท็อก Botox
1.ขยับบริเวณที่ฉีด
ไม่ว่าจะเป็นการฉีดลดกราม ลดริ้วรอยก็ตาม หลังฉีดโบท็อกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เราขยับบริเวณที่ฉีดทันที เพื่อให้สารโบท็อกกระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อ และออกฤทธิ์ได้ดีมากขึ้น ดังนั้นคนที่กำลังไปฉีดโบท็อกลดกราม ควรพกหมากฝรั่งติดไปด้วย หลังฉีดให้เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือกัดฟัน ส่วนคนที่ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย ให้พยายามขยับกล้ามเนื้อส่วนที่ฉีด เช่น เลิกคิ้ว ยิ้ม ทุก 15 นาที ประมาณ 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด
2.หลีกเลี่ยงการสัมผัส
ไม่ว่าจะฉีดโบท็อกยี่ห้ออะไรมา ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการจับ บีบ กด นวด คลึงบริเวณที่เพิ่งฉีดโบท็อกไป เนื่องจากจะส่งผลต่อการกระจายตัวของสารโบท็อก ทำให้เคลื่อนที่ไปยังกล้ามเนื้อบริเวณที่ไม่ต้องการได้ โดยให้งดการสัมผัสประมาณ 6-8 ชั่วโมงหลังฉีด
3.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงอาหารประเภทหมักดอง เนื่องจากแอลกอฮอล์จะไปเพิ่มการทำงานของระบบไหลเวียนเลือด และทำให้โบท็อกเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่วนอาหารหมักดองในบางเคสอาจทำให้เกิดอาการบวมได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน และมีความปลอดภัยควรงดเครื่องดื่ม และอาหารเหล่านี้ ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด
4.งดการเลเซอร์
ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีความร้อน หรือมีอุณหภูมิสูงมาก ๆ โดยเฉพาะการทำเลเซอร์ การอบซาวน่า อบไอน้ำ หรือออกกำลังกายอย่างหักโหม ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด เนื่องจากความร้อนจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการหดและคลายตัวได้เร็วขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้โบท็อกที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ไปยังกล้ามเนื้อส่วนอื่นที่เราไม่ต้องการได้ ส่วนการทำกับข้าวหน้าเตา หรือออกกำลังกายเบา ๆ ไม่ถือเป็นความเสี่ยง ยังสามารถทำได้
5.ทานอาหารที่มี ZINC
มีการศึกษาบางชิ้นกล่าวไว้ว่าการรับประทานอาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสี หรือ Zinc ทั้งก่อนและหลังฉีดโบท็อก จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ไว้มากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกอยู่ได้นานมากขึ้นอีกด้วย แต่ควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรทานมากเกินไป เพราะจากที่เป็นคุณอาจจะให้โทษได้ ดังนั้นปริมาณสูงสุดที่ทานได้คือ ไม่ควรเกิน 40 มิลลิกรัมต่อวัน โดย Zinc มีมากในอาหารจำพวก ไข่ ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ข้าวกล้อง ถั่วแดง ถั่วดำ เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผักบางชนิด เช่น ผักคะน้า หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น
นอกจากนั้นแล้วการฉีดโบท็อก Botox เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้ยาวนาน เราสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ แต่ควรเว้นระยะห่างจากการฉีดแต่ละครั้งประมาณ 3-4 เดือน ทั้งนี้ไม่ควรฉีดถี่ หรือติดกันเกินไป เพราะจะทำให้เกิดภาวะดื้อโบท็อก ซึ่งอาจทำให้เราฉีดโบท็อกครั้งต่อไปแล้วไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงอีกเลยก็เป็นได้