อีกหนึ่งปัญหาของคุณแม่หลังคลอดที่มักจะมีปัญหาในเรื่องของหน้าอกไม่กระชับ เนื่องจากระหว่างการให้นมบุตรนั้นหน้าอกจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปในระหว่างที่ให้นมบุตรสักพักหน้าอกจะมีขนาดเล็กลง และเริ่มมีลักษณะหย่อนคล้อย แต่แท้จริงแล้วปัญหาของหน้าอกที่ไม่กระชับสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกวัยไม่เว้นแม้แต่คุณแม่หลังคลอดโดยอาการข้างต้นนี้ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่กำลังประสบพบเจอกับปัญหานี้เริ่มมีความวิตกกังวล และเป็นปัญหากวนใจอยู่ตลอดเวลา
ปัญหาต่อไปที่ตามมาของคุณแม่หลังคลอด คือ ไขมันส่วนเกินเยอะ และผิวหนังบริเวณหน้าท้องหย่อนคล้อย ไม่กระชับ ปัญหานี้เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ เนื่องจากร่างกายของคุณแม่หลังคลอดนั้นจะเริ่มมีอาการในลักษณะที่ปรับตัว และน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นไปจากเดิมในช่วงเวลาที่ตั้งครรภ์ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปหลังจากที่คลอดบุตรไปแล้ว ร่างกายหรือรูปร่างของคุณแม่บางท่านจะสามารถกลับไปในรูปร่างที่สมส่วนได้ดังเดิม แต่ก็จะยังมีคุณแม่อีกบางท่านที่ยังพบเจอกับปัญหาที่ควบคุมน้ำหนักส่วนเกินไม่ได้ จนทำให้เกิดภาวะที่เรียกอีกอย่างว่า “อ้วนหลังคลอด” นั่นเองค่ะ
วิธีแก้ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยสำหรับคุณแม่หลังคลอด
ปัจจุบันในวงการของศัลยแพทย์เกี่ยวกับด้านการเสริมหน้าอกโดยตรงนั้นจะมีเทคนิคที่เรียกว่า
ผ่าตัดยกกระชับหน้าอก โดยขั้นตอนการผ่าตัดนั้นศัลยแพทย์จะทำการ
- ตัดแต่งเนื้อเยื่อ และไขมันส่วนเกินที่อยู่ใต้กล้ามเนื้อหน้าอก
- ผ่าตัดยกระดับหัวนมทั้งสองข้างให้สูงขึ้นและเท่ากัน ขั้นตอนนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ เนื่องจากบริเวณส่วนนี้มีเส้นประสาทอยู่เยอะจึงเสี่ยงต่อการเกิดหัวนมชา แต่โดยปกติแล้วการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก หัวนมจะชาไปประมาณ 1-2 อาทิตย์ แต่ถ้าหากใครที่เลือกสถานที่ และความชำนาญของศัลยแพทย์ที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงทำให้หัวนมชาไปถาวรเลยก็เป็นได้
เทคนิคการผ่าตัดยกกระชับหน้าอก
- เทคนิคโดนัท เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยปานกลางไม่มากจนเกินไปโดยการผ่าตัดนั้นศัลยแพทย์จะทำการตัดแต่งผิวหนังบริเวณรอบปานนมเป็นรูปวงกลม และเย็บผิวหนังที่ตัดแต่งเข้าหาหัวนม
- เทคนิคยกกระชับรูปเสี้ยวพระจันทร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อยเทคนิคนี้จะเป็นการผ่าตัดยกกระชับบริเวณโดยรอบของปานนมเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ และยกตำแหน่งบริเวณหัวนมกับปานนมขึ้นเพียงเล็กน้อย ขั้นตอนการผ่าตัดเทคนิคนี้ใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถยกระดับหัวนมขึ้นไปถึงประมาณ 1-2 ซ.ม. ได้อีกด้วย
- เทคนิคยกกระชับหน้าอกรูปตัวทีกลับหัว เหมาะสำหรับผู้ที่หน้าอกหย่อนคล้อยมาก ยกตัวอย่างเช่น บริเวณหัวนมจะอยู่ต่ำกว่าระดับใต้ราวนมซึ่งในการเลื่อนหัวนมขึ้นมาเพื่อที่จะให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเข้ากับสัดส่วนอื่นบริเวณหน้าอก ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดยกกระชับด้วยการตัดแต่งผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณส่วนเกินของหน้าอกด้วยการกรีดแผลเป็นแนวตั้ง และแนวนอน เทคนิคนี้เป็นการลดขนาดหน้าอกร่วมกับการเสริม ซึ่งผลลัพธ์คือรูปทรงของหน้าอกกลับมาเต่งตึงอีกครั้ง
- เทคนิคยกกระชับหน้าอกแนวตั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยมากเช่นกัน แต่ยังไม่มากเท่าที่ควร โดยการผ่าตัดเทคนิคแนวตั้ง ศัลยแพทย์จะทำการตกแต่งผิวหนังบริเวณหน้าอกด้านนอก และด้านในให้ขยับเข้ามาตรงกลาง ข้อดีหลังทำคือหน้าอกจะมีรูปทรงที่ดูโดดเด่น สวยงาม เพราะส่วนบนของหน้าอกและหัวนมจะไม่มีลักษณะที่แบนเรียบลงไป
เสริมหน้าอก ช่วยให้หน้าอกกระชับ
หลายๆ ท่านอาจกำลังสงสัยว่าถ้าหากหน้าอกไม่กระชับเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่จะมา เสริมหน้าอก วิธีนี้จะช่วยได้จริงหรือ แน่นอนว่าปกติแล้วหน้าอกที่หย่อนคล้อยจะมีระดับการหย่อนคล้อย และไม่กระชับแตกต่างกันออกไปเฉพาะบุคคล ซึ่งสามารถแบ่งออกไปตั้งแต่ตำแหน่งของบริเวณหัวนมหย่อนคล้อยลงมาอยู่ระดับเดียวกับฐานหน้าอก จนไปถึงระดับการหย่อนคล้อยของหัวนมอยู่ต่ำกว่าฐานหน้าอก และโดยปกติแล้วจะมีวิธีการดูแลรักษาแก้ไขให้ตรงจุดแตกต่างกันออกไป หนึ่งในนั้นคือการเสริมหน้าอกเพิ่มไซส์ให้คุณแม่แต่ละท่านได้กลับมามีหน้าอกที่อวบอิ่ม และเต่งตึง เพื่อช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าให้ออกมาเข้ากับสรีระของตัวเอง อีกทั้งในการแก้ไขหน้าอกไม่กระชับด้วยการเสริมหน้าอกนั้น ศัลยแพทย์จะสามารถเข้าไปทำการตกแต่งเนื้อเยื่อภายในอย่างบริเวณตำแหน่งของหัวนมให้มีความเป็นธรรมชาติ และได้ตำแหน่งที่เหมาะสมเข้ารับสรีระมากที่สุด
เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนรุ่นไหนดี
เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนรุ่นใหม่จาก Motiva Ergonomix2 ซึ่งบอกได้เลยว่าซิลิโคนรุ่นนี้เหมาะสำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยมาก เนื่องจากการถูกออกแบบ และคิดค้นให้ซิลิโคนตัวใหม่ของโมติว่าจะยังคงมีความพุ่งเหมือนเดิมไปถึง 4 ระดับ คือ MINI , DEMI , FULL , CORSE อีกทั้งเมื่อเปรียบเทียบ ข้อดี – ข้อเสีย กับซิลิโคนรุ่นอื่นๆ แล้ว Motiva Ergonomix2 เป็นซิลิโคนที่คืนสภาพเดิมได้เร็วตามแรงโน้มถ่วง และมีความยืดหยุ่นกว่ารุ่นเดิมไปถึง 45% ด้วยความยืดหยุ่นของตัวซิลิโคน Motiva Ergonomix2 จึงช่วยให้ตัวซิลิโคนที่ถูกออกแบบขึ้นมาใหม่นี้มีความนิ่มเพิ่มขึ้นกว่าเดิมถึง 60% ทำให้การเปิดแผลจะเล็กกว่าการใส่ซิลิโคนยี่ห้ออื่น ซึ่งหลังจากได้เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน Motiva Ergonomix2 ไปแล้ว จะได้ผลลัพธ์ของหน้าอกที่มีความเป็นธรรมชาติเป็นอย่างมาก เนื่องจากการกระจายของซิลิโคนได้ถูกพัฒนาให้มีฐานซิลิโคนที่กว้างขึ้น จึงทำให้โครงสร้าง และเนื้อผิวบริเวณหน้าอกมีรูปทรงที่สวยชัดโดดเด่น
ดูดไขมัน กระชับส่วน
ในลักษณะของหน้าท้อง หรือพุงของแต่ละบุคคลนั้นมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป เช่น หน้าท้องใหญ่ , หน้าท้องไม่กระชับ หรือหย่อนคล้อย และหน้าท้องของคุณแม่หลังคลอดบุตรปัญหาคร่าวๆ เช่นนี้เป็นเพราะไขมันส่วนเกินที่อยู่ใต้ชั้นผิวหนังเกิดการสะสมอยู่มากกว่าปกติ การที่จะแก้ไขถึงปัญหาที่ถูกต้องจึงแตกต่างกันออกไปเฉพาะปัญหา ยกตัวอย่างเช่น
- ไขมันหน้าท้องสะสม เกิดจากร่างกายได้รับอาหารประเภทที่มีไขมันมากเกินปริมาณจนร่างกายไม่สามารถเผาผลาญออกไปหมดได้ จึงเป็นสาเหตุของการอ้วนลงพุง หรือไขมันหน้าท้องสะสมนั่นเอง (ในกรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือน้ำหนักตัวน้อย)
- ผู้ที่ลดน้ำหนัก สาเหตุที่หน้าท้องของผู้ที่ลดน้ำหนักมีลักษณะหย่อนคล้อย ไม่กระชับ อันเนื่องจากบางคนลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย หรือลดน้ำหนักด้วยการผ่าตัดกระเพราะ จึงทำให้น้ำหนักลดเร็วตามลงมาด้วย แต่ข้อเสียคือผิวหนังตรงส่วนหน้าท้อง และส่วนอื่นตามร่างกายไม่กระชับและหย่อนคล้อย
- คุณแม่ที่เคยผ่านการมีบุตร เพราะในระยะเวลาที่ตั้งครรภ์บริเวณส่วนหน้าท้องจะมีการขยายตัว จึงทำให้ผิวหนัง และเนื้อเยื่อภายในช่วงท้องเกิดการขยายตัวตามไปด้วยหลังจากคลอดบุตรแล้วจึงเป็นปัญหาที่หน้าท้องไม่ลดตามลงมา
ข้อดีของการดูดไขมันสำหรับคุณแม่หลังคลอด
อย่างที่บอกว่าเทคโนโลยีของเครื่องดูดไขมันในยุคปัจจุบันได้พัฒนาการดูดไขมันร่วมกับการกระชับผิวไปในตัว โดยนวัตกรรมทางการแพทย์เรียกเทคโนโลยีนี้ว่าเครื่อง J PALSMA และ BODY TITE โดยข้อดีของนวัตกรรมสองตัวนี้จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการดูดไขมันเทคนิคเดิม คือ
- ช่วยกระชับผิวไปพร้อมกับการดูดไขมัน ไม่ว่าจะเป็นไขมันหน้าท้อง ไขมันต้นแขน ไขมันต้นขา หรือแม้แต่เหนียงบริเวรลำคอ (เพราะการดูดไขมันเทคนิคเดิมจะเป็นเพียงแค่ดูดไขมันออกไป ไม่มีการกระชับผิว จึงทำให้ผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันเกิดการหย่อนคล้อยและไม่กระชับ)
- ช่วยเสริมสร้าง และกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนัง จึงช่วยให้ผิวหนังบริเวณที่ดูดไขมันนั้นเกิดความกระชับ และแข็งแรงไม่หย่อนคล้อยหลังที่ได้ทำการดูดไขมัน
- ช่วยกำจัดเซลลูไลท์ของเซลล์ไขมันใต้ชั้นผิวหนังบริเวณหน้าท้องที่มีผลทำให้ผิวหนังเป็นคลื่นคล้ายกับผิวเปลือกส้ม
ข้อดีของการตัดหนังหน้าท้อง Tummy Tuck สำหรับคุณแม่หลังคลอด
แน่นอนว่าปัญหาในลักษณะนี้อาจเกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่มีไขมันใต้ชั้นผิวหนังให้ดูดออก หรือบางกรณีอาจเกิดขึ้นเพราะกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องเกิดการขยายตัวจนไม่สามารถกลับสู่สภาวะที่เหมือนเดิมก่อนหน้านี้ได้ ซึ่งปัญหาโดยรวมในลักษณะนี้สามารถทำให้หน้าท้องกลับมากระชับด้วยการ ตัดหนังหน้าท้อง Tummy Tuck โดยมีกระบวนการและขั้นตอนที่ต้องดูแลโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้หลังการตัดหนังหน้าท้อง Tummy Tuck คือ
- ช่วยแก้ไขปัญหาหน้าท้องที่หย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตรงจุดตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้ารับการแก้ไขตัดตกแต่งหน้าท้องโดยศัลยแพทย์ผู้ชำนาญโดยตรง
- ช่วยให้หน้าท้องที่เหี่ยวย่น หรือไม่กระชับ กลับมามีสัดส่วนรูปร่างที่กระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- การตัดหนังหน้าท้อง Tummy Tuck สามารถทำควบคู่ไปพร้อมกับ ร่อง 11 หรือ Sexy Line ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เปรียบเสมือนกับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพในด้านการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร
- ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และเสริมสร้างบุคลิคภาพของสัดส่วนในร่างกายให้ดีมากยิ่งขึ้น
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศูนย์ศัลยกรรมความงามเอเพ็กซ์
Call : 096-235-4564 , 088-870-0016
Line : @apexsurgery หรือ Click http://line.me/ti/p/%40APEXsurgery
