Q&A คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2022
ว่าด้วยเรื่องของการแก้ไขปัญหารูปหน้า การฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นวิธีแก้ไขรูปหน้าวิธีหนึ่งค่ะ ซึ่งสาวๆ หลายคนเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากการฉีดฟิลเลอร์ ก็คือ การเติมสารเติมเต็มที่มีชื่อว่า “ไฮยาลูโรนิค แอซิด” เข้าสู่ผิวให้ส่วนที่เราอยากจะเติมเต็มให้กลับมาดูอิ่มฟูอวบอิ่ม เต่งตึง กระชับอีกครั้ง อีกทั้งยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และดูสดใจมากยิ่งขึ้น แต่สาวๆที่อยากจะฉีดฟิลเลอร์ทั้งคนที่เคยฉีดหรือไม่เคยฉีดมาก่อนเลย ก็อาจจะมีข้อสงสัยหรือตั้งคำถามมากมายในหัวว่าควรฉีดกี่ CC ถึงจะดีนะ? กี่วันถึงจะเห็นผลและอยู่ได้นานไหม? ทุกวันนี้เราก็เห็นข่าวเยอะเยอะมากมายตามโซเชียลเกี่ยวกับอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอม ฟิลเลอร์แข็ง ฟิลเลอร์เป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล บางคนโชคร้ายไปเจอคลินิกที่ไม่สะอาดไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอ ฉีดผิดที่จนตาบอดกันมาแล้วก็มีค่ะซิส เป็นฉันนี่น้องกรี๊ดเลย ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจและตอบคำถามเกี่ยวกับข้อสงสัยเรื่องฟิลเลอร์กันค่า
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลเช็กให้ชัวร์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์ตามสิทธิ์แล้วสามารถแจ้งคุณหมอ หรือ ทางคลินิกที่จะไปฉีดฟิลเลอร์ได้เลยค่ะ ซึ่งทาง Apex Medical Center ก่อนจะฉีดแต่ละเคส คุณหมอแกะกล่องให้ดูพร้อมกับเช็ค อย. ไปพร้อมกับลูกค้าเลยค่ะ เพื่อความสบายใจในการทำหัตถการทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งเราสามารถเช็คได้ด้วยตัวเองง่ายๆ มีวีธีดังนี้ค่ะ
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล• ราคา ถ้าราคาถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป ฟิลเลอร์นั้นอาจจะเป็นของปลอมค่ะ
• ต้องมีฉลากภาษาไทย ถ้าเป็นฟิลเลอร์แท้ส่วนใหญ่จะมีฉลากภาษาไทย ซึ่งควบคุมด้วยองค์การอาหารและยาของประเทศไทย ฉะนั้นแล้วเนี่ยฉลากก็ต้องเป็นภาษาไทยค่ะ
• มาตรฐานความปลอดภัย ฟิลเลอร์ทุกกล่องจะมีมาตรฐานความปลอดภัยของ อย. เป็นฉลากสีขาวติดอยู่ข้างกล่อง
• ขายบนอินเตอร์เน็ต หรือ ตามโชเชียล บอกเลยว่าอย่าหาไปซื้อมาเองค่ะ เพราะการจะซื้อฟิลเลอร์คุณหมอหรือสถาบันนั้นๆ จะต้องยื่นเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นใบรับรองทางการแพทย์เพื่อระบุตัวตนว่าเป็นคุณหมอจริงๆ รวมไปถึงใบสถานประกอบพยาบาล ดังนั้นเนี่ยเราไม่สามารถสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตได้แน่นอนค่ะ ถ้าหากมีขายตามอินเตอร์เน็ตให้คิดไว้เลยว่าเป็นของปลอม 100% ค่ะ
• ผู้แอบอ้างเป็นหมอ เช็คให้ชัวร์ว่าคุณหมอที่เราจะไปฉีดด้วยเนี่ย เป็นคุณหมอจริงๆ ไหม เราสามารถเช็คข้อมูลในเว็บไซต์แพทยสภาได้ค่ะ
• ข้อมูลฉลากบนตัวกล่อง จะต้องมีชื่อบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่าย บริษัทนำเข้า วันหมดอายุ เลขล็อตสินค้าข้างในกล่องและข้างนอกกล่องต้องตรงกันและข้อมูลทั้งหมดจะต้องชัดเจน และที่สำคัญตัวกล่องจะต้องไม่มีรอยแกะและภายในกล่องจะต้องมีอุปกรณ์ครบพร้อมใช้งาน
ฉีดฟิลเลอร์จุดไหนดี? เติมเต็มใบหน้าส่วนไหนดี?
สาวๆ หลายคนคงกำลังมีความกังวลใจอยู่เล็กๆ ว่า ฉันควรฉีดตรงไหนดีนะ ถ้าฉีดตรงนั้นแล้วจะดีรึป่าว หรือ เอ๊ะ ควรฉีดตรงนี้ดีนะ? ซึ่งหากสาวๆ ตัดสินใจไม่ได้ว่าฉันควรฉีดตรงไหนดี เข้าไปที่คลินิกที่เราต้องการฉีดได้เลย คุณหมอจะเป็นคนดูใบหน้าโดยรวมของเราค่ะว่าควรเติมจุดไหนเพื่อจะเสริมจุดนั้นให้สวยและดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งทาง APEX Medical Center ของเรา มีคุณหมอที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฟิลเลอร์ กี่วันถึงจะเห็นผล? อยู่ได้นานแค่ไหน?
ผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลได้ทันทีหลังฉีดเลยค่ะ โดยฟิลเลอร์จะอิ่มเต็มที่เมื่อครบ 2 สัปดาห์ ส่วนเรื่องระยะเวลาที่เห็นผลนั้นขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดและที่สำคัญคือยี่ห้อที่ใช้ฉีดค่ะ
• Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากอเมริกา ที่หลายๆ คนรู้จักและเป็นที่นิยมใช้กัน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
• Restylane เป็นฟิลเลอร์จากสวีเดน ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 1-2 ปี
• Neuramis เป็นฟิลเลอร์ใหม่จากประเทศเกาหลี ราคาย่อมเยาว์ ผลลัพธ์อยู่ที่ประมาณ 6-8 เดือน
ฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดีสุด ฉีดออกมาแล้วสวยละมุม
ขอแนะนำว่าให้เลือกฟิลเลอร์ที่ได้การรับรองจาก US FDA ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และผ่านการรับรองในไทย ตามมาตรฐาน อย. เพื่อความปลอดภัยต่อร่างกาย ลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาเกี่ยวกับฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นไหลย้อย บวม หรือเน่า แต่จริง ๆ แล้วการฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนหรือรุ่นอะไรดี ควรอยู่ที่แพทย์เป็นผู้ประเมินให้จะดีกว่าค่ะ เพราะปัญหาใบหน้าในแต่ละบริเวณนั้น ต้องการฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลหรือลักษณะเนื้อเจลที่มีความแตกต่างกันไป ซึ่งแพทย์จะดูจากปัจจัยต่าง ๆ ของคนไข้ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นความหนา-บาง หรือความหย่อนคล้อยของชั้นผิว โครงสร้างกระดูก ชั้นไขมัน อายุ ประกอบกันไปค่ะ เพื่อให้ได้ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับตัวเองค่ะ สามารถแก้ไขปัญหาใบหน้าให้ออกมาสวยละมุน มีความเป็นธรรมชาติ
ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้ผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคลและขึ้นอยู่กับเทคนิคการฉีดของแพทย์ด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่ไม่อยากเสี่ยงลองฉีดฟิลเลอร์ไปเรื่อย ๆ ที่ APEX อันดับหนึ่งด้านการฉีดฟิลเลอร์ สามารถให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจกับทุกท่านได้ค่า
• ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ APEX เลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก เป็นยี่ห้อที่เมื่อฉีดเข้าผิวแล้วจะออกมาสวยเป็นธรรมชาติที่สุดค่ะ
• มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทีมแพทย์ APEX Medical Institute (AMI) ของ APEX ได้รับการเทรนเทคนิค ความรู้ใหม่ ๆ จากอาจารย์แพทย์ด้านผิวหนังระดับประเทศ เป็นผู้บุกเบิกการฉีดเป็นกลุ่มแรกของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโบลดริ้วรอยหรือฟิลเลอร์ มากว่า 30 ปี อย่างคุณหมอนัน “พญ. นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ” ผู้ก่อตั้งเอเพ็กซ์นั่นเองค่ะ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่าฉีดฟิลเลอร์ที่ APEX จะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาสวยเพอร์เฟ็คเทียบเท่าอาจารย์แพทย์เป็นผู้ฉีดให้เลยทีเดียว
• ชื่อเสียง เสียงตอบรับจากผู้เข้าใช้บริการทุกท่านทำให้คลินิกของเราได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องการันตีถึงความสามารถด้านการฉีดของเอเพ็กซ์ได้เป็นอย่างมาก
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลก่อนฉีดฟิลเลอร์ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง ?
• ควรหยุดการทานยาแก้ปวด ยาแอสไพริน กลุ่มยาต้านการอับเสบ NSAIDS ได้แก่ Ibuprofen, Naproxen อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการฉีด เพื่อป้องกันอาการฟกซ้ำ
• งดทานวิตามินที่ทำให้เลือดหยุดไหลยาก เช่น Vitamin E , น้ำมันปลา , น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส , สารสกัดจากโสม ขิง กระเทียม ใบแปะก๊วย เป็นเวลา 2 สัปดาห์
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วัน ก่อนฉีดฟิลเลอร์
• ทำตัวเองให้แข็งแรงอยู่ในสภาพปกติดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง ไม่ได้อยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรอยู่
• ก่อนฉีดควรทำความสะอาดผิวหน้าเช็คเครื่องสำอางก่อนพบแพทย์
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์
• งดออกกำลังกายหนักๆ รวมถึงการให้ใบหน้าโดนความร้อนโดยตรง เช่น การอบซาวน่า , แช่น้ำอุ่น รวมถึงการนวดหน้าด้วยความร้อน
• งดการบีบ นวด กด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ไปผิดรูปได้
• ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่เป็นเวลา 3-7 วัน
• ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์อิ่มฟูยิ่งขึ้นและอยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น เป็นเวลา 2 สัปดาห์หลังฉีด
ฟิลเลอร์จะฉีดจุดไหนดีแก้อะไรได้บ้าง
จริงๆ แล้วฟิลเลอร์สามารถฉีดได้ทั้งเติมเต็มและยกกระชับผิวหน้าเลยค่ะ เรามาแบ่งตามจุดที่คนนิยมฉีดกันดังนี้
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฟิลเลอร์คาง หรือ เสริมคาง แบบไหนดีกว่ากัน ?
บางคนอาจจะมีความลังเลอยู่เล็กๆ ภายในใจ อีกใจหนึ่งอยากจะเสริมคาง อีกใจก็อยากฉีดฟิลเลอร์ แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกฉีดฟิลเลอร์หรือการเสริมคางซิลิโคนนั้น เราจะต้องประเมินรูปหน้าของตัวเองก่อนค่ะว่าเราเหมาะกับอะไรมากกว่ากัน โดยสัดส่วนของใบหน้าที่สวยงามได้รูปจะต้องแบ่งสัดส่วนได้เป็น 1:1:1
• ฟิลเลอร์คาง เหมาะสำหรับเคสที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางตัด คางไม่ได้รูปสวย และเคสที่มีคางสั้นเล็กน้อย (มีส่วนต่างของส่วนที่ 3 น้อยกว่า 1 ซม.) เพราะฟิลเลอร์สามารถเพิ่มความยาวของคางได้ 0.5 ซม. – 1 ซม. หากยาวกว่านี้จะทำให้เกิดปัญหาคางเบี้ยวเอียงได้
• เสริมคาง เหมาะสำหรับเคสที่มีคางสั้นมากๆ (มีส่วนต่างของส่วนที่ 3 มากกว่า 1 ซม.) จะช่วยเติมเต็มให้คางยาวสวยได้ค่ะ
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฉีดฟิลเลอร์คาง
ข้อดี
• เป็นการปรับรูปทรงคางเล็กน้อย เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาคางบุ๋ม คางตัด รูปคางไม่สวย และคางสั้น
• มีอาการบวมเล็กน้อยหลังทำ แต่จะไม่ต้องพักฟื้นสามารถทำงานได้ตามปกติ
ข้อเสีย
• มีระยะเวลาที่ตัวฟิลเลอร์จะสลายไปได้ใน 1-2 ปี
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลเสริมคาง
ข้อดี
• เป็นการเสริมด้วยซิลิโคนจึงอยู่ได้ตลอดชีวิต
ข้อเสีย
• เป็นการผ่าตัด จึงมีอาการบวมช้ำหลังทำและใช้เวลาพักฟื้นนาน
• หากเลือกซิลิโคนไม่เหมาะสม หลังทำออกมาก็อาจะจดูยาวหรือยื่นมากจนเกินไปค่ะ
สาเหตุฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน
ฟิลเลอร์ถึงจะได้เป็นที่ยอมรับจากวงการความสวยความงาม แต่ฟิลเลอร์ก็สามารถกลายมาเป็นภัยร้ายได้มากกว่าการเป็นเครื่องมือที่จะเสกความสวยให้เราได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น
• ฟิลเลอร์ปลอม
ส่วนใหญ่ มักเจอจากการฉีดกับหมอกระเป๋า หรือหมอที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญด้านการฉีดฟิลเลอร์มากพอ และไม่รู็วิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์ของปลอม ผลของกระฉีดฟิลเลอร์ปลอมก็คือ หลังจากฉีดแรกๆ จะเหมือนปกติมากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่มีเวลาผ่านไปจะพบว่าฟิลเลอร์ไม่สลายและจะจับเป็นก้อน กลายเป็นซิลิโคนเหลวที่เกาะแน่นกับกระดูก ทำให้ใบหน้าเสียรูปไปเลยก็ได้ค่ะ
• คลินิกฉีดฟิลเลอร์ไม่มีมาตรฐาน
ไม่มีใบอนุญาตตามหลังประกอบกิจการ
• เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์
เพราะการฉีดฟิลเลอร์จะต้องมีความชำนาญสูง ต้องรู้เกี่ยวกับชนิดของฟิลเลอร์ที่จะฉีดในแต่ละจุดได้ดี รวมถึงการดีไซน์รูปหน้าการวางตำแหน่งจุดฉีดฟิลเลอร์ที่ถูกต้องเพื่อให้เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละคน การลงเข็มต้องมีความแม่นยำ ซึ่งหากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอมีโอกาสสูงมากที่ทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ค่ะ
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฉีดฟิลเลอร์กับฉีดไขมัน ทำอะไรดี
การฉีดไขมัน ก็คือ การศัลยกรรมอย่างหนึ่งที่จะทำการย้ายไขมันจากบริเวณอื่นในร่างกายของเรามาเสริมเติมเต็มบนใบหน้า โดยอาจจะนำไขมันมาจากบริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้องของเราค่ะ มันเลยเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนกำลังลังเลอยู่ว่า ควรเติมเต็มใบหน้าด้วยฟิลเลอร์ หรือ ควรเติมเต็มด้วยการฉีดไขมันดีกว่ากัน วันนี้เราก็มีข้อดีและข้อเสียของทั้ง 2 อย่างมาให้ดูกันค่ะ
ภาพก่อน - หลังทำ (คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฉีดฟิลเลอร์
ข้อดี
• หลังทำเสร็จสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
• การดูแลตัวเองหลังฉีดไม่ยุ่งยาก
• ราคาไม่สูงเท่าการฉีดไขมัน
ข้อเสีย
• ฟิลเลอร์แท้จะมีระยะเวลาในการสลายไปตามธรรมชาติ โดยจะมีระยะเวลาสลายไปได้ใน 1-2 ปี
ภาพก่อน - หลังทำ (คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฉีดไขมัน
ข้อดี
• เป็นการใช้ไขมันของตัวเราเองในการฉีดเติมเต็มสามารถอยู่ได้นาน
• ไม่มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณที่ใช้เติม เนื่องจากเป็นไขมันของเราเองขึ้นอยู่กับจำนวนไขมันที่แพทย์ดูดได้
ข้อเสีย
• มีค่าใช้จ่ายค่องข้างสูง
• เป็นการผ่านตัดใหญ่และมีการวางยาสลบ เพราะจะต้องผ่าตัดดูดไขมันส่วนเกินจากร่างกาย ทำให้เกิดรอยแผลเป็นเล็กๆ ประมาณ 1-2 ซม. หลังดูไขมัน
• การเติมไขมันไม่สามารถคำนวณปริมาณที่จะเติมเต็มได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากการดูไขมัน 100 cc จะสามารถอยู่รอดได้เพียง 20-30 cc ของที่เติมได้ ทำให้แพทย์จำเป็นต้องเติมเต็มปริมาณให้มากที่สุด เพื่อให้ไขมันที่อยู่รอดมีปริมาณมากพอ
• การดูแลตัวเองหลังทำจะต้องมีอาการพักฟื้นเพื่อให้เข้าที่
ภาพก่อนทำ (คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลภาพหลังทำ (คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022)
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลฟิลเลอร์กับโบลดริ้วรอยต่างกันไหม?
อยากจะบอกว่าทั้งโบลดริ้วรอยและฟิลเลอร์ทั้ง 2 สิ่งนี้ สาวๆ หลายคนคงรู้จักมานาน แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจในความแตกต่างของทั้ง 2 สิ่งนี้ วันนี้เราจะเปรียบเทียบให้ฟังกันค่ะ
อย่างแรกเลย ผลลัพธ์ ของทั้ง 2 จะมีความแตกต่างกัน โบลดริ้วรอย จะช่วยในการลดขนาดของกล้ามเนื้อให้เล็กลงได้ และช่วยคลายกล้ามเนื้อที่หดย่น ให้กลับมาเรียบเนียนตึงได้อีกครั้ง ส่วน ฟิลเลอร์ เปรียบเสมือนการสร้างบ้านและเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปให้ดูสมส่วนและมีมิติยิ่งขึ้น
อย่างต่อมาเลยคือ ตำแหน่งที่ฉีด ฟิลเลอร์สามารถฉีดได้หลายจุดได้ตามต้องการ อย่างที่บอกไปว่ามันคือการเติมเต็ม แต่โบลดริ้วรอยจะมีจุดที่สามารถฉีดได้ ไม่ว่าจะเป็น การฉีดเพื่อลดกราม ลิฟท์กรอบหน้า ลดน่อง ลดริ้วรอยย่นบริเวณหน้าผาก ตีนกา หางตา ระหว่างคิ้ว ผิวหนังบริเวณคอและมือที่เหี่ยว และบริเวณใต้วงแขนเพื่อลดกลิ่นกาย
รับวัคซีน Covid-19 ไปแล้ว ฉีดฟิลเลอร์ จะอันตรายไหม?
ตั้งแต่มีเจ้าไวรัสโควิดโคใจขึ้นมา ทำให้ต้องมีวัคซีนเพื่อป้องกันหรือยั้บยั้งการติดเชื้อหากได้รับเชื้อในอนาคต ซึ่งหลายคนอาจจะมีคำถามในใจมากมาย เกี่ยวกับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะคนที่เข้าคลินิกเสริมความงามเป็นประจำ ว่าสามารถมาทำหัตถการต่าง ๆ ได้ไหม เช่น การฉีดโบลดริ้วรอย ฟิลเลอร์ จะมีอันตราย หรือผลข้างเคียงอะไรบ้าง สำหรับคนที่มีคำถามคาใจเหล่านี้อยู่ วันนี้เรามีคำตอบมาไขข้อข้องใจของทุกคนกันค่า
สำหรับโรคระบาดโควิด 19 (Covid-19) ยังถือเป็นโรคอุบัติใหม่ในปัจจุบัน รวมถึงเรื่องของการฉีดวัคซีนด้วยเช่นกัน ดังนั้นข้อมูลงานวิจัยต่างๆ ยังคงมีไม่เยอะมาก และยังไม่มีการรับรองตรวจสอบการฉีดวัคซีน ซึ่งความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในการฉีดโบลดริ้วรอยหรือฟิลเลอร์ มีเพียง 2 เคสที่ได้รับรายงานมาว่าเคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อนได้รับวัคซีนป้องกัน Covid -19 โดยเคสแรกที่เป็นผู้หญิง เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว 6 เดือนก่อนที่จะได้รับวัคซีน ส่วนอีกหนึ่งเคสเป็นผู้ชายที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาแล้ว 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะได้รับวัคซีน เกิดอาการหน้าบวม แต่ทั้งสองเคสได้เข้ารับการรักษา และหายเป็นปกติแล้ว ทั้งนี้ไม่พบอาการรุนแรงใดๆ
คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ต้องเตรียมตัวอย่างไร 2022
ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลเพิ่งรับวัคซีนป้องกัน Covid-19 จะสามารถฉีดฟิลเลอร์ ได้หรือไม่ ?
จริง ๆ แล้วสามารถทำได้ตั้งแต่กลุ่มของการเลเซอร์ รวมไปถึงการฉีดโบลดริ้วรอย สามารถฉีดได้เลยไม่ต้องเว้นระยะเวลา ไม่มีอันตรายต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้ในกลุ่มของสารเติมเต็ม อย่างฟิลเลอร์ แนะนำว่าควรเว้นประมาณ 2 สัปดาห์ หลังได้รับวัคซีน ก็จะดีกว่าค่ะ และเมื่อเว้นระยะเวลาแล้วก็สามารถฉีดฟิลเลอร์ได้ตามปกติได้เลยค่ะ
ใครบ้างที่ไม่ควรฉีดฟิลเลอร์
• คนที่แพ้สาร Hyaluronic Acid
• คนที่มีโรคประจำตัวต้องรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด
• คุณแม่ที่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
• คนที่มีอาการแพ้ยาชา
• คนที่มีประวัติเป็นแผลคีลอยด์ง่าย
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์
สำหรับผลข้างเคียงนะสาว ถึงแม้เราจะเลือกคลินิกที่ไว้ใจแล้วตรงมาตรฐานทุกอย่าง เลือกยี่ห้อที่จะฉีดเอยใดๆ เอยแล้ว แต่เราก็ไม่สามารถการันตีได้ว่าคุณจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เพราะร่างกายของคนเราไม่เหมือนกัน ดังนั้น แล้วคนที่ฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรก อาจจะไม่รู้เลยว่าจะมีผลข้างเคียงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อยๆ ก็มีดังนี้เลยค่า
• เกิดรอยนูน ขรุขระ เป็นคลื่น ผิวไม่เรียบเนียน สาเหตุเกิดจากการฉีดที่ผิวชั้นตื้นเกินไป หรือ การเลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสมกับบริเวณจุดฉีด
• ฟิลเลอร์ไหลเคลื่อนออกจากตำแหน่งจุดฉีดไปยังบริเวณที่เราไม่ต้องการ อาจจะส่งผลทำให้ใบหน้าผิดรูปได้
• เกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ คันเป็นผื่นแดงและอาจจะมีลมพิษขึ้นตามมา หากใครเจอปัญหานี้ควรที่จะรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
• อาการปวดบวม แดง มีตุ่มหรือมีก้อนหนองบริเวณจุดฉีด ลักษณะนี้บ่งบอกว่าคุณกำลังติดเชื้อหลังการฉีดฟิลเลอร์ ที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ ฉีดกับหมอเถื่อนค่ะ
• ฉีดฟิลเลอร์ แล้วตัวยาเข้าไปอุดตันเส้นเลือดที่นำมาเลี้ยงผิวหนังและรวมถึงจอประสาทตา อาจส่งผลให้ผิวบริเวณรอบๆ จุดฉีดตาย หรือ ถึงขั้นตาบอดได้
“เอาละค่าา เป็นยังไงกันบ้างคะวันนี้สำหรับ “Q&A คำถามยอดฮิตก่อนฉีดฟิลเลอร์ 2022” ถือว่าเราได้ทำหน้าที่คลายความกังวลให้กับสาวๆ หลายคนแล้วเนอะ และหวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่เพื่อนๆ ทุกคนแล้วนะคะ อาจจะเป็นสาระดีๆ ที่จะช่วยคลายความสงสัยให้ใครหลายๆ คนได้นะ รวมถึงถ้าใครมีเเพลนในใจคิดอยากจะฉีดฟิลเลอร์ แต่ไม่รู้ว่าจะฉีดที่ไหนดี ที่ APEX พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลเต็มที่เลยค่ะ หากสนใจหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ APEX Medical Center ทั้ง 35 สาขาทั่วประเทศได้เลยค่า”