3 สาเหตุของการเกิดพุง จัดการได้ด้วยผลไม้ 

“พุง” เกิดจากหลายสาเหตุ หากรู้ว่าเกิดจากอะไร เราก็จะสามารถลดพุงได้จากต้นเหตุ วันนี้เราจึงรวบรวมสาเหตุ การเกิดพุงมาฝากกัน พร้อมกับ “ผลไม้” ตัวช่วยลดพุง

 

สาเหตุของการเกิดพุง

  1. พุงเกิดจากไขมัน

สาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดไขมันสะสมที่บริเวณหน้าท้องหรือพุง ส่วนใหญ่นั้นเกิดจากพฤติกรรมการกินที่มากเกินไป จนร่างกายไม่สามารถเผาผลาญเป็นพลังงานได้หมด ทำให้ร่างกายเปลี่ยนสารอาหารเหล่านั้นเป็นพลังงานสำรองในรูปแบบของไขมัน ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงพุงน้อย ๆ ของเราด้วย 

 

และแม้ว่าเราจะออกกำลังกายจะสามารถช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้เพียงใด แต่แคลอรี่จากอาหาร 100% ก็สามารถเผาผลาญผ่านการออกกำลังกายได้เพียง 10-30% เท่านั้น การควบคุมแคลอรี่จากอาหารจึงเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งส่วนใหญ่ที่เราได้รับพลังงานมากเกินไป เกิดจากความยาก ความหิว ที่เราห้ามใจไม่ได้ จนทำให้กินอาหารในปริมาณมาก และกินอาหารที่มีแคลอรี่สูงนั่นเอง

 

ผลไม้ลดพุงเกิดจากไขมัน

งานวิจัยพบว่า วิตามินซีจะช่วยเผาผลาญไขมันได้เพิ่มขึ้นถึง 30% เมื่อออกกำลังกายเท่าเดิม อีกทั้งวิตามินซียังช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคาร์นิทีน ที่มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยเผาผลาญไขมัน ผลไม้ที่เราแนะนำจึงเป็นผลไม้ที่มีวิตมินซีสูง เช่น 

  • กีวี่ 1 ผล ให้วิตามินซี 161 มิลลิกรัม 

หากกินกีวี่วันละ 2 ผล จะสามารถช่วยเพิ่มปริมาณวิตามินซีให้ร่างกายได้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ กีวี 1 ผล ให้พลังงานเพียงแค่ 55 กิโลแคลอรี่เท่านั้น เราจึงสมารถกินได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก แต่ระวังมากเกินไปจะแสบกระเพาะอาหาร

  • ฝรั่ง 100 กรัม ให้วิตามินซี 160 มิลลิกรัม 

ฝรั่งเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีในปริมาณมาก โดยพบได้บริเวณเปลือกของฝรั่งเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งปริมาณวิตามินซีจะค่อย ๆ น้อยลงเมื่อฝรั่งสุกแล้ว และฝรั่งเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงแต่ไม่มีรสชาติเปรี้ยวเหมือนกับผลไม้วิตามินซีสูงอื่น ๆ จึงทำให้กินได้ง่ายและกินได้เยอะกว่าผลไม้รสเปรี้ยว

 

  1. พุงเกิดจากระบบขับถ่ายมีปัญหา

พุงป่อง ๆ แน่น ๆ ซึ่งเป็นอาการ “ท้องผูก” ที่เกิดจากลำไส้เคลื่อนตัวช้ากว่าปกติหรือบีบตัวลดลง เนื่องจาก “ขาดใยอาหาร” และน้ำ ที่เป็นกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ อุจจาระจึงแข็ง ลำไส้จึงบีบตัวลดลงอุจจาระจึงเคลื่อนตัวได้ช้า การกินผลไม้ระบบขับถ่ายที่ดีมีส่วนช่วยในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้มากกว่าเดิม 

  • กล้วย

กล้วยมีประโยชน์มาก ทั้งเกลือแร่ และวิตามินต่างๆ ที่สำคัญมีเส้นใยสูงมาก การทานกล้วยทุกเช้าก่อนอาหารจะช่วยให้ลำไส้ลื่นไหล ขับถ่ายง่าย อีกทั้งเส้นใยของกล้วยยังช่วยกวาดล้างไขมันในลำไส้ กล้วยน้ำว้าสุกเหมาะกับการบรรเทาอาการท้องผูก ส่วนกล้วยห่าม ทานแก้อาการของโรคกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน

  • มะละกอ

มะละกอสุก สีแดงหวานฉ่ำ มีทุกฤดูกาล หาง่าย มีวิตามินเอและเบตาแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณในมะละกอมีสารแพดตินและเอ็นไซม์ช่วยในการระบายอ่อนๆ การทานมะละกอเป็นประจำจะทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถลดไขมันที่เกาะตามผนังลำไส้ได้ด้วย

 

  1. พุงเกิดจากอาการบวมน้ำ

“อาการบวมน้ำ” เกิดจากการกินอาหารที่มี “โซเดียม” ในปริมาณมาก โดยโซเดียมจะมีคุณสมบัติอุ้มน้ำไว้ใต้ชั้นผิวและเนื้อเยื่อในร่างกายบริเวณต่าง ๆ ทำให้มีการดึงน้ำรอบ ๆ เซลล์ออกมา ทำให้หน้าท้องมีพุง ต้นขาบวมหรือใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน 

  • แตงโม

คนที่อยากลดน้ำหนัก แตงโมถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่น่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นผลไม่ที่มีรสหวาน แต่แคลอรีต่ำ นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ตัวบวม เนื่องจากแตงโมจะช่วยลดการสะสมของไขมันเลวในร่างกาย และในแตงโมยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นไลโคปีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเกิดมะเร็ง วิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา รวมทั้งยังช่วยบำรุงผิวและเส้นผม ตลอดจนช่วยล้างสารพิษในร่างกาย

  • ลูกพรุน

ลูกพรุน เป็นผลไม้ไขมันต่ำ แต่มีสารอาหารสำคัญหลายชนิด คือ วิตามิน เกลือแร่ คาร์โบไฮเดรต โพแทสเซียม ช่วยชะลอความแก่ ลดอาการบวมน้ำ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย และยังช่วยต่อต้านมะเร็งด้วย

 

ปากกาลดน้ำหนัก Slim Shape 

เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1  ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที

 

กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape

  • Slim Shape ใช้เทคโนโลยีเปปไทด์ลดหิว (Liraglutide) ซึ่งเป็นสารโปรตีนสกัดที่สามารถเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ตามธรรมชาติของร่างกาย โดยจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณความอิ่มไปที่ “สมองส่วนกลาง”  ทำให้รู้สึกอิ่มได้ยาวนานถึง 24 ชม.
  • ลดการบีบตัวของ “กระเพาะอาหาร“ จึงช่วยทำให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น การย่อยอาหารและดูดซึมสารอาหารได้นานขึ้น จึงทำให้เราทานอาหารได้น้อยลง
  • Slim Shape ยังช่วยกระตุ้นให้ “ตับอ่อน” ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน เพื่อดึงน้ำตาลเข้าเซลล์มีคุณภาพดีขึ้น จึงทำให้สามารถเก็บและนำพลังงานที่สะสมออกมาใช้ได้มีคุณภาพมากขึ้น 

ผลลัพธ์หลังการใช้  Slim Shape  

สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80%  เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10%  

 

นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน

 

Slim Shape เหมาะกับใคร

  1. ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
  2. ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
  3. ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  4. ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
  5. ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
  6. ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป

 

โยโย่ เอฟเฟค

เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา 

 

ความปลอดภัย

ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา 

 

ศูนย์ลดน้ำหนัก Apex Slim มีแพทย์เฉพาะทางที่เชี่ยวชาญในด้านการลดน้ำหนักโดยเฉพาะ และเป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีทันสมัยระดับโลกในการลดน้ำหนักและสัดส่วนที่มีจำนวนเครื่องมือมากที่สุด 

 

👉ปรึกษาลดน้ำหนักและสัดส่วนทักแชท
𝐂𝐎𝐍𝐓𝐀𝐂𝐓 𝐔𝐒
▪️𝐓𝐞𝐥 : 095-102-8585
▪️𝐋𝐢𝐧𝐞 : https://line.me/ti/p/%40APEXslim
▪️𝐅𝐚𝐜𝐞𝐛𝐨𝐨𝐤: https://www.facebook.com/ApexSlim
▪️𝐖𝐞𝐛𝐬𝐢𝐭𝐞 : https://www.apexslim.com/