เสริมหน้าอก

เสริมหน้าอกมาแล้ว แต่หน้าอกแข็ง บอกเลยว่าเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับสาวๆ ที่เคยศัลยกรรมหน้าอก แน่นอนว่าสาเหตุที่หน้าอกแข็งอาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นพังผืดหดรัดซิลิโคน เกิดอาการเลือดคลั่ง หรือแม้กระทั่งเกิดน้ำเหลืองคลั่งบริเวณหน้าอกก็เป็นได้ และในวันนี้เองเราจะมาบอกถึงปัญหาหน้าอกแข็งที่มีถึง 3 สาเหตุหลักๆ ด้วยกัน บอกเลยว่าสาวๆ ท่านใดที่กำลังหาข้อมูล และกำลังกังวลว่าตัวของท่านเองจะมีอาการตามลักษณะนี้ตามที่เรากำลังจะบอกเล่าหรือเปล่า ห้ามะลาดเด็ดขาด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อตัวของท่านเองไม่มากก็น้อย และถ้าอยากทราบกันว่าข้อมูลที่เรากำลังจะมาแชร์ให้กับทุกคนได้รู้กันในวันนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง แล้วเลื่อนตามไปดูพร้อมๆ กันได้เลย

3 สาเหตุที่อาจทำให้หน้าอกแข็ง

  1. หลักๆ แล้วปัญหาซิลิโคนหน้าอกแข็งอาจเกิดจากแบคทีเรียกลุ่ม Staph Species มาล้อมรอบบริเวณซิลิโคนหน้าอก ทำให้ร่างกายเกิดการต่อต้านและตอบสมองต่อแบคทีเรียชนิดนี้ แต่อาการจะไม่รุนแรงมาก ซึ่งหากเกิดปัญหานี้แล้วจึงทำให้ร่างกายเกิดการต่อต้านเพื่อกำจัดแบคทีเรียชนิดนี้นี้โดยการสร้างพังผืดขึ้นมารอบๆ ซิลิโคนหน้าอกให้หนาขึ้น แต่จะทำให้ซิลิโคนหน้าอกแข็งตามมานั่นเองค่ะ
  2. ต่อมาคือเกิดจากการคลั่งน้ำเหลือง (Seroma) รอบซิลิโคนหน้าอก หรือน้ำเหลืองคลั่งในบริเวณโพรงช่องว่างระหว่างการวางซิลิโคน จึงทำให้เกิดปัญหาพังผืดตามมา สุดท้ายแน่นอนว่าพอมีปัญหาพังผืดหดรัดซิลิโคน ก็จะทำให้ซิลิโคนหน้าอกแข็งเหมือนอย่างที่กล่าวไปข้างต้น
  3. มีอาการเลือดคลั่ง และเลือดออกเยอะหลังจากผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอก ซึ่งปัจจัยนี้แน่นอนว่าสาวๆ ที่ผ่านการเสริมหน้าอกมาต้องเป็นกันทุกคน แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าการดูแลตัวเอง ก่อน–หลัง ผ่าตัดนั้นหยุดทานวิตามิน อาหารเสริม รวมถึงงดดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่มานานมากน้อยเพียงใด เพราะภาวะเสี่ยงที่กระตุ้นให้เลือดออกเยอะหลังการผ่าตัดเหล่านี้จะทำให้เลือดหยุดไหลช้า จึงเกิดปัญหาพังผืดบริเวณโดยรอบซิลิโคนตามมาได้เช่นเดียวกันกับข้อมูลข้างต้นที่กล่าวมาเช่นเดียวกันค่ะ

พังผืดหดรัดซิลิโคน อันตรายมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้เข้าพบศัลยแพทย์ผู้ผ่าตัดเสริมหน้าอกตามตรงเวลาที่กำหนดตรวจเช็คหน้าอกตรงเวลาหรือไม่ แน่นอนว่าในกรณีนี้เราอาจจะพบเห็นได้บ่อย คือ เสริมหน้าอกไปแล้ว พอหายดี ก็ไม่มาตามนัดที่ศัลยแพทย์นัดตรวจเช็คอาการหลังการเสริมหน้าอก แต่ในบางกรณีหากคนไข้ที่รู้ตัวเร็วว่าหน้าอกของตัวเองมีปัญหาพังผืด คือจับไปแล้วซิลิโคนหน้าอกเริ่มแข็ง เนื่องจากให้เนื้อสัมผัสที่รู้สึกต่างไปจากเดิม แต่มองภายนอกจะยังดูเป็นธรรมชาติอยู่ ศัลยแพทย์อาจแนะนำให้ค่อยๆ นวดบริเวณหน้าอกแต่ต้องเพิ่มแรงให้มากกว่าปกติ เพื่อทำให้พังผืดคลายตัวออกจากซิลิโคน แต่ในอีกกรณีคือต้องมีการเลาะพังผืด หรือทำการเสริมหน้าอกใหม่ ในปัญหาของผู้ที่มีการหดรัดของพังผืดไม่สามารถนวด หรือรับประทานยาเพื่อให้หน้าอกกลับคืนสภาพเดิมได้ ซึ่งมีวิธีเดียวคือการเลาะพังผืดเพื่อแก้ไขปัญหานี้เท่านั้น เช่น หากก่อนหน้านี้ได้ทำการเสริมซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อ ศัลยแพทย์จะนำซิลิโคนออกมาเลาะใหม่เพื่อวางตำแหน่งซิลิโคนใหม่ให้อยู่ใต้กล้ามเนื้อ แต่ถ้าหากวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้ออยู่แล้ว ศัลยแพทย์จะเลาะพังผืดเฉพาะด้านนอกออกทั้งหมด เพราะด้านหลังของตัวซิลิโคนจะติดกับซี่โครงระหว่างหน้าอก วิธีที่เหมาะสมจึงไม่แนะนำให้เลาะออกมาทั้งหมดให้เหมาะสมกับปัญหาที่เป็นอยู่นั่นเองค่ะ ถ้าหากใครที่เสริมหน้าอกไปแล้วไม่อยากหน้าอกแข็ง ก็อย่าลืมปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัดเพื่อที่ไม่ให้เกิดปัญหาตามมาในภายหลังน้า

ข้อควรรู้หากคิดจะเสริมหน้าอกให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงแก้

  • การวางซิลิโคน เหนือกล้ามเนื้อ – ใต้กล้ามเนื้อ ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เนื่องจากโอกาสการเกิดพังผืดของกางใส่ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อจะมีโอกาสอยู่ที่ 8-12 % แต่การวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อจะมีโอกาสการเกิดพังผืดอยู่ที่ 12 -18 %
  • การนวดหน้าอกหลังการเสริม เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าอกเกิดการหดรัดของพังผืดภายในตัวซิลิโคน อีกทั้งการนวดหน้าอกยังช่วยให้หน้าอกมีรูปทรงที่กระชับเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
  • ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกควรงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 เดือน เพราะแอลกอฮอล์และบุหรี่นั้นมีผลต่อหลอดเลือดดำจึงส่งผลทำให้เลือดหยุดไหลช้า และยิ่งการผ่าตัดเสริมหน้าอกเป็นการผ่าตัดใหญ่ และสารนิโคตินในบุหรี่นั้นส่งผลเสียทำให้ผิวหนังเสี่ยงต่อการขาดเลือดได้
  • งดและเว้นระยะในการรับประทานวิตามิน อาหารเสริม ยาบำรุง ก่อนผ่าตัดเสริมหน้าอกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายเสี่ยงต่อภาวะเลือดคลั่ง ก่อน – หลัง การผ่าตัดเสริมหน้าอก
  • เลือกซิลิโคนให้เหมาะสมกับหน้าอกและสรีระของตัวเอง เนื่องจากบางคนมีความคิดที่ว่า “ เสริมหน้าอกทั้งที่ ต้องทำให้ใหญ่ไปเลย “ นั่นเป็นความคิดที่ผิด เพราะถ้าหากเลือกเสริมหน้าอกให้ใหญ่เกินตัวจะทำให้ภายในบริเวณหน้าอกเกิดการต่อต้านและเลือดออกได้ง่าย จึงทำให้มีปัญหาเลือดคลั่งตามมา
  • ละเว้นการจับและบีบซิลิโคนหลังการเสริมในระยะแรกให้น้อยมากที่สุด เนื่องจากภายในหน้าอกนั้นแผล และเนื้อเยื่อยังไม่กระชับ จึงเสี่ยงทำให้เกิดเลือดคลั่งได้ และเกิดปัญหาพังผืดตามมา

แน่นอนว่าการเสริมหน้าอกเป็นการทำศัลยกรรมที่ผ่าตัดใหญ่ ดังนั้นสิ่งที่ควรคำนึงคือประสบการณ์การผ่าตัดของศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรงเท่านั้น เช่นเดียวกับ Apex Medical Center เป็นอีกหนึ่งสถาบันเสริมความงามที่มีการเสริมหน้าอกด้วยเทคนิคที่ปลอดภัยต่อตัวของคนไข้มากที่สุด ซึ่งกระบวนการและขั้นตอนสำหรับการผ่าตัดนั้นผู้เข้ารับบริการจะมั่นใจได้ว่าจะปลอดภัย และเหมาะสมกับตัวเองมากที่สุดอย่างแน่นอน เนื่องจากทุกขั้นตอนจะผ่านมือศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการ เสริมหน้าอก โดยตรงเท่านั้น

  • ศัลยแพทย์เฉพาะทางระดับอาจารย์ ประสบการณ์กว่า 20 ปี ได้รับรางวัลสูงสุดด้านศัลยกรรมความงาม Asia Pacific
  • เทคโนโลยี และเครื่องมือที่ใช้มีความก้าวหน้า ทันสมัย
  • ปลอดภัยด้วยห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ 10K (ผ่าตัดหัวใจและสมองได้) พร้อมห้องพักฟื้น VIP พยาบาลดูแล 24 ชั่วโมงรับประกันซิลิโคนตลอดอายุการใช้งาน
  • ตลอดระยะเวลาในการผ่าตัด จะได้รับดูแล และดมยาโดยวิสัญญีแพทย์เฉพาะทาง

ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศูนย์ศัลยกรรมความงามเอเพ็กซ์

📞 096-235-4564

📞 088-870-0039

📞 062-709-7279

📲 Line : @apexsurgery หรือ Click http://line.me/ti/p/%40APEXsurgery

#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #เสริมหน้าอก #ทำหน้าอก #ทำนม #ทำนมราคาถูก #ทำนมที่ไหนดี #เสริมหน้าอกที่ไหนดี #เสริมหน้าอก400ccราคา #เสริมอกราคาผ่อน #เสริมหน้าอกพักฟื้นกี่วัน#เสริมหน้าอกราคาถูก #ทำนมราคาถูก #เสริมหน้าอกที่ไหนดี2566 #ราคาเสริมหน้าอก #เสริมอกราคาผ่อน

Apex,apexmedicalcenter,เอเพ็กซ์,เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์,เสริมความงาม,คลินิกเสริมความงาม ,เสริมหน้าอก,ทำหน้าอก,ทำนม,ทำนมราคาถูก,ทำนมที่ไหนดี,เสริมหน้าอกที่ไหนดี,เสริมหน้าอก400ccราคา,เสริมอกราคาผ่อน,เสริมหน้าอกพักฟื้นกี่วัน,เสริมหน้าอกราคาถูก,ทำนมราคาถูก,เสริมหน้าอกที่ไหนดี2566,ราคาเสริมหน้าอก,เสริมอกราคาผ่อน