ปัญหาของคนที่ใบหน้าเริ่มดูมีอายุมักมาพร้อมกับอาการใบหน้าเหี่ยวย่น หย่อนคล้อย ไม่กระชับ สาเหตุเหล่านี้คงเป็นเพราะอายุของเราที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ไม่ว่าจะดูแลตัวเองดีเท่าไหร่แต่ก็ช่วยได้เพียงแค่เล็กน้อย ไม่ถึงกับกู้หน้าให้กลับมาคืนสภาพที่ดีเหมือนเมื่อก่อนได้ ดังนั้นอีกหนึ่งเทคนิคที่เราจะบอกให้กับทุกคนได้รู้กันในวันนี้นั่นคือการแก้ปัญหาด้วยนวัตกรรมในวงการศัลยกรรม ซึ่ง 2 วิธีที่จะมาบอกต่อกันให้ทุกคนได้ทราบกันในวันนี้ก็คือการ ร้อยไหม และ ดึงหน้า โดยสองเทคนิคนี้จะมีประโยชน์ทั้งข้อดี และข้อเสีย แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน เราจะมาสรุปให้ทุกคนเข้าใจกันได้ง่ายยิ่งขึ้นโดยจะแบ่งแยกเป็นแต่ละข้อค่ะ
ยกหน้าด้วยการ ร้อยไหม
ในการยกใบหน้าให้กระชับด้วยการร้อยไหมนั้น จะมีจุดที่ดึงคือช่วงบริเวณส่วนล่างของแก้ม และจุดที่ยึดไว้ก็คือบริเวณขมับ โดยดึงทั้งสองจุดนี้ให้เข้าหากัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ จากปกติแก้มที่หย่อนคล้อยอยู่นั้นจะตึงขึ้นทันทีแบบเห็นได้ชัด แต่รู้ไหมว่า “ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะไม่อยู่กับเราไปได้ในระยะยาว“ เพราะเวลาผ่านไปไหมก็เริ่มมีการหมดอายุการใช้งาน ต่อมาใบหน้าของเรานั้นก็ค่อย ๆ กลับมาหย่อนคล้อยคืนสภาพเหมือนเดิม ซึ่งจากการสำรวจใบหน้าของบางคนที่ได้ไปร้อยไหมมาก่อนนั้น อยู่ได้นานสุดแค่ 6-7 เดือน เรียกได้ว่าเจ็บตัวไม่พอ ยังต้องมาเสียเวลาคอยทำหัตถการนี้อยู่ซ้ำ ๆ อีกด้วย
ดึงหน้า ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
จากผู้เข้ารับบริการดึงหน้าต่างให้การยอมรับ และชื่นชมว่าดึงหน้ากับทาง Apex Medical Center เป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดอย่างแท้จริง เพราะข้อดีของการดึงหน้าที่ Apex มีมากมายหลายอย่าง เช่น ดึงหน้าลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อภายในด้วยเทคนิค High Smas Face Lift อีกทั้งยังช่วยกำจัดชั้นไขมัน และชั้นผิวที่เสื่อมสภาพ ช่วยฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังให้การไหลเวียนของเลือดทำงานดีขึ้น ส่งผลทำให้ใบหน้ามีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น สดใส ไม่หมองคล้ำ ผลลัพธ์ที่ได้ต่อมาคือริ้วรอยตีนกา ถุงใต้ตา ร่องแก้ม คาง และลำคอ เต่งตึงกระชับ ในส่วนของการผ่าตัดนั้นก็จะมีใช้เทคนิคเฉพาะที่ทำให้แผลเล็ก ไม่มีแผลเป็น ตำแหน่งของแผลถูกซ่อนในบริเวณที่ไม่มีใครสังเกตค่ะ
สรุปข้อแตกต่างการร้อยไหม และดึงหน้า
- ในกรณีของการ ร้อยไหม จะช่วยลดเลือนริ้วรอย หรือความหย่อนคล้อยที่เกิดจากชั้นเซลล์ผิวบริเวณใบหน้าเสื่อมสภาพ ซึ่งบางคนอาจใช้วิธีนี้เข้าไปแก้ปัญหาด้วยการร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้า แต่การร้อยไหมจะอยู่ได้ไม่นาน ต้องคอยทำซ้ำอยู่บ่อยครั้งจึงจะเห็นผลต่อเนื่อง
- ต่างกับการ ดึงหน้า ที่จะมีอายุการทำงานอยู่ยาวไปราวๆ 5-10 ปี หรือใบหน้าของบางคนอยู่ได้ยาวไปถึงเกือบ 20 ปีเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่แต่กับสภาพการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคล แต่บอกได้เลยว่า ทำทั้งทีควรแก้ปัญหาด้วยการทำครั้งเดียวให้จบไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเวลา และเจ็บตัวพักฟื้นอยู่หลายรอบ
การแก้ปัญหาให้ถูกจุดจากสาเหตุที่เราเป็น เรื่องแค่นี้จะช่วยทำให้ใบหน้าของเรากลับมาเต่งตึง ไม่หย่อนคล้อยดังเดิม Apex Medical Center เป็นอีกหนึ่งศูนย์ความงามที่สามารถช่วยให้ใบหน้าของคนที่มีปัญหาหย่อนคล้อย ไม่กระชับ เหี่ยวย่น กลับมาดีขึ้น อีกทั้งทาง Apex ยังดูแลโดยศัลยแพทย์เฉพาะทางระดับอาจารย์ รางวัลศัลยกรรมสูงสุด Global Health Asia Pacific 3 ปีซ้อน เท่านั้นยังไม่พอ เนื่องจากทางเราได้มาตรฐานการรักษาพยาบาล และบริการที่ได้มาตรฐานสูงสุดในระดับโลก ห้องผ่าตัดได้รับมาตราฐาน มีความปลอดภัยสูงระดับ ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์หลังดึงหน้า หรือการทำหัตถการอื่นๆ คนไข้ทุกคนจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังทำอย่างแน่นอนค่ะ
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศูนย์ศัลยกรรมความงามเอเพ็กซ์
Line : @apexsurgery หรือ Click http://line.me/ti/p/%40APEXsurgery
#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #หน้าหย่อนคล้อย #เลเซอร์แก้นอนกรน ราคา #หน้าหย่อนคล้อย แก้ยังไง #ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ #ยกกระชับหน้า วิธีไหนดีที่สุด #หน้าหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก #แก้มหย่อนคล้อย ทําไงดี #หน้าหย่อนคล้อย ราคา Apex
Apex,apexmedicalcenter,เอเพ็กซ์,เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์,เสริมความงาม,คลินิกเสริมความงาม ,หน้าหย่อนคล้อย,หน้าหย่อนคล้อย แก้ยังไง,ผิวหย่อนคล้อย ไม่กระชับ,ยกกระชับหน้า วิธีไหนดีที่สุด ,หน้าหย่อนคล้อย ร่องแก้มลึก,แก้มหย่อนคล้อย ทําไงดี,หน้าหย่อนคล้อย ราคา Apex