หน้าอกหย่อนคล้อย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของผู้หญิง เนื่องจากส่งผลกระทบในเรื่องของสรีระโดยตรง แต่จะรู้ได้อย่างไรละว่าหน้าอกของเราหย่อนคล้อยมากน้อยแค่ไหน นี่เลยค่ะวิธีการสังเกตเบื้องต้นที่สามารถเช็คได้ด้วยตัวเอง Pencil Test ขั้นตอนการเช็ค คือ ยกหน้าอกขึ้น และนำดินสอเข้าไปสอดใส่ใต้ฐานหน้าอก หลังจากนั้นจึงปล่อยหน้าอกลง หลังทำหากพบว่าดินสอไม่ร่วงลงมาหลังที่เราปล่อยหน้าอกแสดงว่าหน้าอกเริ่มหย่อนคล้อย แต่ถ้าดินสอร่วงลงมานั่นก็แปลว่าหน้าอกไม่หย่อนคล้อย และยังกระชับอยู่นั่นเองค่ะ
หน้าอกหย่อนคล้อยระดับไหน ควรยกกระชับหน้าอก
- หน้าอกหย่อนคล้อยระดับที่ 1 คือตำแหน่งของหัวนมหย่อนคล้อยลงมาอยู่ระดับเดียวกันกับฐานหน้าอก
- หน้าอกหย่อนคล้อยระดับที่ 2 คือตำแหน่งของหัวนมหย่อนคล้อยลงมาต่ำกว่าฐานของหน้าอกมากกว่าระดับแรก
- หน้าอกหย่อนคล้อยระดับที่ 3 คือตำแหน่งของหัวนมหย่อนคล้อยต่ำกว่าฐานหน้าอก และชี้ลงมาอยู่ข้างล่างฐานหน้าอก
- หน้าอกหย่อนคล้อยระดับที่ 4 คือเต้านมจะหย่อนคล้อยมาก อาจยาวลงมาถึงสะดือ และหัวนมชี้ลงมาอย่างเห็นได้ชัดเจน
ดังนั้นการแก้ปัญหาให้ตรงจุด อาจขึ้นอยู่กับปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อยของแต่ละบุคคลแตกต่างกันออกไป คือ
- ผู้ที่มีตำแหน่งฐานหน้าอกอยู่ในตำแหน่งปกติ : หากฐานหน้าอกที่อยู่ในระดับปกติ ไม่มีปัญหาการหย่อนคล้อยของหน้าอกเข้ามาแทรก การแก้ปัญหาด้วยการเสริมซิลิโคนเข้าไปก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยให้เนินหน้าอกนั้นมีรูปทรงที่สวยเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิม
- ผู้ที่มีตำแหน่งฐานหน้าอกหย่อนคล้อยระดับที่ 1-2 : ปัญหานี้เป็นปัญหาที่ค่อนข้างก้ำกึ่งระหว่างการเสริมซิลิโคน หรือการผ่าตัดยกกระชับ ซึ่งศัลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะต้องแยกปัญหาออกเป็นสองส่วน คือวัดจากคุณภาพของเนื้อภายในหน้าอกและผิวหนัง เพราะถ้าเนื้อของหน้าอกและผิวหนังมีลักษณะไม่หย่อนคล้อยมาก การแก้ไขปัญหาด้วยการเสริมซิลิโคนเพื่อเข้าไปเติมเต็มก็จะสามารถรักษาและแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างตรงจุด แต่ถ้าเนื้อและผิวหนังบริเวณหน้าอกมีลักษณะที่หย่อนคล้อยมาก ควรเสริมซิลิโคนพร้อมกับการยกกระชับไปด้วย ( การผ่าตัดยกกระชับหน้าอกในผู้ที่มีปัญหาเช่นนี้ ควรยกกระชับด้วยเทคนิคโดนัท เพราะเทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยปานกลางไม่มากจนเกินไป โดยการผ่าตัดนั้นศัลยแพทย์จะทำการตัดแต่งผิวหนังบริเวณรอบปานนมเป็นรูปวงกลม และเย็บผิวหนังที่ตัดแต่งเข้าหาหัวนม )
- ผู้ที่มีตำแหน่งฐานหน้าอกหย่อนคล้อยระดับที่ 3-4 : ปัญหานี้ควรแก้ไขด้วยการผ่าตัดยกกระชับหน้าอกเป็นหลัก เพื่อแก้ไขปัญหาหน้าอกที่หย่อนคล้อยในลักษณะที่มากกว่าระดับ 1-2 ( ซึ่งเทคนิคการผ่าตัดยกกระชับที่เหมาะสมคือ เทคนิคยกกระชับหน้าอกรูปตัวทีกลับหัว เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่หน้าอกหย่อนคล้อยมาก เพราะบริเวณหัวนมจะอยู่ต่ำกว่าระดับใต้ราวนม ซึ่งในการเลื่อนหัวนมขึ้นมาเพื่อที่จะให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเข้ากับสัดส่วนอื่นบริเวณหน้าอก ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดยกกระชับด้วยการตัดแต่งผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณส่วนเกินของหน้าอกด้วยการกรีดแผลเป็นแนวตั้ง และแนวนอน ) เทคนิคนี้เป็นการลดขนาดหน้าอกร่วมกับการเสริมหน้าอกร่วมกับการใส่ซิลิโคนเพื่อเข้าไปเติมเต็มให้หน้าอกมีความเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ซึ่งผลลัพธ์คือรูปทรงของหน้าอกกลับมาเต่งตึงและกระชับอีกครั้ง
เทคนิคการผ่าตัด ยกกระชับหน้าอก
- เทคนิคโดนัท เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยปานกลางไม่มากจนเกินไปโดยการผ่าตัดนั้นศัลยแพทย์จะทำการตัดแต่งผิวหนังบริเวณรอบปานนมเป็นรูปวงกลม และเย็บผิวหนังที่ตัดแต่งเข้าหาหัวนม
- เทคนิคยกกระชับรูปเสี้ยวพระจันทร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อยเทคนิคนี้จะเป็นการผ่าตัดยกกระชับบริเวณโดยรอบของปานนมเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ และยกตำแหน่งบริเวณหัวนมกับปานนมขึ้นเพียงเล็กน้อย ขั้นตอนการผ่าตัดเทคนิคนี้ใช้ระยะเวลาเพียง 2-3 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถยกระดับหัวนมขึ้นไปถึงประมาณ 1-2 ซ.ม. ได้อีกด้วย
- เทคนิคยกกระชับหน้าอกรูปตัวทีกลับหัว เหมาะสำหรับผู้ที่หน้าอกหย่อนคล้อยมาก ยกตัวอย่างเช่น บริเวณหัวนมจะอยู่ต่ำกว่าระดับใต้ราวนมซึ่งในการเลื่อนหัวนมขึ้นมาเพื่อที่จะให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเข้ากับสัดส่วนอื่นบริเวณหน้าอก ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดยกกระชับด้วยการตัดแต่งผิวหนังที่หย่อนคล้อยบริเวณส่วนเกินของหน้าอกด้วยการกรีดแผลเป็นแนวตั้ง และแนวนอน เทคนิคนี้เป็นการลดขนาดหน้าอกร่วมกับการเสริม ซึ่งผลลัพธ์คือรูปทรงของหน้าอกกลับมาเต่งตึงอีกครั้ง
- เทคนิคยกกระชับหน้าอกแนวตั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มีหน้าอกหย่อนคล้อยมากเช่นกัน แต่ยังไม่มากเท่าที่ควร โดยการผ่าตัดเทคนิคแนวตั้ง ศัลยแพทย์จะทำการตกแต่งผิวหนังบริเวณหน้าอกด้านนอก และด้านในให้ขยับเข้ามาตรงกลาง ข้อดีหลังทำคือหน้าอกจะมีรูปทรงที่ดูโดดเด่น สวยงาม เพราะส่วนบนของหน้าอกและหัวนมจะไม่มีลักษณะที่แบนเรียบลงไป
ยกกระชับหน้าอก ที่ Apex ปลอดภัย ไร้กังวล
Apex เป็นศูนย์ความงามแบบครบวงจร ดูแลโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการด้านเสริมความงามมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีเครื่องมือที่ทันสมัย รวมถึงทีมศัลยแพทย์ที่พร้อมให้การดูแลเป็นอย่างดี ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าผู้เข้ารับบริการทุกคน จะมั่นใจ และพึงพอใจกับผลลัพธ์ รวมไปถึงความปลอดภัย อีกทั้งห้องผ่าตัดได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ระดับ 10K เพราะสิ่งสำคัญที่ห้ามมองข้ามเลยคือห้องผ่าตัด ซึ่งปัจจัยหลักที่ทาง Apex ให้ความสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นการควบคุมอุณหภูมิ และอากาศภายในห้องผ่าตัด เพราะภายในนั้นจะต้องมีอากาศหมุนเวียนอยู่ประมาณ 20-25 เท่าของขนาดห้องต่อ 1 ชั่วโมง โดยอากาศที่อยู่ภายในห้องจะได้รับการคัดกรองผ่านระบบที่มีการกรองถึง 3 ระดับ และสามารถคัดกรองอากาศที่บริสุทธิ์ถึง 99.99% ส่วนการถ่ายเทอากาศออกภายในห้องนั้นจะต้องผ่านท่อพัดลมดูดอากาศ และต้องอยู่ในตำแหน่งที่สูง (หรือตำแหน่งที่อากาศไม่สามารถหมุนเวียนเข้ามาภายในห้องได้นั่นเองค่ะ) อีกทั้งในส่วนของการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องผ่าตัด จะต้องมีอุณหภูมิอยู่ที่ 17-24 องศา เพราะอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการผ่าตัดทุกหัตถการจะอยู่ที่ 20-23 องศา ทั้งนี้ยังจำเป็นต้องดูแลในส่วนของการควบคุมไม่ให้ภายในห้องผ่าตัดเกิดความชื้น เพื่อป้องกันไม่ให้อุณหภูมิของผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดมีอุณหภูมิร่างกายต่ำเกินไปเพราะสามารถมีผลต่อการป้องกันการเกิดแบคทีเรียได้
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศูนย์ศัลยกรรมความงามเอเพ็กซ์
Line : @apexsurgery หรือ Click http://line.me/ti/p/%40APEXsurgery
#Apex #apexmedicalcenter #เอเพ็กซ์ #เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์ #เสริมความงาม #คลินิกเสริมความงาม #เสริมหน้าอก #ทำหน้าอก #ทำนม #ทำนมราคาถูก #ทำนมที่ไหนดี #เสริมหน้าอกที่ไหนดี #เสริมหน้าอก400ccราคา #เสริมอกราคาผ่อน #เสริมหน้าอกพักฟื้นกี่วัน#เสริมหน้าอกราคาถูก #ทำนมราคาถูก #เสริมหน้าอกที่ไหนดี2566 #ราคาเสริมหน้าอก #เสริมอกราคาผ่อน
Apex,apexmedicalcenter,เอเพ็กซ์,เอเพ็กเมดิคอลเซ็นเตอร์,เสริมความงาม,คลินิกเสริมความงาม ,เสริมหน้าอก,ทำหน้าอก,ทำนม,ทำนมราคาถูก,ทำนมที่ไหนดี,เสริมหน้าอกที่ไหนดี,เสริมหน้าอก400ccราคา,เสริมอกราคาผ่อน,เสริมหน้าอกพักฟื้นกี่วัน,เสริมหน้าอกราคาถูก,ทำนมราคาถูก,เสริมหน้าอกที่ไหนดี2566,ราคาเสริมหน้าอก,เสริมอกราคาผ่อน