บทความเกี่ยวกับ : ร้อยไหมก้างปลา , ไหมก้างปลา

ร้อยไหม ไหมก้างปลา ทางเลือกเพื่อใบหน้าเรียวสวย
ใบหน้าเรียวสวยสมมาตรมองมุมไหนก็ดูดีต่างเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา นับแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จึงมีหัตถการเพื่อความงามมากมาย ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการนี้ หนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมไม่น้อยหน้าวิธีอื่น ๆ คือการร้อยไหมค่ะ ซึ่งร้อยไหมสามารถช่วยยกกระชับผิวหน้า แก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อยให้ดูเยาว์วัยมากยิ่งขึ้น โดยร้อยไหมก้างปลาเป็นเทคนิคที่ช่วยมอบใบหน้าเรียวกระชับ ด้วยการใช้เข็มขนาดเล็กสอดไหมละลายที่มีเงี่ยงเข้าสู่ชั้นผิวหนัง การร้อยไหมก้างปลาสามารถกระตุ้นสร้างคอลลาเจนรอบ ๆ เส้นไหม ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนและริ้วรอยดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

เหตุที่ร้อยไหมก้างปลาได้รับความนิยม เพราะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด และมีความปลอดภัยสูง บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับการร้อยไหมก้างปลากันค่ะ โดยจะกล่าวถึงรายละเอียดสำคัญ เช่น ร้อยไหมก้างปลาคืออะไร ? มีกี่แบบ ? ร้อยไหมเจ็บไหม ? และข้อดี-ข้อเสียของการร้อยไหมก้างปลา นอกจากนี้เราจะพูดถึงคำถามที่หลายคนสงสัยด้วย เช่น ควรดูแลตัวเองหลังจากร้อยไหมก้างปลาอย่างไร ? เมื่อได้รู้ข้อมูลสำคัญเบื้องต้นแล้วก็จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าร้อยไหมก้างปลาเหมาะกับตัวเองหรือไม่ค่ะ

ร้อยไหมก้างปลาคืออะไร ?
ร้อยไหมก้างปลาเป็นหนึ่งในวิธีการร้อยไหมปรับรูปหน้า โดยใช้เส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงลักษณะคล้ายก้างปลาเพื่อช่วยในการดึงและยกผิวหนัง ทำให้ใบหน้าหรือบริเวณเป้าหมายเกิดความกระชับได้รูปมากขึ้น ร้อยไหมก้างปลาเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม เพราะให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และสามารถปรับเปลี่ยนโครงหน้าให้ดูเรียวขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในขั้นตอนร้อยไหมแพทย์จะใช้เข็มพิเศษนำเส้นไหมเข้าสู่ชั้นผิวหนัง จากนั้นเงี่ยงของไหมก้างปลาจะช่วยยึดผิวหนังในตำแหน่งที่ต้องการดึง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย หรือต้องการปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด นอกจากนี้ร้อยไหมก้างปลายังเป็นวิธีที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว โดยผลลัพธ์ที่ได้จากการร้อยไหมก้างปลาคงอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และการดูแลอย่างถูกต้อง หลังร้อยไหม

บทความน่ารู้การร้อยไหมสามารถร้อยไหมบริเวณไหนได้บ้าง ??
ร้อยไหมบริเวณหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว
ร้อยไหมลดเหนียง บริเวณเหนียง ร้อยไหมเหนียง
ร้อยไหมบริเวณหางตา เพื่อยกหางตา ร้อยไหมยกหางตา (Foxy Eyes)
ร้อยไหมบริเวณปีกจมูก ร้อยไหมปีกจมูก
ร้อยไหมบริเวณกรอบหน้า ร้อยไหมกรอบหน้า
ร้อยไหมบริเวณร่องแก้ม ร้อยไหมร่องแก้ม
ร้อยไหมพิเศษไหม Mono ร้อยไหมคอลลาเจน
ร้อยไหมบริเวณจมูก ร้อยไหมจมูก

ร้อยไหมก้างปลามีลักษณะอย่างไร ?
ไหมก้างปลาคือเส้นไหมที่มีลักษณะพิเศษคล้ายกับเงี่ยงของก้างปลา ซึ่งเงี่ยงนี้จะช่วยยึดเกาะเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังได้ดีกว่าไหมปกติ ทำให้ผิวหนังเกิดการดึงและยกกระชับทันทีที่ทำการร้อยไหม โดยไหมก้างปลาสำหรับร้อยไหม จะทำจากวัสดุที่ปลอดภัย และได้รับการรับรองจากมาตรฐาน ทางการแพทย์ เช่น ไหม PDO (Polydioxanone) ที่จะค่อย ๆ ละลายไปตามเวลา ทั้งสามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเพิ่ม

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของไหมก้างปลาคือ สามารถทำงานได้ดีในบริเวณที่ต้องการความกระชับค่อนข้างมาก เช่น ร่องแก้ม แนวกรอบหน้า และใต้คาง ทำให้วิธีร้อยไหมก้างปลาเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมในวงการเสริมความงาม

ร้อยไหมก้างปลาดีไหม ?
การร้อยไหมก้างปลาเป็นหัตถการที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว สำหรับปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยไม่ต้องเสี่ยงกับการผ่าตัด นอกจากนี้ร้อยไหมก้างปลายังมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่ ๆ แก่ชั้นผิวต่อเนื่อง แม้เส้นไหมจะละลายไปแล้วก็ตาม ผิวจึงยังคงดูเต่งตึง เรียบเนียน และอิ่มฟูได้ยาวนาน

ข้อดีอีกอย่างของการร้อยไหมก้างปลาคือมักใช้เวลาในการร้อยไหมโดยประมาณเพียง 30-60 นาที และไม่ต้องพักฟื้นนาน เมื่อร้อยไหมเสร็จสิ้น สามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้เกือบทันทีค่ะ นอกจากนี้ ยังมีความปลอดภัยสูง หากทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ด้านการร้อยไหมปรับรูปหน้า วิธีดูแลหลังการร้อยไหมก้างปลาเองก็ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือกดบริเวณที่ร้อยไหมก้างปลาในช่วงแรก ๆ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์

อย่างไรก็ตามร้อยไหมก้างปลาอาจไม่เหมาะสำหรับทุกคนค่ะ ผู้ที่มีปัญหาผิวหนังมาก หรือมีการหย่อนคล้อยอย่างรุนแรง อาจต้องพิจารณาวิธีการรักษาอื่น เช่น การศัลยกรรมดึงหน้า (Facelift) หรือวิธียกกระชับที่เข้มข้นกว่า นอกจากนี้ยังต้องระมัดระวังในการเลือกแพทย์ เพราะหากร้อยไหมโดยผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ ผลลัพธ์อาจไม่เป็นที่พอใจหรือเกิดผลข้างเคียงได้ค่ะ

ร้อยไหมก้างปลาช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
การร้อยไหมก้างปลาสามารถช่วยแก้ปัญหาหลายประการ เกี่ยวกับความหย่อนคล้อยของผิว รวมถึงฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสิ่งที่ร้อยไหมก้างปลาทำได้ ได้แก่

• ร้อยไหมยกกระชับใบหน้า
จุดเด่นของการร้อยไหมก้างปลา คือ การยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อย ทำให้ผิวหนัง หรือใบหน้าดูเรียวขึ้นทันทีหลังร้อยไหม โดยเฉพาะบริเวณแก้ม คาง หรือกรอบหน้า

• ลดริ้วรอยและร่องลึกด้วยร้อยไหมก้างปลา
วิธีร้อยไหมก้างปลานั้นช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกต่าง ๆ เช่น ร่องแก้ม ริ้วรอยรอบดวงตา หรือริ้วรอยบริเวณหน้าผากได้อย่างชัดเจน ทว่าหากร่องแก้มลึกค่อนข้างมาก การร้อยไหมก้างปลาอาจไม่ได้ผลลัพธ์อย่างเต็มที่ค่ะ

• ร้อยไหมก้างปลาเพื่อฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว
นอกจากจุดเด่นเรื่องยกกระชับแล้ว ร้อยไหมก้างปลายังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว เนื่องจากการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่รอบ ๆ เส้นไหม ซึ่งจะทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ผิวดูสดใส เรียบเนียน และเต่งตึงอย่างเป็นธรรมชาติค่ะ

• ร้อยไหมช่วยปรับรูปหน้าให้สมส่วน
ผู้ที่มีปัญหาหน้ากลม ใบหน้าสองข้างไม่สมมาตร หรือมีแก้มห้อยย้อย สามารถใช้การร้อยไหมก้างปลาเพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเรียวและสมส่วนมากยิ่งขึ้นได้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการยกแก้ม ยกคาง ยกหางตา หรือดึงใบหน้าในส่วนต่าง ๆ ให้ได้รูปตามที่ต้องการ

• ร้อยไหมก้างปลามอบผลลัพธ์ค่อนข้างยาวนาน
แม้ว่าเส้นไหมก้างปลาที่ใช้จะละลายเองตามธรรมชาติภายในเวลา 6-12 เดือน แต่ผลจากการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนจะยังคงอยู่ ทำให้ผลลัพธ์ของการร้อยไหมก้างปลา สามารถอยู่ได้นานราว 1-2 ปี หลังจากร้อยไหมค่ะ

• เสริมความมั่นใจด้วยการร้อยไหมก้างปลา
ด้วยผิวหน้าดูเต่งตึงขึ้น รูปหน้าเรียวเล็กเข้ารูป และริ้วรอยร่องลึกลดลง ผู้ที่ทำการร้อยไหมก้างปลามักรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ด้วยรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ลง อย่างเป็นธรรมชาติ การร้อยไหมก้างปลาจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสม สำหรับคนที่ต้องการฟื้นฟูผิว และปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัด หรือวิธีการที่มีความเสี่ยงสูงค่ะ

ร้อยไหมก้างปลามีกี่แบบ ?
การร้อยไหมก้างปลาสามารถแบ่งออกได้ 3 แบบหลัก ๆ ตามวัสดุที่ใช้ผลิต ดังนี้ค่ะ

1.PDO (Polydioxanone) เส้นไหมละลายชนิด PDO เป็นไหมที่มีความยืดหยุ่นปานกลางและนิ่ม ไม่เปราะ ซึ่งอยู่ได้นานหลังร้อยไหมประมาณ 8-12 เดือน นิยมใช้ในการเย็บเส้นเลือดหัวใจและใช้ในวงการเสริมความงาม นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี
2.PLLA (Poly-L-Lactic Acid) เส้นไหม PLLA เป็นไหมละลายรุ่นแรก ๆ ในการร้อยไหม มีลักษณะค่อนข้างแข็งและเปราะง่าย ผู้ที่ร้อยไหมสามารถสัมผัสถึงเส้นไหมได้ แต่ PLLA จะช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินได้ดีที่สุด ซึ่งทำให้ไหมชนิดนี้มีประสิทธิภาพสูงในการร้อยไหมเพื่อยกกระชับ
3.PCL (Polycaprolactone) เส้นไหม PCL มีความยืดหยุ่นสูงที่สุดและเหมาะสำหรับร้อยไหมในจุดที่ละเอียดอ่อน โดยในปัจจุบัน PCL รุ่นล่าสุดได้มีการนำจุดแข็งของเส้นไหม PCL มาผสมผสานกับจุดแข็งของเส้นไหม PLLA ทำให้เส้นไหมชนิดนี้เหมาะสำหรับการร้อยไหมก้างปลาอย่างมาก เพราะมีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับได้ดี ไม่เปราะหรือขาดง่าย

ชื่อเรียกอื่น ๆ ของการร้อยไหมก้างปลา
นอกจากชื่อติดหูว่าร้อยไหมก้างปลา ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ ที่แต่ละคลินิกเสริมความงามตั้งขึ้นเพื่อการตลาดอีกค่ะ เช่น ไหมก้างปลา 8D, ไหมเงี่ยงกุหลาบ, ไหมปิรันย่า, ไหมจระเข้, ไหมมังกร, ไหมปากฉลาม, ไหมทับทิม, ไหม double-lock หรือไหมทอร์นาโด อย่างไรก็ตามในทางการแพทย์ ไหมชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งหมดเป็นไหมเงี่ยงที่ใช้ในกระบวนการร้อยไหมก้างปลาทั้งสิ้นค่ะ

ฉะนั้น เมื่อตัดสินใจที่จะร้อยไหมก้างปลา ควรให้ความสำคัญกับการเลือกไหมที่เหมาะสมและปลอดภัย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและคงอยู่ได้นานที่สุด ซึ่งก่อนร้อยไหม แพทย์จะช่วยเลือกเส้นไหมที่เหมาะสม กับปัญหาและความต้องการของแต่ละคนให้ค่ะ

นอกเหนือจากไหมก้างปลา มีไหมชนิดใดอีกบ้าง ?
นอกเหนือจากไหมก้างปลาแล้ว ยังมีการแบ่งลักษณะเส้นไหมออกเป็น 5 แบบหลัก ๆ ได้แก่

1.ไหมเรียบ (Mono threads) เป็นไหมละลายเส้นเรียบที่ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว นิยมใช้ร้อยไหมเพื่อกระตุ้นสร้างคอลลาเจน และลดริ้วรอย
2.ไหมเกลียว (Screw Threads /Tornado Threads) ใช้ไหม 1-2 เส้นพันเป็นเกลียวเพื่อเพิ่มความแข็งแรง ใช้ร้อยไหมเพื่อเติมเต็มผิวที่ยุบและยกกระชับผิว
3.ไหมกรวย (Silhouette Soft) มีปมติดเป็นระยะ ๆ ช่วยในการร้อยไหมเพื่อยกกระชับหน้า แต่ต้องใช้เข็มใหญ่ในการร้อย มีโอกาสบวมช้ำสูง
4.ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) มีลักษณะพิเศษคือสามารถหมุนได้ 360 องศา เห็นผลดีสำหรับร้อยไหมเพื่อยกกระชับใบหน้า
5.ไหมตาข่าย (Tesslift Soft) มีความแข็งแรง ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 80 เท่า

เห็นได้ว่านอกจากร้อยไหมก้างปลาที่ได้รับความนิยมแล้ว ยังมีไหมอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับการร้อยไหมเพื่อยกกระชับผิวอยู่อีกหลายชนิดค่ะ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคนว่าต้องการแก้ปัญหาอะไร และต้องการให้ผลลัพธ์จากการร้อยไหมเป็นแบบใด

ร้อยไหมก้างปลาเจ็บไหม ?
ระหว่างร้อยไหมก้างปลา อาจทำให้รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายในระดับเบาถึงปานกลางค่ะ โดยทั่วไปแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ก่อนร้อยไหมเพื่อลดความเจ็บปวด ทั้งนี้หลังจากร้อยไหมก้างปลาอาจมีอาการบวมเล็กน้อย แต่สามารถใช้การประคบเย็นและกินยาตามที่แพทย์แนะนำเพื่อลดอาการเหล่านี้ ที่สำคัญการดูแลตัวเองอย่างถูกต้องหลังร้อยไหมก้างปลาก็สามารถเร่งให้ผลข้างเคียงหายไวขึ้นค่ะ

ร้อยไหมก้างปลาอันตรายหรือไม่ ?
การร้อยไหมก้างปลาเป็นวิธีที่ถือว่ามีความปลอดภัยสูงค่ะ ทว่าต้องทำหัตถการร้อยไหมภายใต้แพทย์ที่มีความชำนาญและใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเท่านั้น อย่างไรก็ดีร้อยไหมก้างปลายังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง เช่น บวม ช้ำ หรืออาการไม่สบายในบริเวณที่ผ่านการร้อยไหม หากไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำหลังการรักษาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคุณภาพอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น การติดเชื้อ หรือไหมเคลื่อน ดังนั้นการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านร้อยไหมจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการร้อยไหมก้างปลาได้อย่างมาก

ร้อยไหมก้างปลาเหมาะกับใครบ้าง ?
การร้อยไหมก้างปลาจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาต่าง ๆ ดังนี้ค่ะ

1.ร้อยไหมก้างปลาเหมาะกับผู้ที่มีใบหน้าหย่อนคล้อย
ร้อยไหมก้างปลานั้นถูกคิดค้นเพื่อช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวเป็นหลักค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผลจากอายุที่เพิ่มขึ้นหรือสภาพผิวที่เสียความกระชับจากสาเหตุอื่น ผิวบริเวณแก้ม กราม หรือคางที่ดูหย่อนคล้อยสามารถฟื้นฟูได้ด้วยการร้อยไหมก้างปลาทั้งสิ้นค่ะ

2.ร้อยไหมก้างปลาเพื่อยกกระชับแก้มหรือกรอบหน้า
สำหรับใครที่มีปัญหาแก้มหย่อนหรือกรอบหน้าไม่ชัดเจน การร้อยไหมก้างปลาสามารถช่วยแก้ไขได้ โดยจะใช้เทคนิคร้อยไหมดึงกระชับบริเวณแก้มและกรอบหน้าให้ได้รูป ทำให้ใบหน้าดูเล็กและเรียวขึ้นทันทีค่ะ

3.ผู้ที่มีริ้วรอยหรือร่องลึก
ผู้ที่มีริ้วรอยโดยเฉพาะบริเวณร่องแก้ม หน้าผาก หรือรอบดวงตา ก็สามารถใช้การร้อยไหมก้างปลาเพื่อช่วยลดริ้วรอยและร่องลึกให้ดูตื้นขึ้นได้เช่นกันค่ะ เนื่องจากไหมก้างปลาสามารถช่วยดึงและยกผิวให้เรียบเนียนขึ้นในทันที

4.ร้อยไหมก้างปลาเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่
สำหรับคนที่อยากยกกระชับใบหน้า แต่กลัวหรือไม่ต้องการเสี่ยงกับการผ่าตัด การร้อยไหมก้างปลาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจค่ะ เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นน้อย ซึ่งสามารถกลับไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ทันทีหลังร้อยไหมก้างปลาเสร็จสิ้น

5.ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวแบบเร่งด่วน
หากคุณต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังรักษา ร้อยไหมก้างปลาตอบโจทย์อย่างแน่นอนค่ะ เพราะร้อยไหมจะยกกระชับใบหน้าและลดริ้วรอยได้ทันทีหลังทำ โดยผลลัพธ์ของร้อยไหมก้างปลาจะยิ่งชัดเจนขึ้นใน 1-3 เดือน

6.ร้อยไหมก้างปลากระตุ้นคอลลาเจนในผิว
สำหรับคนที่ต้องการทั้งความยกกระชับและกระตุ้นสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ชั้นผิว การร้อยไหมก้างปลามอบให้ได้ทั้งคู่ค่ะ ผิวหน้าจะดูสดใสอ่อนเยาว์ขึ้น เมื่อเส้นไหมเริ่มกระตุ้นสร้างคอลลาเจน ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิวก็สามารถใช้การร้อยไหมก้างปลาได้เช่นกันค่ะ

7.ร้อยไหมก้างปลาเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใบหน้าไม่สมส่วน
การร้อยไหมก้างปลายังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูสมส่วนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการยกกระชับคางหรือดึงใบหน้าให้ดูเรียวสวย ผู้ที่มีปัญหาหน้ากลมหรือใบหน้าไม่กระชับจะได้รับประโยชน์จากการร้อยไหมก้างปลาอย่างดีค่ะ

ร้อยไหมก้างปลาไม่เหมาะกับใคร
แม้ร้อยไหมก้างปลาเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในการปรับรูปหน้าและยกกระชับผิว แต่ไม่ใช่ทุกคนที่เหมาะกับการร้อยไหม ซึ่งมีกรณีเฉพาะที่ควรพิจารณา ดังนี้ค่ะ

1.ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ คนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน หรือปัญหาการแข็งตัวของเลือด ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหมก้างปลา เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียง
2.ร้อยไหมก้างปลาไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ไม่แนะนำให้ร้อยไหมก้างปลาในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรค่ะ เนื่องจากฮอร์โมนในร่างกายอาจกระทบต่อผลลัพธ์ของการรักษา และความปลอดภัยของทั้งแม่และเด็ก
3.ร้อยไหมก้างปลาไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย หากมีประวัติการแพ้หรือระคายเคืองจากวัสดุที่ใช้ในการร้อยไหม เช่น เส้นไหม หรือยาชา ควรหลีกเลี่ยงการร้อยไหมก้างปลาค่ะ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้หรืออาการข้างเคียงไม่พึงประสงค์
4.การร้อยไหมไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนัง หากมีปัญหาผิวหนัง เช่น สิว, โรคผิวหนังอักเสบหรือแผลเปิด การร้อยไหมก้างปลาอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากสามารถทำให้ปัญหาเหล่านี้แย่ลงค่ะ

ข้อดีของการร้อยไหมก้างปลา
• หลังร้อยไหมก้างปลาสามารถเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงได้ทันที
• หลังร้อยไหมก้างปลาเสร็จสิ้น โดยทั่วไปแทบไม่ต้องพักฟื้น และกลับไปใช้ชีวิตประจำวันต่อได้ทันที
• วิธีร้อยไหมก้างปลาช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ในผิวหนัง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง
• เนื่องจากใช้เข็มขนาดเล็กและไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่มีรอยแผลเป็นขนาดใหญ่จากการร้อยไหมก้างปลา
• ร้อยไหมก้างปลาช่วยยกกระชับหน้าและปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยโดยไม่ดูแข็งหรือไม่เป็นธรรมชาติ

ข้อเสียของการร้อยไหมก้างปลา
• หลังร้อยไหมก้างปลาอาจมีอาการบวมและช้ำ
• ผลลัพธ์ของการร้อยไหมก้างปลาไม่ถาวร อยู่ได้เพียง 1-2 ปี จึงต้องร้อยไหมซ้ำหากต้องการผลลัพธ์ต่อเนื่อง
• หากไม่ดูแลรักษาความสะอาด อาจเกิดการติดเชื้อบริเวณที่เพิ่งร้อยไหมได้ง่าย
• ต้องเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการร้อยไหมปรับรูปหน้าเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียงจากผลลัพธ์ไม่พึงประสงค์

ควรเตรียมตัวก่อนร้อยไหมก้างปลาอย่างไร
การเตรียมตัวก่อนร้อยไหมก้างปลา ควรเริ่มจากเข้าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสม จากนั้นก่อนเข้ารับการร้อยไหมควรหลีกเลี่ยงการกินยาหรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่ทำให้เลือดหยุดยาก เช่น แอสไพรินหรือวิตามินอี เป็นเวลาอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ควรงดดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เพื่อป้องกันอาการบวมและช้ำ นอกจากนี้ต้องพักผ่อนให้เพียงพอและรักษาความสะอาดของผิวหน้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อระหว่างร้อยไหมค่ะ

ควรดูแลตัวเองหลังร้อยไหมก้างปลาอย่างไร
• หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา หรือกดนวดในจุดที่เพิ่งร้อยไหมเพื่อป้องกันไหมเคลื่อน
• ห้ามประคบเย็นหากมีอาการปวดมาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมจะดีที่สุดค่ะ
• สามารถล้างหน้าและแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ต้องงดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน
• หลีกเลี่ยงแสงแดด และงดกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น อบซาวน่า หรือออกกำลังกายหนัก ๆ เป็นเวลา 3 วัน
• หลีกเลี่ยงการนวดหน้าและทำหัตถการอื่น ๆ บริเวณใบหน้าเป็นเวลา 14 วัน
• ลดการขยับใบหน้าในช่วง 3 วันแรกหลังร้อยไหมก้างปลา
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่หลังร้อยไหมเป็นเวลา 14 วัน
• ปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์ในการทานยาแก้ปวดและยาป้องกันการอักเสบอย่างเคร่งครัด
• ควรนอนหงายเพื่อไม่ให้เกิดการกดทับบริเวณที่ร้อยไหม

หลังร้อยไหมก้างปลาหน้าบวมกี่วัน ?
การร้อยไหมก้างปลาเป็นเทคนิคที่ต้องใช้เข็มขนาดเล็กแทงเข้าไปใต้ชั้นผิว ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดบาดแผลเล็กน้อยที่ร่างกายต้องซ่อมแซมตามธรรมชาติ จึงส่งผลให้มีอาการอักเสบและบวมเกิดขึ้นได้ โดยทั่วไปหลังจากร้อยไหมก้างปลา อาการบวมจะเกิดขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก จากนั้นจะค่อย ๆ ยุบและหายไปเองในระยะเวลา 7-14 วันค่ะ แต่หากพบว่ามีอาการบวม แดง หรือเจ็บปวดมากผิดปกติ ควรรีบกลับไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจประเมิน

ร้อยไหมก้างปลาเห็นผลลัพธ์เมื่อไร อยู่ได้นานแค่ไหน
ร้อยไหมก้างปลาสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ โดยปกติแล้วจะเข้าที่และชัดเจนขึ้นในช่วงประมาณ 1 เดือน และผลลัพธ์มักอยู่ได้นานตั้งแต่ 1-2 ปี อย่างไรก็ตามความยาวนานจะขึ้นอยู่กับประเภทของเส้นไหมที่เลือกใช้ สภาพผิว จำนวนเส้นไหม และวิธีดูแลหลังทำค่ะ

เห็นได้ว่าการร้อยไหมก้างปลานับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยและกระชับ โดยไม่ต้องผ่าตัด หมดกังวลเรื่องปัญหาบาดแผล และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน เพราะวิธีร้อยไหมคือการใช้เส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงช่วยดึงยกผิวหน้า ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนทันทีหลังทำ

โดยการร้อยไหมก้างปลาจะมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน ตามประเภทของเส้นไหมที่ใช้ค่ะ นอกจากนี้ วิธีดูแลตัวเองหลังร้อยไหม ก็มีความสำคัญต่อการคงผลลัพธ์ให้ยาวนานอย่างยิ่ง จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เต็มที่และยาวนาน

ถึงแม้ว่าการร้อยไหมก้างปลาจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและปลอดภัย ทว่าก็ยังต้องพิจารณาสภาพผิวและสุขภาพโดยรวมก่อนตัดสินใจทำการรักษา เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่ตรงตามความคาดหวังของแต่ละบุคคลค่ะ

FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการร้อยไหมก้างปลา
ร้อยไหมก้างปลาเห็นผลลัพธ์เมื่อไหร่ ?
เห็นผลทันทีหลังจากร้อยไหมก้างปลาเสร็จสิ้นค่ะ ทว่าผลลัพธ์จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นในประมาณ 1 เดือน เมื่อไหมได้ที่และเริ่มกระตุ้นสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว

ร้อยไหมก้างปลาอยู่ได้นานแค่ไหน ?
ผลลัพธ์ของร้อยไหมก้างปลามักอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับประเภทของเส้นไหมที่ใช้ จำนวนไหม สภาพผิวของแต่ละบุคคล และการดูแลตัวเองค่ะ

ร้อยไหมก้างปลามีอาการข้างเคียงอะไรบ้าง ?
หลังร้อยไหมก้างปลาอาจมีอาการบวม แดง หรือเขียวช้ำเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ โดยอาการเหล่านี้มักจะค่อย ๆ หายเองภายใน 1-2 สัปดาห์ค่ะ

ใครที่ไม่ควรร้อยไหมก้างปลา ?
แม้วิธีร้อยไหมก้างปลาจะมีความปลอดภัยสูง ทว่าไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพเฉพาะ เช่น โรคเบาหวานที่ไม่ได้รับการควบคุม หรือผู้ที่มีการติดเชื้อในบริเวณที่จะทำการร้อยไหม ฉะนั้นควรปรึกษาแพทย์และแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ ด้านสุขภาพก่อนเข้ารับการร้อยไหมก้างปลาเสมอค่ะ

สามารถร้อยไหมก้างปลาซ้ำได้หรือไม่ ?
ทำได้ค่ะ ทว่าแนะนำให้ร้อยไหมก้างปลาซ้ำ เมื่อไหมรอบเก่าเริ่มละลาย และผลลัพธ์เริ่มลดลง ซึ่งปกติจะอยู่ที่ประมาณ 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และประเภทของไหมที่ใช้ค่ะ

ดูแลผิวหลังร้อยไหมก้างปลาอย่างไร ?
ควรประคบเย็นในวันแรกหลังการร้อยไหมก้างปลาเพื่อช่วยลดบวม และหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกค่ะ

สามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับ ร้อยไหมก้างปลา คืออะไร ไหมก้างปลา แตกต่างจากไหมอื่นๆ อย่างไร,ร้อยไหมก้างปลา , ไหมก้างปลา หรือสอบถามรายละเอียด โปรโมชั่นพิเศษ หรือ หัตถการอื่น ๆ ของ APEX เพิ่มเติมได้ทุกช่องทางค่ะ

Apex

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเฉพาะบุคคล เงื่อนไขตามบริษัทฯ กำหนด
ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อการโฆษณาสำหรับ Apex Clinic สาขาเพลินจิต

ร้อยไหมก้างปลาเป็นหนึ่งในวิธีการร้อยไหมปรับรูปหน้า โดยใช้เส้นไหมละลายที่มีเงี่ยงลักษณะคล้ายก้างปลาเพื่อช่วยในการดึงและยกผิวหนัง

2481
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น