บทความเกี่ยวกับ : Radiesse

ร่วมไขกุญแจความลับแห่งความงาม ในงาน Radiesse® Versatility: A Regenerative Biostimulator for All อัปเดตนวัตกรรมลดเลือนริ้วรอยสุดปัง ย้อนหวนคืนผิวหน้าอ่อนเยาว์อีกครั้ง กับนวัตกรรม Ragenerative Biostimulator 

เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา APEX ร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมความงามรูปแบบใหม่ในงาน Radiesse® Versatility: A Regenerative Biostimulator for All ณ ห้อง Magnolia Ballroom ชั้น 10 ที่โรงแรม Waldorf Astoria ซึ่งมีจุดประสงค์ในการร่วมกันอัปเดตความรู้และนวัตกรรมใหม่ พร้อมกับการเจาะเบื้องลึกถึงเทคนิคต่าง ๆ ที่ใช้ในการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ภายในงานนี้ APEX นำโดยอาจารย์แพทย์ดนัย ประดิษฐสุวรรณ์ ได้รับเกียรติให้เป็น Special Guest ในการให้ความรู้ และนำเสนอเกี่ยวกับเทคนิคต่าง ๆ เกี่ยวกับนวัตกรรม Regenerative Biostimulator อีกทั้งยังมีแพทย์จาก APEX อีก 5 ท่าน ที่เข้าร่วมภายในงานนี้ ได้แก่ นพ.วิศรุต จิตต์ศิริ (คุณหมอแม็ค) นพ.ศักดิพงศ์ ตั้งเสถียรชัยกุล (คุณหมอภูมิ) นพ.ธนกร ลีลาสูรยกานต์ (คุณหมอก๊อต) พญ.ธันย์ชนก เสมอเหมือน (คุณหมอธันย์) พญ.ณัชชา ณ หนองคาย (คุณหมอณัชชา) และ นพ.กรไชย ภู่เจริญกุล (คุณหมอนาย)

วัตถุประสงค์ของงานในครั้งนี้ก็คือการอัปเดตนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการความงาม รวมไปถึงการนำเสนอเทคนิคพิเศษในการยกกระชับผิว ปรับกรอบหน้าให้คมชัด พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องการปรับรูปร่างให้กระชับทุกมุมมอง ด้วยนวัตกรรมล้ำหน้าระดับโลก ซึ่ง APEX ได้เห็นโอกาสในจุดนี้ และมีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาปรับใช้ภายในคลินิกของเรา เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น

หลาย ๆ คนคงอยากจะรู้ว่า เทคโนโลยีลดริ้วรอยจาก Radiesse® เป็นยังไง แล้วนวัตกรรม Regenerative Biostimulator มีประโยชน์ยังไงต่อการลดเลือนริ้วรอยบ้าง วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้กับทุกคนค่ะ

Radiesse® เคล็ดลับความงามของวัย 30+

เมื่อก้าวสู่วัย 30+ ผิวหน้าของเรามักเริ่มแสดงสัญญาณไม่ดี เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ และผิวที่ขาดความชุ่มชื้น การดูแลผิวที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยชะลอสิ่งเหล่านี้และทำให้ผิวยังคงความอ่อนเยาว์ ซึ่ง Radiesse® ได้กลายเป็นตัวช่วยที่โดดเด่นสำหรับการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึก ด้วยคุณสมบัติที่ไม่เพียงช่วยลดเลือนริ้วรอย แต่ยังช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในด้วย

Radiesse® คืออะไร ?

Radiesse® เป็นสารเติมเต็มชนิดพิเศษ (Filling Substance) ที่มีส่วนประกอบหลักคือ แคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite หรือ CaHA) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ Radiesse® ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม Regenerative Biostimulator เพราะนอกจากจะเติมเต็มร่องลึกได้ทันที ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับและดูอ่อนเยาว์ในระยะยาว

จุดเด่นของ Radiesse® มีอะไรบ้าง ?

Radiesse® เป็นมากกว่าการเติมเต็มริ้วรอย เพราะช่วยในการฟื้นฟูผิวครบทั้ง 5 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน TYPE 1 เพิ่มขึ้น 150% ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นให้ผิว
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน TYPE 3 เพิ่มขึ้น 130% เสริมความเรียบเนียนและความยืดหยุ่นในชั้นผิว
• เพิ่ม Elastin สูงถึง 260% ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและดูเต่งตึง
• เพิ่มความชุ่มชื้นด้วย Proteoglycan ช่วยเก็บกักน้ำในชั้นผิว ทำให้ผิวดูอิ่มน้ำและสดใส
• ส่งเสริมการสร้างหลอดเลือดใหม่ด้วย Angiogenesis ช่วยเติมสารอาหารและออกซิเจนให้กับผิว

Radiesse® เหมาะกับใครบ้าง ?

Radiesse® เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูอ่อนเยาว์และเป็นธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวและต้องการผลลัพธ์ ดังนี้
• ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก หรือริ้วรอยรอบปาก
• ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้แข็งแรงและยืดหยุ่น
• ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยาวนาน (12-18 เดือน) โดยไม่ต้องฉีดบ่อย
• ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้า เช่น เติมคาง ยกกระชับแนวกราม หรือเติมเต็มขมับที่ตอบ

Radiesse® ใช้ฉีดบริเวณใดได้บ้าง ?

Radiesse® มีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้เติมเต็มและฟื้นฟูได้หลายบริเวณ ได้แก่
• ร่องแก้ม โดยสามารถลดเลือนริ้วรอยลึกบริเวณจมูกถึงมุมปาก
• ร่องน้ำหมาก สามารถเติมเต็มร่องลึกบริเวณมุมปากให้เต็มได้
• คาง สามารถฉีดเพื่อเสริมรูปคางให้ได้สัดส่วน
• แนวกราม สามารถยกกระชับกรอบหน้าให้ดูชัดเจนมากยิ่งขึ้น
• ขมับ ใช้ในการเติมเต็มขมับที่ตอบ
• หลังมือ โดยฟื้นฟูความอ่อนเยาว์ของผิวหลังมือ

ทำไม Radiesse® จึงเหมาะกับวัย 30+ ?

เมื่อเข้าสู่วัย 30+ ผิวของเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนและอิลาสตินตามธรรมชาติ การใช้ Radiesse® ซึ่งเป็น Regenerative Biostimulator ช่วยตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ โดยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายใน พร้อมมอบผลลัพธ์ที่ยาวนานและดูเป็นธรรมชาติ

ก่อนฉีด Radiesse® ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?

การเตรียมตัวก่อนฉีด Radiesse® เป็นขั้นตอนที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้การฉีดสารเติมเต็มมีประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้เข้ารับบริการ ซึ่งการเตรียมตัวเบื้องต้นมีดังนี้
• ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการฉีดสารเติมเต็ม เพื่อประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับปัญหาเฉพาะบุคคล
• แจ้งประวัติทางการแพทย์ให้ละเอียด เช่น โรคประจำตัว การแพ้ยา และยาที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
• หลีกเลี่ยงยาต้านการอักเสบ (NSAIDs) และยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน และวาร์ฟาริน อย่างน้อย 7 วันก่อนการฉีด เพื่อป้องกันรอยช้ำหรือเลือดออกง่าย
• งดอาหารเสริมที่มีผลเพิ่มความเสี่ยง เช่น วิตามินอี น้ำมันปลา หรือโสม
• งดการดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มคาเฟอีน อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนเข้ารับการฉีด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำ
• หลีกเลี่ยงการขัดผิว การทำเลเซอร์ หรือสครับผิวบริเวณที่ต้องฉีด ประมาณ 3-7 วันก่อนการรักษา
• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูตัวเองได้ดี
• ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
• ในวันฉีด ควรล้างหน้าให้สะอาดและงดการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารระคายเคือง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

หลังฉีด Radiesse® ต้องดูแลตัวเองอย่างไร ?

การดูแลตัวเองหลังฉีด Radiesse® มีความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนก่อนการฉีด เพราะสามารถช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานและลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน การดูแลตัวเองหลังฉีดมีรายละเอียดดังนี้
• ห้ามนวดหรือกดแรง ๆ บริเวณที่ฉีดในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก เพื่อป้องกันการกระจายตัวของสารเติมเต็มผิดตำแหน่ง
• ใช้ถุงน้ำแข็งหรือผ้าชุบน้ำเย็นประคบบริเวณที่ฉีดเพื่อลดอาการบวมและรอยช้ำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดแรงเกินไป
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เช่น การยกน้ำหนัก หรือกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมากในช่วง 24-48 ชั่วโมง
• งดการสัมผัสความร้อน เช่น การเข้าซาวน่า การแช่น้ำร้อน หรือการโดนแสงแดดจัด
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารหมักดอง หรืออาหารแปรรูปในช่วง 24-48 ชั่วโมง
• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีรุนแรง เช่น สบู่หรือโฟมล้างหน้าที่ไม่มีแอลกอฮอล์
• ทาครีมกันแดดทุกวันด้วย SPF 30 ขึ้นไป เพื่อป้องกันปัญหาผิวหลังการรักษา
• สังเกตผลลัพธ์หลังการฉีด และติดตามการรักษากับแพทย์ตามกำหนด เพื่อปรึกษาหรือปรับแต่งเพิ่มเติมหากจำเป็น

การเลือกคลินิกในการฉีด Radiesse® ให้ปลอดภัย

การเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับการรักษาที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ดังนั้นควรพิจารณาคลินิกที่มีคุณสมบัติดังนี้
• คลินิกควรมีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมายและได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข
• ควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์เฉพาะทางด้านการฉีดสารเติมเต็ม และมีประสบการณ์
• ตรวจสอบว่าคลินิกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) เพื่อความปลอดภัย
• ควรเลือกคลินิกที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ที่สะอาดและผ่านการฆ่าเชื้อ
• ตรวจสอบรีวิวและความคิดเห็นของผู้ที่เคยเข้ารับบริการ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ
• คลินิกควรมีบริการให้คำปรึกษาอย่างละเอียดก่อนการฉีด และระบบติดตามผลหลังการรักษา

Radiesse® ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวอย่างล้ำลึกและมีผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ ทั้งนี้ การเตรียมตัวและการดูแลหลังฉีด รวมถึงการเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน จะช่วยให้คุณได้รับความปลอดภัยจากการทำหัตถการ และมีความสุขกับผลลัพธ์ที่ได้

APEX เป็นหนึ่งในคลินิกความงามที่มีมาตรฐานระดับเอเชีย เรามีแพทย์ด้านการฉีดสารเติมเต็มโดยเฉพาะ รวมไปถึงเรามีความมุ่งมั่นในการพัฒนาบุคคลากรของเราเสมอ เพื่อให้สามารถเข้าใจและทำหัตถการให้กับลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

หากใครสนใจที่จะฉีด Radiesse® หรืออยากสอบถามข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Line OA: @apexlifting เราพร้อมยินดีให้บริการกับลูกค้าทุกคนอยู่เสมอ แล้วมาสัมผัสความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันนะคะ

APEX ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอัปเดตนวัตกรรมความงามรูปแบบใหม่ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมความงามของประเทศไทยในงาน Radiesse® Versatility: A Regenerative Biostimulator for All

479
ลงทะเบียน
ลงทะเบียน
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
Apex
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น