บทความเรเดียสซ์

Radiesse vs Sculptra vs Filler แตกต่างกันอย่างไร

Radiesse vs Sculptra vs Filler แตกต่างกันอย่างไร

Radiesse® vs Sculptra vs Filler แตกต่างกันอย่างไร?
เมื่อเราพูดถึงการดูแลผิวหน้าและความสวยงามของผิวในยุคของ 2023 สารเติมเต็มงานผิวผุดขึ้นมาเต็มท้องตลาดไปหมด ไหนจะ Filler , Sculptra ที่กำลังมาแรงอยู่แล้ว แต่ที่ใหม่กว่าก็คือ Radiesse® คำถามคือ แล้วฉัดควรเลือกตัวไหนดีล่ะ? สรุปแล้วตัวไหนดีกันแน่? เพื่อให้ผิวหน้าดูดีและสมบูรณ์? ในบทความนี้เราจะช่วยแนะนำคุณในการเลือก 3 สารเติมเต็มว่า Radiesse® vs Sculptra vs Filler เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ตัวไหนที่เหมาะสำหรับเรา และตอบโจทย์งานผิวที่เราต้องการมากที่สุด ถ้าอยากทราบแล้วว่าเราเหมาะกับสารเติมเต็มแบบไหนติดตามอ่านกันได้เลยค่ะ

ก่อนอื่นเลยต้องทำความเข้าใจก่อนว่า โดยปกติแล้วในชั้นใต้ผิวของเราก็จะมีคอลลาเจนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าทุกคนทราบกันอยู่แล้วเนอะ เมื่อผิวสร้างคอลลาเจนเองได้แต่ทำไมเราถึงต้องใช้สารเติมเต็มฉีดเข้าไปในผิวอีก? คำตอบก็คือถ้าหากว่าอยากให้มีผิวดีตลอดกาลก็ต้องใช้สารเติมเต็มนี้เข้าไปเติมเต็มคอลลาเจนที่หายไปค่ะ เพราะว่ามีหลายปัจจัยมากๆ ที่ทำให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนลดน้อยลงเราถึงต้องใช้สารเติมเต็มในการทำให้ผิวเต่งตึงดูสุขภาพดี

สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic Acid หรือที่ใครๆ เรียกติดปากว่า Filler

สารเติมเต็ม Filler
Hyaluronic Acid หรือ ไฮยารูลอนิคแอซิด หรือย่อว่า HA ในปกติแล้ว HA เป็นสารชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี ช่วยผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี แต่เมื่อเราอายุมากขึ้นร่างกายของเราจะผลิตสารไฮยาลูรอนและคอลลาเจนได้น้อยลงเรื่อย ๆ ทำให้มีปัญหาผิวและริ้วรอย จึงต้องมีการเติม HA เพื่อเข้าไปทดแทนและเพิ่มวอลลุ่มผิวที่หายไป ทำให้ผิวเรามีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นได้ดี ให้ผลลัพธ์นาน 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับชนิด HA อยากทำความรู้จัก HA เพิ่มเติมคลิก

ประโยชน์ของ HA
• เพิ่มวอลลุ่มผิว เติมเต็มริ้วรอยร่องลึก
• ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนตามปัญหาที่อยากแก้ไข
• ผิวอิ่มน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
• ช่วยเติมความชุ่มชื่นสู่สภาพผิวหนัง แลดูฉ่ำวาว
• ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง ทำให้ผิวเต่งตึง ดูอ่อนวัย
• ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ลดริ้วรอยต่างๆบนผิว

เหตุผลที่เราต้องเติม HA
ร่างกายสร้าง HA ได้น้อยลง + เสียคอลลาเจนลงทุกวัน ทำให้ผิวหย่อนตัว และมีร่องริ้วรอย เราจึงต้อง ใช้ HA เติมเพื่อทดแทนวอลลุ่มผิวที่หายไป ดังนั้น HA จึงเหมาะกับคนที่คอลลาเจนผิวยังดีอยู่ แต่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มผิวที่หายบางจุด และเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวเป็นหลัก

Filler เป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มปริมาณของสารในรายละเอียดของผิวหนัง ฟิลเลอร์มีหลายประเภทที่สามารถใช้งานได้ในหลายพื้นที่ของใบหน้า เช่น ใต้ดวงตา, รอบปาก, และแก้ม หลักๆ แล้วฟิลเลอร์คือการปรับปรุงโครงสร้างหรือลดริ้วรอยที่คุณไม่พึงพอใจ ซึ่งทำได้อย่างดีในการทำให้ริ้วรอยรอบปากหรือริ้วรอยตามขอบซี่โครงหน้าเป็นต้น

เจาะลึกสารกระตุ้น Collagen Biostimulator ที่กำลังมาแรง!

Radiesse Sculptra Filler

Radiesse vs Sculptra vs Filler แตกต่างกันอย่างไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

RADIESSE® กระชับและกระตุ้นคอลลาเจน
RADIESSE® มีสารประกอบของแคลเซียมไฮโดรซีลเคียมอะปาไซต์ Calcium hydroxylapatite (CaHA) ที่ช่วยกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนภายในผิวหนัง ซึ่งช่วยกระชับผิวหน้าได้ดี แต่ที่สำคัญกว่าคือ CaHA ยังสามารถกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนภายในผิวหนัง นี้จะทำให้ผิวหน้าดูกระชับและมีความยืดหยุ่น ร่วมกับการลดริ้วรอยที่ชัดเจน ผลลัพธ์ที่คุณได้คือผิวหน้าที่ดูสมบูรณ์และสดใส ผลลัพธ์คือผิวหน้าที่กระชับและมีความยืดหยุ่น ร่วมกับการลดริ้วรอยที่ชัดเจน

CaHA คืออไร?
สาร CaHA ก็คือ Calcium Hydroxylapatite Microshere หรือ แคลเซียมฟิลเลอร์ เพื่อให้ง่ายต่อการพูด เราจะเรียกย่อ ๆ ว่า “คา-ฮ่า ไมโครสเฟียร์” เดิมทีจะถูกใช้เป็นสารทดแทนกระดูกเพราะมีความปลอดภัยสูงและเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายมนุษย์ ซึ่ง CaHA ถูกนำมาพัฒนาให้อยู่ในรูปแบบที่สามารถเติมเต็มใบหน้าและส่วนอื่นๆ ในร่างกายได้อย่างปลอดภัย โดยที่ CaHA จะมีโมเลกุลทรงกลมขนาดเล็กเพียง 25-45 ไมครอน ซึ่งเป็นโมเลกุลที่เล็กมาก ด้วยความที่ลักษณะของ CaHA เป็นลักษณะทรงกลมและมีขนาดเล็กมาก เมื่อเข้าไปในชั้นผิวแล้วก็จะทำให้เซลล์ผิว (Fibroblast) มาเกาะรอบๆ CaHA แล้วเกิดกระบวนการกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวขึ้นมานั่นเองค่ะ

ประโยชน์ของ RADIESSE®
• เติมเต็มริ้วรอย เพิ่มวอลลุ่มผิวทันที
• ลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย และชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่
• โครงสร้างคอลลาเจนในผิวแข็งแรง
• ผิวเต่งตึง เฟิร์ม ดูอ่อนกว่าวัย
• ผิวอิ่มน้ำ กักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
• ผิวยืดหยุ่นและคืนตัวได้ดี

ดังนั้น RADIESSE® จะช่วยกระตุ้นผิวเกิดการสร้างคอลลาเจนและเป็นโครงสร้างให้เซลล์ผิวใหม่มีที่ยึดเกาะ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวจะกระชับ เต่งตึง และมีโครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้น ในเรื่องวอลลุ่มผิวที่ดีขึ้นกว่าเดิม สามารถเห็นผลได้ทันที หลังจากนั้น 1 เดือน ผิวจะฟูกระชับดูสุขภาพดี ให้ผลลัพธ์อยู่นาน 2 ปี Radiesse จึงเหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มผิวทันที และต้องการเพิ่มคอลลาเจนในการฟื้นฟูผิวตามโครงสร้างผิวใหม่ที่แพทย์ดีไซน์เพื่อแก้ไขวอลลุ่มผิวที่หายไป

Radiesse Sculptra Filler

Radiesse vs Sculptra vs Filler แตกต่างกันอย่างไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

Sculptra คืนผิวเด็กผลลัพธ์ที่ยาวนาน
Sculptra ใช้ประกอบหลัก PLLA หรือ Poly-L-Lactic acid เป็น Biostimulator ตัวแรก ใช้เติมเข้าไปในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้มีสุขภาพผิวที่ดีขึ้น เพื่อกระตุ้นผิวหนังให้สร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลลัพธ์ไม่เห็นทันทีแต่คุณจะพบการปรับปรุงของผิวหน้าที่ดูธรรมชาติ ภายในระยะเวลา

PLLA คืออะไร?
Poly L lactic acid (PLLA) เป็น สารอุ้มน้ำที่มีความเข้ากันได้กับเนื้อเยื่อในร่างกาย ร่างกายสามารถดูดซึมและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้ผิวมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นเองตามธรรมชาติ เมื่อทำต่อเนื่อง 3 ครั้งขึ้นไป จะให้ผลลัพธ์ยาวนานถึง 2 ปี และเป็นตัวเดียวที่ผ่านการรับรองจาก US FDA ทำให้มั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยสูง เป็นสารฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนของตัวเราเองตามกระบวนการธรรมชาติ และผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไม่มีผลหรืออาการข้างเคียงใดๆ ให้เป็นกังวล มีคุณสมบัติช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว โดยทาให้ผิวแน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น

ประโยชน์ของ Sculptra
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน
• คุณภาพผิวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หน้าดูเด็กลง
• โครงสร้างผิวดีขึ้นจากภายใน ความแน่นของผิว ความชุ่มชื้น ดีขึ้น
• ช่วยชะลอวัย ลดอัตราการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว
• ผลลัพธ์คงอยู่ยาวนาน 25 เดือน
• ลดเลือนรอยยับ เส้นริ้วรอยเล็ก ๆ
• วอลลุ่มผิวดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป
• ผิวแน่น กระชับ ดูอ่อนเยาว์
• ผิวมีความยืดหยุ่น ชะลอการเกิดริ้วรอย
• กระชับรูขุมขน
• เติมความชุ่มชื้น

ดังนั้น Sculptra จึงเหมาะกับคนที่คอลลาเจนผิวลดลง ผิวเริ่มมีรอยยับเล็กน้อย ไม่มีปัญหาเรื่องวอลลุ่มผิว และไม่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มผิวในทันที แต่ต้องการเติมคอลลาเจน เพื่อฟื้นฟูผิวแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นไปที่ผลลัพธ์ธรรมชาติตามโครงสร้างผิวเดิมของตัวเอง

เปรียบเทียบการใช้งานของแต่ละตำแหน่งของ Radiesse® vs Sculptra vs Filler

Radiesse Sculptra Filler

Radiesse vs Sculptra vs Filler แตกต่างกันอย่างไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

รอบคอ
• ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับการเติมปริมาณและการปรับรูปร่างคอให้สวยงามทันที
• Radiesse® ช่วยกระชับและสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
• Sculptra ใช้เวลาในการกระตุ้นคอลลาเจนและปรับรูปร่างคอในระยะยาว

รอบจมูก
• ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับการปรับปรุงรูปร่างจมูกและซ่อมแซมความไม่สมดุลของจมูก
• Radiesse® ช่วยเพิ่มความสูงและสร้างโครงสร้างของจมูก
• Sculptra ใช้ในกรณีที่ต้องการการปรับแต่งความสมดุลของจมูก

คมชัดรอบปาก
• ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับการลดริ้วรอยรอบปากและเพิ่มปริมาณของริมฝีปาก
• Radiesse® ช่วยกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนในรอบปาก
• Sculptra ใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างรอบปากและกระตุ้นคอลลาเจน

แก้มและกรอบหน้า
• ฟิลเลอร์ เหมาะสำหรับการกระชับแก้มและเพิ่มปริมาณในขากรรไกร
• Radiesse® ช่วยกระชับแก้มและมีผลต่อโครงสร้างขากรรไกร
• Sculptra ใช้ในการยกตัวของคอลลาเจนในระยะยาวและปรับปรุงขอบขากรรไกร

การเลือกฉีดสารเติมเต็มที่เหมาะกับคุณขึ้นอยู่กับความต้องการและเป้าหมายของคุณ อีกทั้งยังควรระวังเลือกแพทย์ผิวหนังที่มีความเชี่ยวชาญในการกระทำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณ

ข้อสรุปความแตกต่างของ Radiesse® vs Sculptra vs Filler

Radiesse Sculptra Filler

Radiesse vs Sculptra vs Filler แตกต่างกันอย่างไร

ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล

สารประกอบสำคัญ
• RADIESSE® มีส่วนประกอบหลักคือแคลเซียมไฮโดรซีลเคียมอะปาไซต์ (CaHA) ที่มีความหนืดและหนา
• Filler สามารถใช้หลายชนิดของสารสำคัญ เช่น ฮิยาลูรอนิคแอซิด, ไฮยาลูรอนิคแอซิด, และอื่น ๆ ที่มีส่วนประกอบต่าง ๆ
• Sculptra ใช้สารสำคัญ Polylactic Acid เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว

วัตถุประสงค์ของการใช้งาน
• RADIESSE® มักใช้เพื่อกระชับผิวหน้าและเพิ่มปริมาณในรายละเอียดของผิวหนัง ช่วยกระชับและมีผลทันที และยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาวได้
• Filler มีหลายประเภทและมักใช้เพื่อเติมปริมาณและปรับรูปร่างให้สวยงามทันที
• Sculptra ใช้ในกรณีที่ต้องการการปรับแต่งความสมดุลของรูปหน้า โดยกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว ผลลัพธ์ไม่เห็นทันที

ผลลัพธ์
• RADIESSE® ผลลัพธ์ที่ได้จะกระชับและดูเรียบร้อย มีผลทันทีและยังมีผลสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
• Filler ผลลัพธ์ทันทีและมักคงทนเป็นเวลาไม่กี่เดือน ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับประเภทของ filler ที่ใช้
• Sculptra ผลลัพธ์จะปรากฏเป็นความสมดุลของรูปหน้าที่ดูธรรมชาติ ผลลัพธ์ไม่เห็นทันทีและควรทำในหลายครั้ง

ระยะเวลา
• RADIESSE® ผลลัพธ์ที่คงทนนานกว่า filler แบบธรรมดา แต่ไม่นานเท่า Sculptra
• Filler ผลลัพธ์สามารถคงทนได้ตั้งแต่หลายเดือนถึงหลายปี ขึ้นอยู่กับประเภทของ filler
• Sculptra ผลลัพธ์สามารถคงทนได้นานถึง 2 ปีหรือมากกว่า

ระยะห่างระหว่างการทำงาน
• RADIESSE® สามารถทำงานครั้งเดียวหรือมากกว่านั้น
• Filler สามารถทำงานครั้งเดียวหรือต้องซ้ำเสมอ เพื่อรักษาผลลัพธ์
• Sculptra ต้องทำงานเป็นครั้งคราวและต้องทำครั้งต่อไปเพื่อรักษาผลลัพธ์

การเลือกใช้สารเติมเต็มขึ้นอยู่กับความต้องการและวัตถุประสงค์ของคุณ ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ทันทีและต้องการเติมปริมาณในบางส่วนของใบหน้า ฟิลเลอร์อาจเป็นตัวเลือกที่ดี แต่ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ที่คงทนและราวกับธรรมชาติ หลังจากจัดการเรื่องปริมาณคอลลาเจนในระยะยาว แล้ว Radiesse® และ Sculptra อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ควรปรึกษากับแพทย์ผิวหนังเพื่อให้ได้คำแนะนำและแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ

ลงทะเบียน
ลงทะเบียน
เมื่อลงทะเบียนถือว่าท่านยอมรับ ข้อตกลงและเงื่อนไข และ นโยบายความเป็นส่วนตัว
รับโปรโมชั่นพิเศษ
รับโปรโมชั่นพิเศษ
ปรึกษาฟรี
ปรึกษาฟรี
โทรสอบถามโปรโมชั่น
โทรสอบถามโปรโมชั่น