ผมร่วง เป็นปัญหาที่ไม่เข้าใครออกใคร ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยไหนหรือเพศใดก็ตาม และเนื่องจากปัญหาสุขภาพผมและหนังศีรษะเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ ผลิตภัณฑ์บำรุงดูแลเส้นผมที่อาจไม่เหมาะกับตัวเอง การทำสารเคมี หรือพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแง่ต่าง ๆ ดังนั้นในบทความนี้เราจึงนำ 10 ข้อมูลน่าสนใจ เกี่ยวกับปัญหาผมร่วงจากทั่วโลกมาฝากกันค่ะ
- 1 ใน 4 ของผู้ชายจะเริ่มประสบปัญหาศีรษะล้าน ตั้งแต่อายุเพียง 21 ปี เท่านั้นค่ะ โดยนอกจากปัญหาใหญ่จากกรรมพันธุ์แล้ว สภาวะเครียดสะสมจนฮอร์โมนในร่างกายขาดสมดุล และพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแง่อื่น ๆ ล้วนกระทบต่อการเจริญเติบโตของผมได้ทั้งสิ้นค่ะ
- 29% ของผู้หญิงที่เผชิญกับภาวะ ผมร่วง ผมบาง พบว่ามักมีปัญหาเรื่องภาวะโรคเครียดประมาณ 2 อาการด้วยกันค่ะ
- ในผู้หญิงที่มีระดับความเครียดสูง จะมีความเสี่ยงต่ออาการผมร่วงมากกว่าปกติถึง 11 เท่าทีเดียว
- 58% ของเด็กที่มีอาการโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia areata) มักกำลังเผชิญกับภาวะของโรควิตกกังวล
- ภาวะผมร่วงมากผิดปกติ สามารถแสดงอาการได้ตั้งแต่อายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ซึ่งหากใครพบว่าตัวเองกำลังประสบปัญหานี้อยู่ ควรลองศึกษาหาข้อมูลเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือทางที่ดีที่สุดเข้าปรึกษากับแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุ และวิธีรักษาก่อนอาการจะแย่ลงกว่าเดิมค่ะ
- มีงานวิจัยศึกษาพบว่า กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันในสหรัฐอเมริกามีภูมิต้านทานต่ออาการผมร่วง
- หญิงชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา จะไวต่อโรคผมร่วงเป็นหย่อมมากเป็นพิเศษ
- แคนาดาคือประเทศที่ค่าปลูกผมแพงที่สุดในโลกค่ะ ซึ่งจากการเปรียบเทียบราคาปลูกผมโดยเฉลี่ยในประเทศต่าง ๆ พบว่าอยู่ที่ 457,551 บาท แต่แคนาดามีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงที่สุด คือ 560,000 บาท ส่วนประเทศไทยต่ำที่สุด คือ 75,000 บาท ต่อจำนวน 2,500 กราฟต์ ทั้งนี้ค่าใช้จ่ายสำหรับการปลูกผมเกิดจากหลายปัจจัยค่ะ เช่น จำนวนกราฟต์ วิธีการ และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญของแพทย์ โดยการเปรียบเทียบราคาของแต่ละประเทศ ยังขึ้นอยู่กับความแตกต่างของค่าแรงงานขั้นต่ำ ค่าครองชีพ มาตรฐานทางการแพทย์ และความสามารถในการผลิตคิดค้นเทคโนโลยีทางการแพทย์ของประเทศนั้น ๆ ด้วยค่ะ
- สิงห์อมควันมีแนวโน้มสูงมากที่จะเผชิญกับอาการผมร่วงอย่างรุนแรงค่ะ เนื่องด้วยในบุหรี่มีสารนิโคตินที่มีฤทธิ์ส่งผลต่อการหดตัวของเส้นเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงเส้นเลือดที่คอยเลี้ยงรากผม เหตุนี้การสูบบุหรี่เป็นประจำ จึงอาจทำให้รากผมไม่แข็งแรง ขาดหลุดร่วงง่าย และตามมาด้วยภาวะผมร่วงผมบางค่ะ
- ชายชาวอังกฤษกลัวที่จะสูญเสียผม มากกว่าตำแหน่งงานของพวกเขาเสียอีกค่ะ
ทั้งนี้หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ประสบกับปัญหาผมร่วงผมบางอย่างรุนแรง หรือกระทั่งกำลังเผชิญกับภาวะศีรษะล้าน ซึ่งวิธีการดูแลรักษาแบบอื่น ๆ อาจไม่ได้ผลหรือช้าเกินไป ทางเลือกสุดท้ายที่ดีที่สุดสำหรับคุณคือการปลูกผมถาวรค่ะ เพราะวิธีนี้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะยาว อีกทั้งยังปลอดภัย ไม่ต้องคอยเสี่ยงกับวิธีรักษาแบบอื่น ๆ อีกด้วย โดยหนึ่งในเทคโนโลยีปลูกผมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ การปลูกผมด้วยเทคนิคแขนกล หรือ Robot Hair Transplant ค่ะ
Robot Hair Transplant คืออะไร?
วิธีปลูกผมด้วยแขนกลนั้น ได้รับการพัฒนามาจากการปลูกผมแบบ FUE ที่รู้จักกันมานานค่ะ โดยจะนำแขนกลมาใช้ผสานร่วมกับความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทางด้านการปลูกผม ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะมีความแม่นยำสูง ผมที่ได้รับการปลูกใหม่นี้จะมีความหนาแน่นใกล้เคียงกับผมธรรมชาติมาก และการปลูกผมด้วยเทคนิคแขนกลจะไม่มีการผ่าตัดค่ะ เพราะการเจาะเก็บกราฟต์ผมจากบริเวณท้ายทอยของผู้รับการรักษา จะก่อให้เกิดแผลกดเจาะเพียง 0.5 – 0.8 มิลลิเมตรเท่านั้น คุณจะรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย ทว่าแผลจากการกดเจาะที่เล็กมากจะสมานตัวค่อนข้างเร็ว และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้ให้เห็นค่ะ ที่สำคัญหลังทำการปลูกผมเสร็จสิ้น คุณสามารถเดินทางกลับบ้านได้ทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นใด ๆ เพียงแต่ต้องระมัดระวังทำตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เช่น ใส่ผ้าคาดศีรษะเอาไว้ก่อน และสระผมได้หลังผ่านไปราว 24 – 48 ชั่วโมงค่ะ ซึ่ง Robot Hair Transplant นอกจากปลูกผมในบริเวณที่ศีรษะล้านแล้ว ยังสามารถช่วยปลูกแนวผมใหม่ในผู้ที่มีปัญหาหน้าผากเถิกหรือกว้างได้เช่นกันค่ะ
ที่ APEX เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการปลูกผม ซึ่งมีประสบการณ์ในการปลูกผมยาวนานกว่า 25 ปี ยินดีรอให้บริการคุณด้วยเทคนิค Robot Hair Transplant ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า แน่นกว่า และแม่นยำกว่าการปลูกผมเดิม ๆ คุณจึงบอกลาปัญหาผมร่วง ผมบาง ศีรษะล้าน และกลับไปใช้ชีวิตในทุก ๆ วันได้อย่างมั่นใจอีกครั้งค่ะ
