ลดน้ำหนักในวัยทำงานแบบนี้ หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้มีเวลาใส่ใจในการลดน้ำหนักของตัวเองได้ตลอดทั้งวัน และยิ่งทำงานหนักหรือเหนื่อยมากเท่าไหร่ การจะกลับมาออกกำลังกายเบิร์นไขมันในช่วงตอนเย็นหลังเลิกงานก็อาจจะยากขึ้นไปอีก จริง ๆ แล้วการทำกิจกรรมเล็ก ๆ ตอนเช้าก็สามารถช่วยทำให้ลดน้ำหนักได้เหมือนกัน ซึ่งจะมีกิจกรรมไหนบ้างเราได้รวบรวมมาให้แล้วค่ะ
- กินอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูง
อาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงจะช่วยทำให้เราสามารถลดน้ำหนักได้ เนื่องจากโปรตีนจะเข้าไปลดระดับของฮอร์โมนเกรลิน ซึ่งเป็น “ฮอร์โมนความหิว” ที่มีหน้าที่เพิ่มความอยากอาหาร เมื่อฮอร์โมนลดลงจะทำให้เราสามารถ “ลดความอยากอาหาร” และทำให้ “อิ่มนาน” จนถึงมื้อเที่ยงได้เลย โดยในการศึกษาหนึ่งในเด็กสาววัยรุ่น 20 คน การกินอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงช่วยลดความอยากอาหารหลังอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าอาหารเช้าที่มีโปรตีนปกติ โดยอาหารเช้าที่มีโปรตีนสูงที่ควรกินตอนเช้า เช่น ไข่ กรีกโยเกิร์ต คอตเทจชีส ถั่ว และเมล็ดเจีย เป็นต้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการดื่มน้ำสักแก้วสองแก้ว นอกจากจะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นแล้ว ยังเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ง่ายและดีมาก ๆ เนื่องจากน้ำสามารถช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี โดยการดื่มน้ำ 500 มิลลิลิตร จะสามารถกระตุ้นการเผาผลาญเพิ่มขึ้นประมาณ 30% นอกจากนี้ การศึกษาพบว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักมาก เมื่อดื่มน้ำ 1 ลิตรต่อวัน สามารถลดน้ำหนักได้ลง 2 กิโลกรัมในหนึ่งปี โดยไม่ได้เปลี่ยนแปลงอาหารหรือการออกกำลังกายใด ๆ เลย
- ชั่งน้ำหนักตัวเอง
การชั่งน้ำหนักตัวเองทุกเช้าอาจจะเป็นวิธีเพิ่มแรงจูงใจในการลดน้ำหนักได้มากขึ้น จากการศึกษากลุ่มตัวอย่าง 47 คน พบว่าผู้ที่ชั่งน้ำหนักตัวเองทุกวันจะสามารถลดน้ำหนักได้ประมาณ 6 กิโลกรัม ในช่วง 6 เดือน แต่อย่างไรก็ตาม น้ำหนักอาจจะผันผวนทุกวันจากปัจจัยต่าง ๆ ให้เราดูที่ภาพรวมว่าน้ำหนักมีแนวโน้มลดลงบ้าง มุ่งเน้นที่ภาพใหญ่และมองหาแนวโน้มการลดน้ำหนักโดยรวม แทนที่จะจดจ่ออยู่กับการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในแต่ละวัน
- รับแสงแดดบ้าง
การรับแสงแดดยามเช้าอาจจะสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า การได้รับ “รังสีอัลตราไวโอเลต” จะช่วยยับยั้งการเพิ่มน้ำหนักในหนูที่ได้รับอาหารที่มีไขมันสูงได้ นอกจากนี้ การรับแสงแดดยามเช้าจะทำให้เราได้รับ “วิตามินดี” ที่สามารถช่วยการลดน้ำหนักและป้องกันการเพิ่มน้ำหนักได้ โดยมีการศึกษากลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้หญิงน้ำหนักเกินและเป็นโรคอ้วน 218 คน ผู้ที่ได้รับอาหารเสริมวิตามินดีหรือยาหลอกเป็นเวลาหนึ่งปีน้ำหนักลด 3.2 กิโลกรัม
- การนั่งสมาธิ
การนั่งสมาธิเป็นเรื่องง่าย ๆเพียงนั่งสบาย ๆ ในพื้นที่สงบสัก 5 นาที ทุกเช้า ก็จะสามารถช่วยลดน้ำหนักและช่วยส่งเสริมพฤติกรรมการกินเพื่อสุขภาพได้อีกด้วย จากการศึกษาพบว่า การนั่งสมาธิส่งผลให้น้ำหนักลดลง 68% ของการศึกษา 19 ชิ้น
- ออกกำลังกายบ้าง
การออกกำลังกายในตอนเช้าสามารถช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะนอกจากการเผาผลาญแล้ว การออกกำลังกายในตอนเช้าอาจจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ตลอดทั้งวัน ซึ่งเมื่อน้ำตาลไม่สูงจะส่งผลให้ร่างกายเกิดความอิ่มนานมากขึ้น ทำให้ไม่กินจุกจิกก่อนจนถึงมื้อบ่ายนั่นเอง
- เตรียมอาหารกลางวัน
การเตรียมอาหารกลางวัด้วยการปรุงอาหารเอง จะช่วยอาหารมีคุณภาพที่ดีขึ้นและลดความเสี่ยงของไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ คนที่กินอาหารที่ปรุงเองที่บ้านอย่างน้อย 5 ครั้งต่อสัปดาห์ มีโอกาสน้อยกว่าที่จะมีน้ำหนักเกิน 28%
- นอนหลับนานขึ้น
การอดนอนอาจจะทำให้อยากอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงและมีแคลอรีสูง โดยจากการศึกษาพบว่าผู้เข้าร่วม 12 คน บริโภคพลังงานโดยเฉลี่ยมากกว่า 559 แคลอรี หลังจากนอนหลับเพียง 4 ชั่วโมง ดังนั้น เราจึงควรตั้งเป้านอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน ซึ่งอาจจะเลื่อนเวลาตื่นในตอนเช้าออกไปอีกหน่อยเพื่อให้ลดน้ำหนักได้ดีขึ้นก็ได้เช่นกัน
- การเดินทาง
วิธีนี้อาจจะเหมาะกับผู้ที่สามารถเดิน ขี่จักรยาน หรือใช้ระบบขนส่งสาธารณะได้ เนื่องจากการใช้รถส่วนตัวอาจจะทำให้ไม่ได้เคลื่อนไหวร่างกายมากนัก โดยจากการศึกษาพบว่า 822 คน ในช่วง 4 ปีผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักมากกว่าผู้ที่ไม่ได้ใช้รถยนต์ นอกจากนี้ จากการศึกษา 15,777 คน พบว่า การใช้ระบบขนส่งสาธารณะหรือวิธีการเดินทางแบบเคลื่อนไหวร่างกายมีเปอร์เซ็นต์ไขมันในร่างกายที่ลดลงเมื่อเทียบกับการใช้รถส่วนตัว
- ปากกา Slim Shape แบบปลอดภัย
ตัวยาเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีล่าสุด “เปปไทด์ลดหิว” Liraglutide สารโปรตีนสกัดเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งฮอร์โมนนี้จะหลั่งออกจากลำไส้หลังการทานอาหาร เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมองประมาณ 3-5 นาที
กลไกการออกฤทธิ์ของ Slim Shape
สมองส่วนกลาง : ทำให้รู้สึกไม่หิว อิ่มนาน ทนน้อย
กระเพาะอาหาร : ย่อยและดูดซึมได้นานขึ้น เพราะหลังทานอาหาร ลำไส้เล็กจะหลั่ง GLP-1 ออกมา เพื่อส่งสัญญาณความอิ่มไปที่สมอง โดยจะออกฤทธิ์ 24 ชั่วโมง ทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน สามารถลดความหิวและความอยากอาหาร ทำให้ทานได้น้อยลง
ตับอ่อน : ผลิตฮอร์โมนอินซูลินดึงน้ำตาลเข้าเซลล์ Slim Shape ช่วยการหลั่งฮอร์โมนนี้มีคุณภาพดีขึ้น
ผลลัพธ์หลังการใช้ Slim Shape
สามารถเผาผลาญพลังงานดีขึ้น ลดความอยากอาหาร ทำให้ไม่รู้สึกหิวน้อยลง สามารถควบคุมอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักถึง 80% เมื่อใช้ต่อเนื่องเพียง 4 เดือน น้ำหนักลดลง 5-10% นอกจากนี้ ยังสามารถลดไขมันในช่องท้อง (Visแeral Fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคแทรกซ้อนและอันตรายจากความอ้วน
Slim Shape เหมาะกับใคร
- ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐานหรือดัชนีทวลกาย BMI มากกว่าหรือเท่ากับ 30
- ผู้ที่พยายามจะลดน้ำหนักด้วยยาลดน้ำหนักแล้วไม่เห็นผล
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพหรือมีโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่น ๆ หรือการทาน IF และต้องการลดพฤติกรรมการกินจุบจิบ
- ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
- ผู้ที่อายุ 18 ปี ขึ้นไป
โยโย่ เอฟเฟค
เมื่อลดน้ำหนักได้ตามเป้าหมาย สามารถหยุดใช้ยาได้ทันที โดยจะไม่ทำให้เกิดอาการ “โยโย่ เอฟเฟค” เหมือนกับยาลดน้ำหนักแบบเดิม เพียงแต่เมื่อหยุดใช้ยาแล้วจะมีความรู้สึกหิวเหมือนช่วงก่อนการเริ่มใช้ยา
ความปลอดภัย
ยาได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยาทั้งไทยและต่างประเทศ จึงมีความปลอดภัย ไม่มีอันตรายเหมือนยาและอาหารเสริมลดน้ำหนักตัวอื่น ๆ ตัวยาไม่ได้มีกลไกออกฤทธิ์รบกวนสารสื่อประสาท จึงไม่ทำให้เกิดอาการข้างเคียงทางจิตประสาท เช่น ใจสั่น ก้าวร้าว ฝันร้าย ประสาทหลอน ตามมา