เช็คดูหน่อย เราเป็น “โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ” หรือไม่?

โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่หลายๆ คนเรียกว่า สมรรถภาพทางเพศเสื่อม โรคนี้ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่ปัญหาหนึ่งของผู้ชายหลายๆ คน เพราะนอกจากจะเป็นปัญหาให้กับคู่รักของตัวเองแล้ว ยังเป็นปัญหาที่ทำให้ผู้ชายหมดความมั่นใจในตัวเองไปด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากทำความเข้าใจ หรือรู้ตัวว่าตนเองกำลังจะพบกับปัญหาดังกล่าว แล้วสามารถแก้ไขได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็จะทำให้การรักษาและการแก้ไขปัญหาเป็นไปได้ง่ายขึ้น

อาการอย่างไรถึงเข้าข่ายเรียกว่าเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ?

โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction : ED) หมายถึง การที่อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอที่จะมีเพศสัมพันธ์ให้สำเร็จเป็นที่พึงพอใจอยู่เป็นประจำ

ระดับความรุนแรงของโรค

  • หย่อนสมรรถภาพอย่างอ่อน  :  ผู้ป่วยสามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวพอดี สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้เกือบทุกครั้ง
  • หย่อนสมรรถภาพปานกลาง  :  ผู้ป่วยสามารถมีอวัยวะเพศแข็งตัวพอดี สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้บ้างเป็นบางครั้ง
  • หย่อนสมรรถภาพโดยสิ้นเชิง  :  ผู้ป่วยมีอวัยวะเพศแข็งตัวพอดี สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้เลย

หย่อนสมรรถภาพไม่ใช่ไร้สมรรถภาพนะครับ

คำว่า “หย่อนสมรรถภาพทางเพศ” (ED) ในปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้มากกว่าศัพท์เดิม คือ ไร้สมรรถภาพทางเพศ (Impotence) คำว่าไร้สมรรถภาพทางเพศมีความหมายในทางอับอาย เป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยในอดีตไม่กล้าไปพบแพทย์ ทั้งที่ความจริงแล้วเป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายได้

โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นรูปแบบหนึ่งของความบกพร่องทางเพศ ได้แก่

  • อาการหลั่งเร็ว (Premature ejaculation) สำหรับเรื่องนี้นั้นสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้
  • อาการหลั่งช้า (Delay ejaculation) การหลั่งช้าเกินไปก็เข้าข่ายเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้เช่นเดียวกัน
  • อาการเฉื่อยชาทางเพศ (Deficits in desire)
  • การไม่ถึงจุดสุดยอด (Orgasmic disabilities)
  • อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile dysfunction)

 

ปัจจัยที่มีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ แบ่งออกได้เป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ

  1. เกิดจากจิตใจ ส่วนใหญ่เกิดจากระบบประสาทส่วนกลาง
  2. เกิดจากปฏิกิริยาสะท้อนกลับ ส่วนใหญ่เกิดจากการกระตุ้นที่อวัยวะเพศ
  3. เกิดในยามวิกาล เกิดขึ้นในช่วงของการหลับที่มีการกลอกตาอย่างรวดเร็ว

ซึ่งการแข็งตัวส่วนใหญ่เป็นผลร่วมกันของการกระตุ้นทางจิตใจและปฏิกิริยาสะท้อนกลับ

สาเหตุของการเกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ส่วนมากของผู้ที่มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เชื่อว่าเกิดจากการลดระดับของฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน การเสื่อมสังขารตามธรรมชาติหรือสาเหตุทางจิตใจ แต่ความจริงพบว่าโรคนี้สัมพันธ์กับโรคบางโรค การบาดเจ็บ หรือจากการรักษาทั้งทางยาและการผ่าตัด

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

ประกอบด้วยโรคต่างๆ จำนวนมาก ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต เส้นเลือดในสมองตีบหรือแตก การบาดเจ็บที่ไขสันหลัง และโรคมัลติเปิลสเคลอโรสิส (Multiple Sclerosis) โรคเหล่านี้ทำให้เกิดความผิดปกติต่อหลอดเลือด เส้นประสาทของอวัยวะ ซึ่งจะมีผลต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศ รวมไปถึงยาหลายชนิดก็มีผลด้วยเช่นกัน นอกจานี้การลดลงของการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน ก็อาจทำให้ความสนใจในทางเพศลดลง และทำให้การแข็งตัวลดลงด้วย นอกจากนั้นกระบวนการการบำบัดทางจิต ก็อาจรบกวนการกระตุ้นทางด้านจิตใจ หรือลดความตื่นตัวในการรับความรู้สึก

สภาพร่างกายที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แบ่งออกเป็นห้ากลุ่มหลัก ดังนี้

  • โรคเกี่ยวกับเส้นเลือด หากมีปัญหาการไหลเวียนของกระแสเลือด ที่ทำหน้าที่สูบฉีดเลือดไปยังอัณฑะ รวมถึงการแข็งตัวของเส้นเลือดแดง (Atherosclerosis) โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดสูง ถือว่าเป็นสภาพร่างกายที่เสี่ยงทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลง
  • การดำรงชีวิต การสูบบุหรี่ (จะยิ่งส่งผลร้ายต่อปัญหาโรคเกี่ยวกับหลอดเลือด เช่น ความดันโลหิตสูง) การดื่มสุราจัด และการใช้สารเสพติด สิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้เกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
  • ความผิดปกติของระบบประสาทและบาดแผล อันเป็นผลจากการได้รับบาดเจ็บที่ไขสันหลัง และกระดูกเชิงกราน
  • การผ่าตัด ยกตัวอย่างเช่น การผ่าตัดต่อมลูกหมาก และการรักษาด้วยการฉายรังสี
  • การรักษาด้วยยาบางประเภท ยกตัวอย่างเช่น ยาที่ใช้รักษาโรคความดันโลหิตสูง อาการซึมเศร้า และยาบางตัวสำหรับการรักษาโรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหาร (Gastric ulcers) และโรคมะเร็ง

โรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นโรคที่พบบ่อย และก่อให้เกิดปัญหาในชีวิตประจำวันในหลายด้าน ผู้ชายทั่วโลกเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศมากกว่า 100 ล้านคน หรือประมาณ 52% ของชายอายุ 40-70 ปี มีอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศในระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งโรคนี้จะก่อให้เกิดปัญหาความเครียดที่กระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว และอาจทำให้เกิดโรคซึมเศร้า สูญเสียความนับถือตัวเองและมองภาพตัวเองไม่ดี

เมื่อเรารู้แบบนี้แล้วก็ไม่ต้องวิตกกังวลไปครับ รักษาสุขภาพให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงสาเหตุต่างๆ ที่นำพาโรคนี้มาสู่เรา และในปัจจุบันนี้เองก็มีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบรรเทาอาการหย่อนสมรรถภาพมากมายให้เลือกใช้ ถึงจะบอกไม่ได้ว่าจะหายขาดแต่ก็ช่วยบรรเทาได้ บวกกับที่เราดูแลสุขภาพดีๆ เท่านี้ผมว่าผู้ชายอย่างเราก็คงยิ้มได้ไปอีกนาน

อ้างอิง : ศูนย์ข้อมูลสุขภาพชาย