ที่เคยพูดกันเล่นๆว่า “แค่หายใจก็อ้วนแล้ว” อาจจะต้องคิดใหม่เพราะการวิจัยล่าสุดเผยให้ทราบว่า การหายใจเอาสารเคมีบางชนิดเข้าไปโดยไม่รู้ตัวก็ทำให้อ้วนได้!
เรื่องของ ความอ้วน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครก็เจ็บปวดทั้งนั้น เพราะกว่าจะลดน้ำหนักได้ก็แสนจะยากเย็น ทว่าพอน้ำหนักจะขึ้นทีก็อ้วนขึ้นมาอย่างง่ายดาย จนมีคำเปรียบเทียบว่า “แค่หายใจก็อ้วนแล้ว” แต่ขอบอกว่าคำเปรียบเทียบนี้ไม่ใช่แค่คำพูดล้อเล่นกันอีกต่อไป เพราะมีงานวิจัยออกมาแล้วว่า การหายใจก็ทำให้อ้วนได้ แต่จะเป็นเพราะอะไร เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ
หายใจแล้ว อ้วน ได้อย่างไร ?
ปัจจุบันมีการศึกษามากมายออกมาสนับสนุนว่าการหายใจเอาสารเคมีบางชนิดเข้าร่างกายจะส่งผลให้น้ำหนักตัวขึ้นได้ โดยสารเคมีเหล่านี้คือกลิ่นสังเคราะห์ที่ถูกเรียกว่า Obesogens ซึ่งเป็นสารที่พบได้ในบรรจุภัณฑ์อาหาร พลาสติก เครื่องสำอาง และในอากาศบริเวณที่มีมลพิษสูง ซึ่งกลิ่นสังเคราะห์เหล่านี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของฮอร์โมนบางชนิดที่ทำหน้าที่ควบคุมความอยากอาหาร และการเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานผิดปกติ จนเกิดความอยากอาหารเพิ่มขึ้น แต่ในทางกลับกันร่างกายก็จะเผาผลาญน้อยลงและทำให้เกิดไขมันสะสมและเกิดภาวะอ้วนได้ในที่สุด เป็นคนอ้วนโดยไม่รู้ตัวกันได้เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสารเคมีเหล่านั้นได้ทั้งหมดแต่ก็สามารถลดปริมาณการรับสารให้น้อยได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ไม่ได้คุณภาพ หลีกเลี่ยงการใช้พลาสติก และเครื่องสำอางที่ไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัย นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีสารเคมีหรือมลพิษจำนวนมาก เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการสูดดมเอาสารเคมีเข้าร่างกายและทำให้เกิดภาวะอ้วนได้
แต่ถ้าวันนี้คุณไม่สามารถหยุดยั้งความอ้วนของคุณได้ และอยากจะจัดการมันออกไปด้วยวิธีที่ไม่ต้องพึ่งยา ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ ไม่ต้องออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารให้รู้สึกอึดอัดใจ ขอแนะนำเทคโนโลยีในการลดสัดส่วนโดยการกำจัดไขมันด้วยความเย็นอย่าง
CoolSculpting ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนามาจากวิจัยจากสถาบันระดับโลกซึ่งค้นพบว่าความเย็นในอุณหภูมิระดับติดลบสามารถทำให้เซลล์ไขมันบริเวณที่โดนความเย็นติดต่อกันเป็นเวลานานตายลงได้ ซึ่ง CoolSculpting ก็ใช้วิธีเดียวกันในการกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย โดยในการทำ CoolSculpting เครื่องจะปล่อยความเย็นอุณหภูมิ – 11 ถึง -13 บริเวณที่ทำ ซึ่งใช้เวลาเพียง 35 – 45 นาที เซลล์ไขมันก็จะถูกทำลาย 20 – 30% ของเซลล์ไขมันทั้งหมด จากนั้นเซลล์ไขมันที่ตายลงจะค่อยๆถูกกำจัดออกจากร่างกายผ่านกระบวนทางร่างกายตามธรรมชาติโดยไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆต่อร่างกาย ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
และถ้าอยากให้มั่นใจว่าผลลัพธ์ที่ออกมาจะปลอดภัยและเป็นไปตามความคาดหวังของผู้เข้ารับบริการ ก็ต้องเลือกทำกับที่ที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งที่ APEX เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน CoolSculpting ด้วยทีม CoolSculpting Specialist ที่ผ่านการอบรมและฝึกฝนมาจนเชี่ยวชาญ และจำนวนเคสการทำที่มากเป็นอันดับ 1 ในเอเชีย ซึ่งผู้เข้ารับบริการสามารถมั่นใจได้ว่าจะปลอดภัยตลอดการทำ และไม่มีผลข้างเคียงให้กังวลใจอย่างแน่นอนค่ะ