5 เทรนด์ของอาหารลดน้ำหนัก มีอะไรบ้าง
ปีเก่ากำลังจะผ่านไป เริ่มเข้าสู่ปีใหม่ หลายคนก็คงมีเป้าหมายที่อยากจะทำกันแล้วใช่ไหม เราเชื่อว่าการลดน้ำหนักก็เป็นสิ่งหนึ่งที่คนจำนวนมากตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ได้ภายในปีหน้า แต่การลดน้ำหนักก็มีหลากหลายวิธี สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มใช้วิธีไหนในการลดน้ำหนัก เราขอแนะนำการ ควบคุมอาหาร ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมเทรนด์อาหาร ลดน้ำหนัก ที่น่าสนใจมาฝากกัน
1. Ketogenic Diet
คีโตเจนิก ยังคงยังคงจะเป็นเทรนด์อาหารลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมกันมาอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเพราะว่าหลายคนที่ใช้วิธีนี้ต่างก็ได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจแถมยังส่งผลดีต่อร่างกายอีกด้วย นั่นก็เป็นเพราะว่าการรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิก จะลดการรับประทานคาร์โบไฮเดรตและเน้นไปที่โปรตีนกับไขมันดี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงโรคร้ายแรงต่างๆ ไม่เพียงเท่านั้นการรับประทานโปรตีนมากขึ้น ยังส่งผลดีต่อการลดน้ำหนักอีกด้วย
2. Intermittent Fasting
สำหรับใครที่ยังเลือกที่จะลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารแบบ IF อยู่ ก็ขอบอกเลยว่าเทรนด์ยังคงอยู่กับคุณไปได้อีกยาว แถมยังดูเป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย เพราะการอดอาหารแบบนี้ ดีต่อสุขภาพและลดน้ำหนักได้เร็ว โดย IF แบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือแบบ 16/8 ซึ่งเป็นการอดอาหารแบบ 16 ชั่วโมง และรับประทานอาหารได้ 8 ชั่วโมง ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าถ้าทำถูกวิธี หุ่นดีไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
3. The Plant-Based Diet
หลายคนอาจคิดว่าการรับประทานอาหารแบบนี้คือการกินเจ หรือเป็นมังสาวิรัติ ซึ่งขอบอกเลยว่าไม่ใช่ เพราะเทรนด์อาหารลดน้ำหนักแบบนี้จะเน้นไปที่การรับประทานอาหารจำพวกพืชเป็นหลัก แต่ยังสามารถรับประทานเนื้อสัตว์อย่าง ปลาและเนื้อวัวได้ แต่จะเน้นเนื้อสัตว์ที่เป็นออแกนิกแทน ซึ่งสาเหตุที่เทรนด์อาหารลดน้ำหนักแบบนี้ก็เพราะว่าคนยังคงให้ความสนใจเรื่องการรับประทานอาหารที่มาจากธรรมชาติอยู่นั่นเอง
4. Flexitarian Diet
รูปแบบการกินอาหารมังสวิรัติ วีแกนแบบยืดหยุ่นได้รับความนิยมอย่างมากในอเมริกา ไม่จำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มาจากผักและพืชเท่านั้นแต่สามารถดื่มนมและรับประทานไข่ได้ตามปกติ นอกจากจะช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นแล้วก็ยังช่วยลดน้ำหนักลงได้ เพราะไม่มีการรับประทานโปรตีนที่เกินความจำเป็นแถมเรื่องไขมันจากสัตว์ก็ตัดไปได้เลย ฉะนั้นปีหน้าถ้าอยากลดน้ำหนักแล้วอยากลองรับประทานมังสาวิรัติก็รีบจัดไปเลย
5. The Immune System Support Diet
อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ในช่วงการแพร่ระบาด โควิด-19 ซึ่งขอบอกเลยว่า Superfood บางอย่างที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายก็ยังช่วยในการลดน้ำหนักได้ด้วย ฉะนั้นถ้าอยากหุ่นดีพร้อมกับมีสุขภาพดีก็ต้องลองวิธีนี้ เพราะหลายคนเชื่อว่าการสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดีเริ่มต้นจากการกินนั่นเอง
หลายคนเมื่อได้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ถ้าคุณไม่อยากให้การลดน้ำหนักหรือลดสัดส่วนมาทำลายความสุขในการกินของคุณแล้วล่ะก็ การสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting อาจเป็นตัวช่วยที่คุณมองหาโดยที่คุณไม่บอกลากับอาหารจานโปรด
CoolSculpting เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น
CoolSculpting เทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น ด้วยการใช้ความเย็นอุณหภูมิ -11 ถึง -13 °C โดยจะเข้าไปทำให้เซลล์ไขมันบริเวณที่ทำตายลง ซึ่งไม่ส่งผลกับผิวหนังบริเวณที่ทำ จากนั้นเซลล์ไขมันที่ตายลงก็จะถูกขับออกมาจากร่างกายผ่านกระบวนการตามธรรมชาติ โดยคุณจะสามารถเห็นรูปร่างที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ภายในเวลา 1–3 เดือน ในระหว่างนี้คุณอาจออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารร่วมด้วยก็จะยิ่งให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น โดยที่คุณไม่ต้องรับประทานยาหรือเจ็บตัวจากการผ่าตัดดูดไขมันเหมือนการลดสัดส่วนแบบที่ผ่านมา
ซึ่งที่ APEX เราเป็นผู้นำด้านการสลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ของเอเชีย ด้วยเคสการทำที่มากที่สุด จำนวนเครื่องที่มากที่สุดและมีทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน CoolSculpting อย่าง CoolSculpting Specialist ที่มีประจำในทุกสาขา ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลรูปร่างของคุณ ให้คุณกลับมามั่นใจในรูปร่างอีกครั้งได้อย่างแน่นอน
ปรึกษา และสอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
FB inbox : click http://m.me/apexprofoundbeauty
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
Apex Profound Beauty
- Bangkok : 066-3310-8000
- Korat : 0888-7000-43
- Phuket : 088-000-2100
- Pattaya: 087-096-1234
