ปัญหา หน้าบาน..เคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ กรามใหญ่ขึ้นแน่นอน!

หน้าบานเคยสงสัยไหมว่า..การเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ จะทำให้กรามใหญ่ขึ้น จนหน้าบานกว่าเดิม? สำหรับใครที่ยังคงคาใจกับคำถามนี้ วันนี้เราได้รวบรวมคำตอบมาฝากกันในบทความนี้แล้วค่ะว่าจริง ๆ แล้วสาเหตุที่ทำให้กรามของเราใหญ่ขึ้น จนมีปัญหา หน้าบาน มาจากอะไร การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำทำให้หน้าใหญ่ขึ้นจริงไหม และมีวิธีไหนที่สามารถป้องกัน หรือลดปัญหาเหล่านี้ได้หรือไม่ ?

กรามใหญ่ หน้าบาน เกิดจากสาเหตุอะไร?

ปัญหากรามใหญ่ หน้าบาน ที่ทำให้หลายคนกังวลเกี่ยวกับรูปหน้าของตัวเอง เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้

  • มวลกระดูก : ส่วนใหญ่มักมาจากกรรมพันธุ์ที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดของคนในครอบครัว ที่มีโครงสร้างกระดูกขากรรไกรใหญ่ จึงทำให้ใบหน้าดูใหญ่ หรือหน้าบานได้
  • ไขมัน : คนที่น้ำหนักตัวเยอะ หรือคนที่ทานอาหารที่ทำให้อ้วนง่าย เช่น ของมัน ของทอด แป้ง น้ำตาล ทำให้เกิดไขมันสะสมตามกรอบหน้า แก้ม ใต้คาง จนใบหน้าดูใหญ่ หน้าบวมขึ้นได้
  • กล้ามเนื้อ : หลายคนมักมีปัญหากรามใหญ่ หน้าบานจากสาเหตุนี้ เนื่องจากในชีวิตประจำวันของเราทุกคนต้องเคี้ยวอาหารอยู่เป็นประจำ ยิ่งคนที่ชอบทานอาหารที่มีความเหนียว แข็ง เคี้ยวยาก ก็ยิ่งทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามทำงานหนักมากขึ้นไปอีก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้กรามใหญ่ แข็งขึ้น และหน้าดูบานนั่นเอง

เคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ

เคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ กรามใหญ่ขึ้นแน่นอน?

ดังนั้นสำหรับคำถามที่ว่า คนที่เคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ จะทำให้กรามใหญ่ จนหน้าบานขึ้นหรือไม่? คำตอบก็คือ การเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ ทำให้การทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกรามขยับ หรือเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อกรามมีความแข็ง และเห็นชัดเจนขึ้นได้ เช่นเดียวกับการเคี้ยวของเหนียว ของแข็งที่ต้องออกแรงกล้ามเนื้อบริเวณนี้เยอะ ทำให้กล้ามเนื้อกรามทำงานหนัก จนมีความแข็งขึ้น กรามจึงดูใหญ่ และใบหน้าบานขึ้นนั่นเอง

ลดกราม ด้วยโบท็อก Botox

สำหรับคนที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่ง หรืออาหารเหนียว ๆ เป็นประจำจนมีปัญหากรามใหญ่ หน้าบาน สามารถเช็คได้ง่าย ๆ ว่าปัญหานี้เกิดจากกล้ามเนื้อหรือไม่ โดยการกัดฟัน ถ้ากล้ามเนื้อบริเวณกรามปูดออกมาแสดงว่ามีปัญหาจากกล้ามเนื้อ สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการฉีดโบท็อกลดกรามค่ะ

เนื่องจากสารโบท็อกสามารถลดความแน่น แข็ง ของกล้ามเนื้อให้มีขนาดเล็กลงได้ ดังนั้นการฉีดโบท็อกถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการปรับรูปหน้า เพราะสามารถแก้ไขปัญหาได้ง่าย สะดวก และเห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วที่สุด

หน้าบานโดยแพทย์จะฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) เข้าไปยังกล้ามเนื้อบริเวณกราม หรือจุดที่ต้องการแก้ปัญหา ซึ่งตัวสารโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อการทำงานของกล้ามเนื้อให้เริ่มอ่อนแรงและทำงานน้อยลง จากก้อนกล้ามเนื้อแน่น ๆ แข็ง ๆ จะเริ่มนิ่มขึ้น และเล็กลงในที่สุด ส่งผลให้ใบหน้าดูเล็กลงตามไปด้วย นอกจากนั้นโบท็อกยังทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว และไม่สามารถขยับได้ ส่งผลให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งจนกลายเป็นริ้วรอย ดูลดเลือนลง ผิวเรียบตึงมากขึ้น

ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกลดกราม สามารถเห็นผลได้หลังฉีดประมาณ 4-7 วัน จะสังเกตได้เลยว่ากล้ามเนื้อที่ก่อนฉีดมีความแข็ง ตอนนี้มีความนิ่มขึ้น และมีขนาดเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวเล็กลงตามไปด้วย โดยเราสามารถเห็นผลลัพธ์อย่างเต็มประสิทธิภาพได้ตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป และการฉีดโบท็อกลดกรามสามารถคงผลลัพธ์ไว้ได้นานประมาณ 6-8 เดือน ก่อนที่สารโบท็อกจะค่อย ๆ สลายไปได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ในร่างกาย ถือเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยมากเลยทีเดียว

ข้อดีของการฉีดโบท็อก Botox

  • เป็นวิธีแก้ไขปัญหารูปหน้า ปัญหากรามใหญ่ หน้าบานที่เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว
  • ไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา หลังฉีดโบท็อกเสร็จสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ทันที
  • โบท็อกของแท้มีความปลอดภัย เพราะสามารถสลายตัวไปเอง ไม่ตกค้างในร่างกาย
  • นอกจากช่วยลดขนาดกรามได้แล้ว ยังช่วยยกกระชับใบหน้า และลดริ้วรอยได้อีกด้วย

โบท็อกสำหรับใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเคี้ยวหมากฝรั่งบ่อย ๆ ว่าจะทำให้กรามใหญ่ขึ้นจริงไหม คงได้คำตอบกันแล้วนะคะ ว่าสามารถทำให้กล้ามเนื้อกรามมีความแข็งมากขึ้น จนส่งผลให้ใบหน้าดูใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นใครที่ชอบเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นประจำ ลองลดให้น้อยลง และถ้าอยากปรับรูปหน้าให้ดูเรียวเล็กลง สามารถฉีดโบท็อกลดกราม เป็นตัวช่วยที่ได้ผลอย่างมีประสิทธิภาพมากเลยทีเดียวค่ะ

สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ของเราได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ หรือที่คลินิค APEX กว่า 30 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย เรื่องฉีดปรับรูปหน้าไว้ใจ APEX!