5 วิธี กระตุ้นระบบเผาผลาญ ทำแล้วลดไขมันเร็วขึ้น

กระตุ้นระบบเผาผลาญ
การมีระบบเผาผลาญที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นผลดีต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเหมาะสม รวมทั้งยังช่วยให้ร่างกายมีเรี่ยวแรงมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการลดน้ำหนัก การมีระบบเผาผลาญที่ทำงานได้เต็มที่ก็ช่วยลดน้ำหนักได้เร็วยิ่งขึ้น แต่จะมีวิธีใดบ้างที่ช่วย กระตุ้นระบบเผาผลาญ ให้ร่างกายได้บ้าง มาดูกัน

1. รับประทานอาหารเช้า

เราทราบกันอยู่แล้วว่า มื้อเช้าเป็นมื้ออาหารที่สำคัญกับร่างกายมากที่สุด เพราะจะช่วยทำให้ร่างกายมีเรี่ยวแรง อีกทั้งยังช่วยให้เราสามารถควบคุมการรับประทานอาหารเป็นไปได้อย่างเหมาะสมตลอดทั้งวันเลยล่ะค่ะ แค่เพียงรับประทานมือเช้าให้อิ่ม จะสมองได้รับน้ำตาลจากคาร์โบไฮเดรตไปเลี้ยงสมองอย่างเหมาะสมก็จะช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น ไม่มีปัญหา Brain Fog ที่ส่งผลต่อการเรียนการทำงาน นอกจากนี้การรับประทานอาหารเช้า ยังช่วยลดการหลังสารนิวโรเปปไทด์วาย ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ร่างกายต้องการของหวาน ทำให้แนวโน้มในการรับประทานของหวานระหว่างวันลดลง ซึ่งน้ำตาลนี่ล่ะค่ะคือตัวการหลักที่ทำให้ระบบเผาผลาญหยุดทำงาน ดังนั้นถ้าอยากให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดี กินมื้อเช้าเลย รับรองว่าเห็นผลแน่นอนค่ะ

2. ดื่มน้ำให้มากขึ้น

การดื่มน้ำเปล่า ถือเป็นสิ่งสำคัญที่คนเราขาดไม่ได้ เพราะร่างกายของคนเราประกอบด้วยน้ำมากกว่า 70% เพราะฉะนั้นในแต่ละวันคนเราจึงต้องดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อสุขภาพที่ดีของร่างกาย แต่ถ้าคุณสามารถดื่มน้ำเพิ่มขึ้นอีกสัก 2 แก้วในระหว่างวันได้แล้วล่ะก็ สิ่งที่จะตามมาไม่เพียงแต่การได้รับน้ำอย่างเพียงพอ แต่ยังช่วยให้คุณลดไขมันส่วนเกินในร่างกายได้เร็วขึ้น เนื่องจากการดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น จะได้ กระตุ้นระบบเผาผลาญ ของร่างกายได้นั่นเอง

3. ดื่มชาร้อน

การดื่มชา ไม่เพียงแต่ช่วยให้เราได้ดื่มน้ำมากขึ้นเท่านั้น แต่ชาหลาย ๆ ชนิดมีส่วนในการกระตุ้นการเผาผลาญได้เป็นอย่างดีอีกด้วย อาทิ ชาเขียว ชาอู่หลง มีสามารถช่วยกระตุ้นระบบการเผาผลาญ และละลายไขมันสะสมที่อยู่ในกระแสเลือด หรือสะสมอยู่บริเวณหน้าท้อง ต้นขา ได้เป็นอย่างดี ถ้าอยากลดไขมันส่วนเกิน ลองดื่มชาก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีมากเลยนะจะบอกให้

4. ออกกำลังกายแบบผสมผสาน 

เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง เดินเร็ว ปั่นจักรยาน หรือว่ายน้ำ จะให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้มาก แต่การออกกำลังกายแบบผสมผสาน โดยออกกำลังกายทั้งแบบคาร์ดิโอ และแบบเวทเทรนนิ่ง จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อซึ่งเปรียบเสมือนเตาเผาพลังงาน หากกล้ามเนื้อแข็งแรงมากขึ้นก็จะสามารถเผาผลาญได้มากขึ้น และการเผาผลาญนั้นก็จะมีประสิทธิภาพมากกว่า รวมถึงดีกับสุขภาพ ทั้งในเรื่องของระบบหัวใจ และหลอดเลือดมากกว่าอีกด้วย ฉะนั้นลองแบ่งเวลาในการออกกำลังกายแต่ละครั้งเพื่อออกกำลังกายคาร์ดิโอ และเวทเทรนนิ่ง คุณจะพบว่าสัดส่วนลดลงไปพร้อม ๆ กับหุ่นที่เฟิร์มมากขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

5. นอนหลับให้เพียงพอ

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะการนอนหลับอย่างเพียงพอ และเข้านอนเป็นเวลา ไม่ดึกจนเกินไปสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้เป็นอย่าง อีกทั้งการเข้านอนและการตื่นนอนตรงเวลาทุกครั้ง ร่างกายจะสามารถหลั่งฮอร์โมนต่าง ๆ ออกมาได้อย่างเป็นปกติ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาหิวบ่อยอีกด้วยล่ะค่ะ ดังนั้นถ้าอยากมีระบบการเผาผลาญที่ดี ก็ต้องนอนหลับอย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง และควรตั้งเวลาเข้านอน และตื่นนอนให้เป็นนิสัยนะคะ 

และนี่คือเคล็ดลับในการกระตุ้นระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายให้เผาผลาญไขมันส่วนเกินได้มากขึ้น ซึ่งในการที่จะมีรูปร่างที่ดีได้นั้น วิธีในข้างต้นถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยในการลดน้ำหนักได้ แถมยังช่วยสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรงได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน หรือผ่าตัดให้เจ็บตัว เพียงแค่คุณทำสิ่งเหล่านี้ให้เป็นนิสัยก็สามารถเห็นรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงของตัวเองได้แล้วล่ะค่ะ

แต่ถ้าหากคุณรู้สึกว่าอยากลดสัดส่วน สลายไขมันโดยไม่ต้องใช้เวลานาน และไม่อยากรอให้ร่างกายค่อย ๆ สลายไขมันส่วนเกินที่มีไปตามธรรมชาติ ก็ยังมีตัวช่วยอีกมากมายที่สามารถช่วยคุณได้ อย่างเช่น การสลายไขมันด้วยความเย็น หรือ CoolSculpting เทคโนโลยีที่ได้รับมาตรฐานระดับโลกว่าสามารถกำจัดไขมันออกจากร่างกายได้จริง โดยไม่มีผลข้างเคียง ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องเจ็บตัวค่ะ 

CoolSculpting เทคโนโลยีการสลายไขมันด้วยความเย็น ด้วยการใช้ความเย็นอุณหภูมิ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียส เข้าไปกำจัดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่มีปัญหา โดยในการทำแต่ละครั้งจะสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้ 20-30% และใช้เวลาในการทำเพียง 35 – 45 นาทีเท่านั้น ซึ่งหลังจากทำแล้ว ผู้เข้ารับบริการก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น ปล่อยให้ร่างกายค่อย ๆ กำจัดซากของเซลล์ไขมันที่ได้รับความเย็นจนทำให้ตายลง เพียง 1 – 3 เดือน ก็จะสามารถเห็นรูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไปหลังทำได้อย่างชัดเจน 

และถ้าคุณต้องการความมั่นใจในการทำ ที่ APEX เราเป็นที่หนึ่งในเอเชียในการทำ CoolSculpting ด้วยการมีเคสการทำมากที่สุดอีกทั้งยังมีทีม CoolSculpting Specialist ซึ่งผ่านการฝึกอบรม เพิ่มพูนความรู้ และประสบการณ์อยู่เสมอ ที่พร้อมจะให้คำแนะนำและช่วยดูแลคุณ ทำให้คุณสามารถมีรูปร่างที่ดีได้ตามอย่างที่คาดหวัง อย่างปลอดภัยที่สุดกับ APEX ค่ะ

 

ปรึกษา และสอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
FB inbox : click http://m.me/apexprofoundbeauty
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter