ลบรอยสัก แบบไหนดีกว่ากัน Q-Switched Laser หรือ Picosure

รอยสัก ในปัจจุบันนี้ถือว่าเป็นที่ได้ความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งการสักในตอนนี้จะขึ้นอยู่กับความชอบของคนที่สัก มีสีสันมากมายหรือสักเพียงแค่ลายเล็กๆ นอกจากนี้รอยสักยังเป็นการบ่งบอกถึงตัวตนของผู้สักได้อีกด้วย แต่หลายๆ คนคงจะเคยเห็นผู้ที่สักลายเต็มทั้งตัว ซึ่งหากจะอยาก ลบรอยสัก ก็คงเป็นเรื่องที่ทำได้ยากและค่อนข้างใช้ระยะเวลานาน บางคนนำน้ำยาบางอย่างที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้ จนทำให้เกิดเป็นรอยแผลเป็นอย่างที่เคยเห็นในข่าว แต่อันที่จริงแล้วปัจจุบันนี้มี เทคโนโลยีที่ช่วยในการลบรอยสัก พัฒนาขึ้นมาหลายประเภท อย่างเช่น Q-Switched Laser และ Picosure ซึ่งก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน

เทคโนโลยีแต่ละชนิดเป็นอย่างไร?

Q-Switched Laser

เป็นเลเซอร์ที่สามารถใช้รักษาฝ้า กระ ปาน ลบรอยแผลเป็นและรอยสัก ซึ่งมีประสิทธิภาพดีกว่า IPL โดยจะปล่อยพลังงานแสงออกมา ทำให้เซลล์เม็ดสีแตกตัว หลังจากนั้นเม็ดเลือดขาวจะดูดซึมหรือย่อยสลายเม็ดสีที่ผิดปกติ จากนั้นจะถูกขับออกเป็นของเสียออกจากร่างกาย โดยไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ปกติจะต้องทำประมาณ 3-6 ครั้ง เพื่อการเห็นผลที่ชัดเจน เพราะการยิงครั้งแรกจะเห็นผลได้ดีประมาณ 80% ซึ่งจำนวนครั้งการยิงก็ขึ้นอยู่กับความตื้นลึกของเม็ดสีในบริเวณนั้น และหลังจากยิงแล้วบริเวณนั้นจะมีสีเข้มขึ้น เมื่อร่างกายกำจัดเม็ดสีที่แตกตัวออกไปหมดแล้ว จะเกิดการตกสะเก็ดและหลุดออกไป สภาพผิวก็จะค่อยๆ กลับมาสู่ความปกติและจะกระจ่างใสขึ้น โดยระยะเวลาการทำจะต้องเว้นระยะการทำประมาณ 3-6 สัปดาห์ เพื่อให้ผิวบริเวณที่ทำได้พัก เพื่อซ่อมแซมผิวที่ลบรอยสัก

นอกจากนี้คลื่นแสงยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวนุ่มนวล เรียบเนียนและสำหรับการลบรอยสัก จะเป็นการใช้หลักการเดียวกัน เครื่องที่มีความถี่ต่ำก็จะเหมาะกับการลบรอยสักสีแดง ส่วนเครื่องที่มีความถี่สูงก็จะเหมาะกับการลบรอยสักสีดำและสีน้ำเงิน ส่วนสีที่สามารถลบได้ดีคือ รอยสักที่มีสีดำ น้ำตาล ฟ้า แดง แต่ไม่สามารถลบรอยสักสีเขียวและเหลืองได้ นอกจากลบรอยสักได้แล้ว ก็ยังสามารถช่วยลบความหมองคล้ำของริมฝีปาก ทำให้ปากชมพูได้ด้วย

Picosure,ลบรอยสัก,เลเซอร์รอยสัก,เลเซอร์ลบรอยสัก,เลเซอร์,รักษาฝ้า,รักษาหลุมสิว,รักษากระ,รักษาจุดด่างดำ,จุดด่างดำ,สิว,ฝ้า,กระ,หลุมสิว

Picosure

นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของการพัฒนาพลังงานแสงเลเซอร์ เป็นการเปลี่ยนวิธีการคิดใหม่ในการส่งพลังงานเลเซอร์ ซึ่งในอดีตจะใช้การสะสมความร้อนเป็นหลัก มาเป็นวิธีการส่งพลังงานแบบใหม่ที่เรียกว่า Picosecond Technology ซึ่งเป็นการส่งพลังงานเลเซอร์ที่ความเร็วสูงสุดในระดับ 1 ต่อล้านล้านวินาที (Picosecond = One-trillionth of a second ) ซึ่งในอดีตเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ดีที่สุดก็อยู่ที่ระดับ 1 ต่อพันล้านวินาที (Nanosecond = One-billionth of a second) เท่านั้น

ความเร็วในระดับ Picosecond ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลในการทำงานของพลังงานเลเซอร์ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า Photoacoustic คือการที่พลังงานแสงถูกดูดกลืนจนเกิดเป็นแรงดัน และแตกกระจายออกโดยไม่ทำให้เกิดการสะสมความร้อนในบริเวณข้างเคียง พลังงานเลเซอร์สามรถเข้าถึงเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้อะตอมที่เรียงตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นเป็นกระจุกจนมองเห็นเป็นสีต่างๆ เกิดการแตกกระจายตัวออก และถูกดูดซึมออกจากร่างกาย โดยไม่มีการสะสมความร้อนในบริเวณเซลล์รอบๆ ทำให้เม็ดสีที่ผิดปกติจางลงในทันที สามารถเห็นได้ตั้งแต่การรักษาในครั้งแรก โดยไม่มีผลข้างเคียงเหมือนการรักษาด้วยเลเซอร์แบบเดิมๆ และไม่รู้สึกเจ็บ ไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ สามารถทำการรักษาได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลลัพธ์ที่รวดเร็วในการรักษา

นอกจากนี้พลังงานแสงที่มีความถี่สูงมาก จนทำให้เกิดการเปลี่ยนสสารเป็นแรงดันเล็กๆ ในระดับนาโนกระจายทั่วผิวหนังในระดับคอลลาเจนลึก ที่เลเซอร์ไม่เคยทำได้มาก่อน ทำให้เกิดการสร้างอิลาสตินและคอลลาเจนใหม่เป็นจำนวนมหาศาล จึงไม่เพียงแต่ทำให้เม็ดสีหายไป แต่ยังช่วยให้ผิวมีความแน่นเนียน สีผิวสม่ำเสมออีกด้วย

การลบรอยสัก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใดๆ ปัจจุบันจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป สามารถลบได้ง่ายกว่าเดิม และไม่ต้องเสี่ยงด้วย โดยจะรักษาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ก็สามารถทำให้รอยสักหายไปได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม