ลดเหนียง แบบไม่เจ็บตัว บอกลาคางสองชั้นคอยกวนใจ
ถ่ายรูปเซลฟี่ทีไรก็ไม่ถูกใจ หันมุมไหนก็ดูอ้วน หน้ากับคางดูรวมกันไปหมด เห็นเหนียงชัดจนรู้สึกหมดความมั่นใจ พยายามหาวิธี ลดเหนียง ลดคางสองชั้น แต่ไม่รู้ทำยังไงดี จะไปผ่าตัดเอาไขมันพวกนี้ออกก็ดูเป็นเรื่องใหญ่ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาในการพักฟื้น แถมกลัวเจ็บอีกต่างหาก! ทุกคนที่มีปัญหาแบบนี้อยู่ ไม่ต้องเศร้าไป เพราะว่าเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีทางการแพทย์พัฒนาไปไกลมาก มีเทคนิคดี ๆ ที่สามารถช่วยลดเหนียง แก้คางสองชั้น ของเราให้หายไปได้แบบไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว แถมยังได้รูปหน้าเรียวเล็กเป็นของแถมอีกด้วย จะมีวิธีอะไรบ้างนั้นเรามาดูไปพร้อมกันเลยค่ะ
คางสองชั้น (Double Chin) หรือที่เรียกกันบ่อย ๆ ว่า เหนียง มีลักษณะผิวหนังบริเวณใต้คางหย่อนเป็นก้อน และมีไขมันสะสมอยู่ใต้คางทำให้ลักษณะดูเหมือนคางสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัด เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ได้แก่
⬤ ไขมันสะสมใต้คาง พบได้บ่อยในคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ อ้วนขึ้น หรือเกิดจากอากหารที่เรารับประทานในแต่ละวันเปลี่ยนเป็นไขมันไปสะสมบริเวณใต้คางเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
⬤ ผิวหย่อนคล้อย เกิดขึ้นได้ทั้งในคนอ้วนและผอม เพราะเมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังเริ่มไม่ตึงกระชับ เกิดความหย่อนคล้อยโดยเฉพาะบริเวณแก้ม แนวกราม คาง ลำคอ เนื่องจากผิวสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน
⬤ พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น การก้มหน้าเล่นมือถือเป็นประจำของผู้คนในยุคปัจจุบัน
⬤ คางสั้น นอกจากจะทำให้ดูใบหน้ากลมแล้ว ยังทำให้เห็นเนียงได้ชัดมากขึ้นอีกด้วย
วิธีลดเหนียงแบบไม่เจ็บตัว
1.คุมอาหาร พร้อมออกกำลังกาย บริหารใบหน้า
วิธีนี้เราสามารถทำได้ทุกวัน เป็นวิธีที่ง่าย แต่ต้องรักษาวินัย ทำอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เพราะการควบคุมอาหาร พร้อมออกกำลังกาย บริหารใบหน้าจะเห็นผลลัพธ์แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยเริ่มจาก หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกแป้ง ไขมัน เช่น ของทอด ของมัน ของหวาน ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย เมื่อน้ำหนักเริ่มลด ก็จะทำให้รูปร่าง รวมถึงไขมันใต้คางลดลงไปได้ด้วย หลังจากนั้นการบริหารใบหน้าจะช่วยให้ผิวหนังดูกระชับได้มากขึ้น เราอาจจะทำวันละ1-2 ครั้ง เช้า/เย็น โดยท่าบริหารใบหน้าสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้
- เงยหน้าขึ้นมองเพดาน และยื่นคางไปข้างหน้าพร้อมกัน จนรู้สึกตึง ๆ ใต้คาง ค้างไว้นับ 1-10 แล้วกลับสู่ท่าปกติ
- หันหน้าตรง จากนั้นกัดฟันและออกแรงเกร็ง ค้างท่านี้ไว้นับ 1-10 จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนกลับมาอยู่ท่าปกติ
- ยื่นคอออกไปข้างหน้าให้มากที่สุดจนรู้สึกตึง แล้วทำปากเป็นรูปตัวโอ ค้างไว้นับ 1-10 แล้วค่อย ๆ กลับสู่ท่าปกติ
2.ฟิลเลอร์ (Filler)
ใช่ค่ะ!! ฉีดฟิลเลอร์ทำให้หน้าคุณดูเล็กลง
หลายๆคนยังมีความเชื่อว่าการฉีดสารเติมเต็ม เช่น การฉีดฟิลเลอร์ทำให้หน้ายิ่งดูใหญ่ ดูบาน แต่ด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์ที่ล้ำสมัย ทำให้การฉีดฟิลเลอร์เปรียบเสมือนการสร้างเสาค้ำส่วนที่ห้อย ย้อยให้กับใบหน้า แถมการฉีดฟิลเลอร์สามารถเห็นผลลัพธ์ได้แบบทันใจ ซึ่งวิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีใบหน้ากลม คางสั้น กรอบหน้าไม่ชัด ทำให้เห็นเป็นคางสองชั้นได้ง่ายและชัดเจน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์บริเวณกรอบหน้า หรือที่เรียกว่า Jawline Filler ผสมผสานกับ Filler Lift นั้นเป็นการแก้ไขปัญหาบริเวณใบหน้าช่วงล่าง แนวขากรรไกร ตั้งแต่ด้านหน้าของใบหูจนถึงปลายคาง
โดยการฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าเป็นวิธีที่ช่วยปรับโครงสร้างใบหน้า หรือปรับรูปหน้าของเรา ด้วยการใช้สารเติมเต็ม ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือเรียกว่า เอชเอ (HA) ฉีดเข้าไปเพื่อช่วยทำให้ใบหน้าส่วนล่างมีความสมดุลมากขึ้น ซึ่งเป็นสารที่มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสามารถสลายเองได้100%
ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้า ช่วยอะไรได้บ้าง
- ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น: สำหรับคนที่กรอบหน้าไม่ชัด หน้ากับคอดูรวมเป็นส่วนเดียวกัน หน้ากลม คางสั้น ทำให้เห็นคางสองชั้นชัดมาก การฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าจะช่วยใบหน้าเป็นทรงชัด เสริมให้ใบหน้าทั้งด้านข้าง และหน้าตรงให้ดูดี ดูยาวขึ้น โครงหน้าสวยได้รูป ดูมีช่วงคอมากขึ้น
- แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย: เหมาะสมสำหรับคนที่พวงแก้มคล้อยลงมา ผิวหน้าบริเวณกรามไม่กระชับ ฉีดฟิลเลอร์กรอบหน้าเพื่อเป็นการยกกระชับ ให้ผิวกลับมาเต่งตึง แก้ไขผิวหย่อนคล้อยบริเวณข้างแก้ม
- แก้ปัญหาแนวกรามไม่คมชัด: เหมาะสำหรับสายฝ. หรือคุณผู้ชายที่ต้องการให้ใบหน้าและสั้นกรามมีความคมชัด โดดเด่น มีมิติมากขึ้น
- ปรับรูปหน้าให้ดู V-Shape: เป็นการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับส่วนที่หย่อนบริเวณใบหน้าช่วงล่าง และเก็บกรอบหน้าให้ได้รูปมากขึ้น
ฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการฉีดบริเวณกรอบหน้า
ในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ออกมาหลายยี่ห้อ หลากหลายรุ่น เพื่อให้เหมาะกับการฉีดแก้ไขปัญหาใบหน้าในแต่ละบริเวณ อย่างบริเวณกรอบหน้าที่เราพูดถึงกันอยู่นี้ เป็นส่วนที่ต้องการฟิลเลอร์ที่มีลักษณะเนื้อที่ค่อนข้างหนาแน่น คงตัวได้ดีเพื่อช่วยในการปั้นขึ้นรูปตามแนวขากรรไกร
ซึ่งฟิลเลอร์ที่ได้รับเสียงยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญ และคนไข้ว่าสามารถเห็นผลลัพธ์บริเวณกรอบหน้าได้ดีจริงตอนนี้คงหนีไม่พ้นฟิลเลอร์ Juvederm Volux ซึ่งรุ่น Volux เป็นฟิลเลอร์เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด สัญชาติอเมริกา เป็นแบรนด์ที่มีมาอย่างยาวนาน ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งฟิลเลอร์ Juvederm ได้การรับรองจาก US FDA และ Thai FDA ดังนั้นจึงมั่นใจได้ถึงความปลอดภัย
โดยความพิเศษของฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volux คือ ถูกออกแบบมาให้ฉีดแก้ไขปัญหาใบหน้าช่วงล่างโดยเฉพาะ ทั้งบริเวณกราม ขากรรไกร คาง ช่วยปรับรูปหน้า แก้ปัญหากรอบหน้าไม่ชัด เนื่องจาก Volux เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัวสูง โมเลกุลหนัก เนื้อค่อนข้างแข็ง ทำให้ปั้นขึ้นรูปได้ดี เคลื่อนที่ได้ยาก หลังจากฉีดจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่ากรอบหน้าดูคมชัดขึ้น คาวดูยาวสมส่วน แม้แค่คนที่มีปัญหาคางหุบหรือคางร่นไปข้างหลัง ก็สามารถใช้ ฟิลเลอร์รุ่น Volux นี้ในการแก้ไขปัญหาได้อีกด้วย อีกทั้งผลลัพธ์ยังสามารถอยู่ได้นานถึง 24 เดือน จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในอเมริกาและยุโรป
3.เทอร์มาจ (Thermage)
เทอร์มาจ (Thermage) เหมาะสำหรับคนที่ผิวหน้าช่วงล่างหย่อนคล้อย มีไขมันใต้คางเยอะ การทำเทอร์มาจ คือการใช้เครื่องมือมาเป็นตัวช่วยยกกระชับผิว ด้วยการส่งพลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency หรือ RF) ซึ่งจะแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ลงสู่ชั้นใต้ผิวระดับชั้นไขมันและคอลลาเจน ช่วยกระตุ้นให้เส้นใยคอลลาเจนทำงานได้ดีขึ้นและเกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ส่งผลให้ผิวมีความหยืดยุ่น ผิวกระชับ เต่งตึงมากขึ้น ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และริ้วรอยจางลง อีกทั้งความร้อนที่ลงสู่ชั้นใต้ผิวยังช่วยลดการสะสมของไขมันบริเวณใต้คาง แก้มให้ลดลงได้อีกด้วย ซึ่งผลลัพธ์ของการทำเทอร์มาจจะสามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำประมาณ 30% และจะค่อย ๆ เห็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่องประมาณ 3-6 เดือน ซึ่งผลลัพธ์นั้นจะคงอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพผิวของเราเองด้วย
ไม่ว่าจะคนอ้วนหรือผอมก็สามารถมีคางสองชั้น หรือเหนียงได้ วิธีลดเหนียงแต่ละวิธีที่ได้แนะนำกันไปจึงขึ้นอยู่กับว่าปัญหาคางสองชั้นของเราเกิดขึ้นมาจากสาเหตุอะไร ซึ่งบางครั้งอาจจะต้องใช้เทคนิคผสมผสานมากกว่าหนึ่งวิธีในการช่วย ลดเหนียง ไขมันใต้คาง ให้ใบหน้ากลับมาดูกระชับ โครงหน้าชัดเจนได้รูปอีกครั้ง
