ตัวช่วยเด็ด! ลดบ่า – ไหล่แข็ง เป็นก้อน แก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรม

ไหล่แข็งปัญหาออฟฟิศซินโดรม ดูจะเป็นอาการที่หนุ่ม-สาวชาวออฟฟิศยุคนี้เป็นกันเยอะมาก เพราะต้องทำงานหน้าคอม นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ  ไม่ค่อยได้ลุกเดิน เคลื่อนไหวร่างกายสักเท่าไหร่ ยิ่งช่วงนี้ต้องทำงานแบบ Work Form Home ทำให้เสี่ยงกับอาการออฟฟิศซินโดรมมากขึ้น เนื่องจากบางคนอาจจะไม่มีเก้าอี้สำหรับนั่งทำงานโดยเฉพาะ จึงทำให้เวลานั่งทำงานไปนาน ๆ เกิดอาการปวดหลัง กล้ามเนื้อตึงแน่น บริเวณคอ บ่า ไหล่ สะบัก และ ไหล่แข็ง เป็นก้อนได้ ซึ่งถ้าปล่อยไว้แบบนี้จะส่งผลให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้อีกไม่ว่าจะเป็น ไมเกรน หรือ รุนแรงถึงขั้นหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทเลยทีเดียว

สาเหตุของการเกิดออฟฟิศซินโดรม

ออฟฟิศซินโดรม คือ อาการปวดกล้ามเนื้อ และ เยื่อพังผืด มีสาเหตุมากจากการทำกิจกรรมในชีวิตประจำที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำ ๆ เป็นระยะเวลานาน มักจะเกิดกับคนวัยทำงาน ชาวออฟฟิศ เช่น การนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทั้งวันโดยไม่ค่อยขยับร่างกาย หรือเปลี่ยนท่าทาง อิริยาบถอื่น ๆ หรือ นั่งก้มหน้าเล่นมือถือทั้งวันก็ส่งผลต่ออาการนี้ได้เช่นกัน โดยเริ่มจากมีอาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อก่อน ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะสามารถลุกลามกลายเป็น อาการปวดเมื่อยเรื้อรัง หรือ อาการชาจนกดทับเส้นประสาทได้

อาการออฟฟิศซินโดรมที่พบได้บ่อย

  • อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ : เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรม มักจะมีอาการปวดเมื่อย หรือ ปวดร้าวกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ รวมถึงสะบักหลัง อาการปวดมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงปวดรุนแรง เมื่อปล่อยไว้นาน ๆ แล้วลองจับบ่า ไหล่ จะรู้สึกได้ว่า ไหล่แข็ง เป็นก้อนขึ้นมา
  • อาการปวดหลัง : เกิดจากท่านั่ง หรือ ท่ายืนที่ไม่เหมาะสมระหว่างการทำงาน จนทำให้กล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บ เช่น นั่งไขว้ห้างเป็นเวลานาน ยืนลงน้ำหนักขาข้างใดข้างหนึ่งนานเกินไป
  • อาการเอ็นกล้ามเนื้ออักเสบ : เกิดจากการได้รับบาดเจ็บบริเวณนั้นซ้ำ ๆ จนรู้สึกปวด บวมบริเวณเอ็นกล้ามเนื้อ เช่น บริเวณข้อมือ หัวไหล่ เข่า ข้อเท้า เช่น คนที่ทำหน้าคอม ต้องใช้ข้อมือเลื่อนเมาส์ตลอดเวลา หรือ นักกีฬาที่ต้องมีการเคลื่อนไหว และลงน้ำหนักที่ข้อเท้า
  • อาการนิ้วล็อค : เกิดได้กับคนที่ให้นิ้วใดนิ้วหนึ่งในการทำงานเป็นเวลานาน เช่น ช่างฝีมือ แม่บ้าน หรือคนที่ชอบเล่นเกมส์มือถือ เป็นต้น
  • อาการเส้นประสาทถูกกดทับ : ทำให้เกิดอาการชา เหน็บ หรือปวดร้าว ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณ นิ้ว แขน ขา
  • อาการปวดหัว : เกิดจากการลุกลามของอาการบ่าตึง ไหล่แข็ง ทำให้เลือดไม่สามารถไหลเวียนไปยังบริเวณศีรษะได้สะดวก หรือบางครั้งมาจากคนที่นั่งทำงานหน้าคอม แล้วจ้องหน้าจอจนตาแห้ง เหล่านี้ส่งผลให้ปวดหัวได้ และอาจจะรุนแรงถึงขั้น เป็นไมเกรน

ออฟฟิศซินโดรมซึ่งปัญหาออฟฟิศซินโดรม สามารถรักษาให้หายได้ ยิ่งถ้าเริ่มรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็จะได้ผลดียิ่งขึ้น โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทำงานของเราก่อน เช่น เลือกเก้าอี้ที่เหมาะสำหรับนั่งทำงาน นั่งทำงานด้วยท่าทางที่ถูกต้อง ขยับร่างกายระหว่างทำงานบ้าง จากนั้นบริหารร่างกาย ยืดกล้ามเนื้อในวิธีที่ถูกต้องเพื่อป้องกัน หรือ บรรเทาอาการเจ็บปวด แต่ถ้าหากไม่ดีขึ้นสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาออฟฟิศซินโดรมได้ เช่น การฝังเข็ม การนวดแผนไทย การทำกายภาพบำบัด หรือเทรนด์การรักษาใหม่ เป็นที่ยอมรับในในวงการแพทย์ อย่างการใช้ สารโบท็อกซ์ Botox

แก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรม ด้วยการฉีดโบท็อก Botox

ทุกคนคงคุ้นเคยกับการฉีดโบท็อกเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวเล็ก และฉีดเพื่อลดเลือนริ้วรอย แต่นอกจากนั้นแล้วโบท็อก Botox ยังสามารถรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม แก้อาการปวดเมื่อยได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด เนื่องจากหลายคนที่มีปัญหาออฟฟิศซินโดรม เลือกที่จะไปนวดผ่อนคลายร่างกาย แต่การนวดก็ทำให้รู้สึกสบายขึ้นเพียงแค่ไม่นาน กล้ามเนื้อก็กลับมาปวดอีกครั้ง ในแต่ละเดือนจึงต้องไปนวดอยู่บ่อย ๆ ต่างจากการฉีดโบท็อกบ่า ที่สามารถรักษาได้ถึงต้นตอของปัญหา และยังให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า เพราะไม่ใช้การบรรเทาอาการระยะสั้น แต่ช่วยรักษา และลดอาการปวดเมื่อยลงในระยะยาวได้อีกด้วย

โบท็อก Botox หรือ Botulinum Toxin A เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ สกัดมาจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์สายพันธุ์เฉพาะอย่าง Clostridium botulinum โดยเริ่มแรกวงการแพทย์นำสารนี้มาใช้รักษาโรค เช่น อาการปวดหัวไมเกรน โรคกล้ามเนื้อกระตุก กล้ามเนื้อเกร็งผิดปกติ ตาเหล่ ตาเข เป็นต้น และต่อมาจึงได้มีการพัฒนามาใช้ในวงการแพทย์ผิวหนัง เพื่อความงามมากขึ้นแบบในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ฉีดโบท็อกลดกราม ฉีดโบท็อกลดริ้วรอยหน้าผาก หางตา ฯลฯ

โบท็อกโดยการทำงานของโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ เมื่อแพทย์ฉีดเข้าไปยังส่วนที่มีปัญหา สารโบท็อกจะทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งมีความแข็ง อ่อนแรง ขยับได้น้อยลงชั่วคราว จนกล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว นิ่มลงในที่สุด และเมื่อกล้ามเนื้อขยับได้น้อย พอผ่านเวลาไปกล้ามเนื้อก็จะค่อย ๆ ลีบเล็กลงได้  เปรียบเหมือนกับคนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อก็จะเหลวนั่นเอง

ซึ่งอย่างที่บอกไปว่าปัญหาออฟฟิศซินโดรม มีสาเหตุหลัก ๆ มาจากกล้ามเนื้อบริเวณเดิมถูกใช้งานหนักเป็นระยะเวลานาน จนมีความตึงแน่น หดเกร็ง ดังนั้นการฉีดโบท็อกจึงสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ โดยการออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อให้คลายตัวและมีขนาดเล็กลง ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกจะอยู่ได้นานประมาณ 4-6 เดือนเลยทีเดียว หลังจากนั้นสารโบท็อกจะสลายตัวไปหมด แต่เราสามารถกลับมาฉีดเพิ่มเพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่นานขึ้น แต่ควรเว้นระยะในการฉีดแต่ละครั้งประมาณ 3-4 เดือน ไม่ฉีดย้ำติดกันเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียง เช่น อาการดื้อโบท็อก

ข้อดีของการโบท็อก Botox แก้ออฟฟิศซินโดรม

  • ช่วยคลายกล้ามเนื้อ แก้อาการปวดเมื่อย บ่า ไหล่แข็ง ปัญหาออฟฟิศซินโดรม
  • ลดขนาดบ่าให้เล็กลง คอดูเรียวยาวมากขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับคนที่เคยมีช่วงบ่าแข็งเป็นก้อน ให้กลับมาใส่เสื้อโชว์ไหล่ได้สวยมากขึ้น เช่น คนที่ออกกำลังกายหนัก จนกล้ามเนื้อขึ้นชัด หรือไหล่แข็ง ไหล่กว้างขึ้น อยากลดขนาดให้ดูเรียวเล็กลง
  • การฉีดโบท็อกเป็นวิธีที่ปลอดภัย ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องพักฟื้น ฉีดเสร็จเห็นผลลัพธ์ทันทีและดีขึ้นเรื่อย ๆ 
  • เป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก แพทย์สามารถปรับปริมาณโบท็อกตามอาการของบ่า ไหล่แข็งได้
  • ฉีดโบท็อกเพียงครั้งเดียว แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 4-6 เดือน ต่างจากการทำกายภาพบำบัดที่ต้องทำบ่อยกว่า

ฉีดโบท็อก แก้ออฟฟิศซินโดรม อันตรายหรือไม่

การฉีดโบท็อกบ่า แก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรม เหมือนกับการฉีดโบท็อกเพื่อลดเลือนริ้วรอย หรือ ปรับรูปหน้าเลยค่ะ เพราะโบท็อกจะออกฤทธิ์ให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งอยู่ คลายตัวและมีขนาดเล็กลงได้เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจฉีดเราต้องศึกษาข้อมูล และที่สำคัญคือการเลือกคลินิก ไม่ว่าจะฉีดโบท็อกบริเวณไหนก็ตาม บนใบหน้า หรือ ร่างกาย ก็ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ใช้โบท็อกแท้ที่มีคุณภาพ พร้อมด้วยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ทำการฉีดรักษาให้เรา เพื่อความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายภายหลัง

ฉีด Botox ปลอดภัย ที่ APEX 

มั่นใจกับผลลัพธ์ และ ความปลอดภัยในการฉีดโบท็อก Botox ที่ APEX ได้เลยค่ะ เพราะด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 25 ปี ของ Apex Medical Center ทำให้เราได้เป็นอันดับ 1 ด้านการฉีดด้วยรางวัลการันตีมากมาย พร้อมด้วยอาจารย์แพทย์สายฉีด ผู้ได้รับสมญานามว่า Botox Queen อย่าง หมอนัน – พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ที่เป็นผู้บุกเบิกการใช้โบท็อกเป็นกลุ่มแรก ๆ ในประเทศไทย จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นที่ 1 ของเอเชียแปซิฟิคด้วยประสบการณ์การฉีดโบท็อกมากที่สุดเป็นคนแรกของประเทศถึง 8 ปีซ้อนเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีอาจารย์แพทย์ผู้สอนการปรับรูปหน้าด้วยเทคนิคการฉีด และใช้เครื่องมือยกกระชับให้กับแพทย์ทั้งในไทยและต่างชาติทั่วเอเชีย-ยุโรป อย่าง หมอเอก – นพ.เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร อีกด้วย

แพทย์ APEXเท่านั้นยังไม่พอ  APEX ยังมี Training Center เป็นของตัวเอง เพื่อให้อาจารย์แพทย์ผู้มากความรู้ ประสบการณ์ อย่างหมอนัน และหมอเอก ได้มาสอน รวมถึงอัปเดตเทคนิคใหม่ ๆ ให้กับทีมแพทย์ผู้เเชี่ยวชาญในกลุ่ม APEX Medical Institute (AMI) อีกด้วย ทำให้แพทย์ของเราทุกท่านมีฝีมือและเทคนิคในการฉีดโบท็อก เทียบเท่าระดับอาจารย์แพทย์เลยก็ว่าได้ จึงไม่แปลกใจเลยค่ะ ว่าทำไมผู้เข้าใช้บริการทุกท่านถึงถูกใจในผลลัพธ์ที่ได้จนต้องกลับมาให้ทีมแพทย์จาก APEX Medical Institute (AMI) ดูแลเป็นประจำ

ปัญหาออฟิศซินโดรมไม่ควรปล่อยไว้จนสายเกินแก้ เพราะจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ได้ ดังนั้นสำหรับใครที่มีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่ ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนั่งทำงานให้ถูกต้อง และลองพักเคลื่อนไหวร่างกายระหว่างวัน แต่ถ้ายังมีอาการออฟฟิศซินโดรมอยู่การพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็เป็นทางออกที่ดี โดยเฉพาะการฉีดโบท็อกบ่า นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาออฟฟิศซินโดรมได้แล้ว ยังช่วยลดขนาดบ่าให้เล็กลง แก้ปัญหาไหล่แข็ง เป็นก้อน ให้ช่วงคอดูเรียวสวย และดูบุคคลิกภาพดีขึ้นได้อีกด้วยค่ะ

สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ของเราได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) นะคะ หรือที่คลินิค APEX กว่า 30 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย เรื่องฉีดไว้ใจ APEX!