เมื่อคนเราต้องการลดน้ำหนัก โดยการออกกำลังกาย และอดอาหารอย่างไม่เหมาะสม ถือเป็นข้อผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง สิ่งเหล่านี้นอกจากจะไม่ช่วยลดน้ำหนักแล้วยังอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกด้วย แคลอรี่เป็นหน่วยวัดที่แสดงปริมาณพลังงานในอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งร่างกายต้องการแคลอรี่จำนวนหนึ่งเพื่อให้ทำงานได้ และแปลงแคลอรี่ส่วนเกินเป็นไขมันส่งผลให้น้ำหนักโดยรวมเพิ่มขึ้น ซึ่งเราจะสามารถลดน้ำหนักได้ต่อเมื่อมีการเผาผลาญแคลอรี่มากกว่าที่รับเข้าไป
เราสามารถลดน้ำหนักได้ ด้วยการทานอาหารแบบจำกัดแคลอรี่ในแต่ละมื้อ และการออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายปัจจัยที่คอยขัดขวางการลดน้ำหนัก เช่น
1. การเน้นการออกกำลังกายแต่ไม่คุมอาหาร
การคุมอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญในการลดน้ำหนักซึ่งทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ได้มาก ถึงแม้ว่าการออกกำลังกายเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญแคลอรี่ แต่เพื่อการลดน้ำหนักอย่างเห็นผล เราต้องออกกำลังกายร่วมกับการบริโภคแคลอรี่น้อยลง
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงการควบคุมอาหารอย่างเพียงพอ การออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวไม่อาจนำไปสู่การลดน้ำหนักอย่างเห็นผลได้ หลายคนอาจออกกำลังกายในระดับสูงมาก แต่ในกรณีเหล่านี้การลดน้ำหนักถึง 2 กิโลกรัมไม่อาจเป็นไปได้
ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่ส่วนใหญ่ผ่านอัตราการเผาผลาญพื้นฐาน นี่หมายถึงกระบวนการทั้งหมดที่ดำรงชีวิตเช่นการย่อยอาหารและการหายใจ แม้แต่กิจกรรมที่สมองเผาผลาญแคลอรี่ การออกกำลังกายซึ่งหมายถึงการเคลื่อนไหวของร่างกายใช้พลังงานน้อยกว่ามาก งานบ้านและการเดินขึ้นบันไดมีคุณสมบัติเหมือนการออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างมีโครงสร้าง จะเผาผลาญแคลอรี่ในสัดส่วนที่น้อยลง หากไม่มีการลดจำนวนแคลอรี่ที่เพียงพอต่อคนมันเป็นการยากที่จะลดน้ำหนักผ่านการออกกำลังกาย
การวิจัยยังแสดงให้เห็นว่า คนเรามักจะกินอาหารมากขึ้นเมื่อพวกเขาออกกำลังกายเป็นประจำ วิธีนี้จะทำให้ยากต่อการรักษาภาวะขาดแคลอรีและลดน้ำหนัก วิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนักคือ การรวมการออกกำลังกายกับอาหารที่จำกัดแคลอรี
2. ติดตามอาหารแฟชั่น
อาหารตามแฟชั่นส่วนใหญ่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์หรือแม้แต่งานวิจัยรองรับและสิ่งเหล่านี้อาจส่งผลเสียต่อการลดน้ำหนัก เม็ดเงินมหาศาลที่มีการลงทุนการสร้างอาหารลดน้ำหนักได้นำไปสู่ความหลากหลายอย่างท่วมท้น อาหารหลายประเภทมีข้อจำกัดอย่างมากและอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ มีสิ่งที่เป็นไปได้สำหรับอาหารแฟชั่นบางอย่างเช่นอาหารแอตกินส์ (Atkins Diet) ที่จะส่งผลในการลดน้ำหนัก แต่ในกรณีส่วนใหญ่นี้เกิดจากการสูญเสียน้ำและกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน
อาหารที่ดีที่สุดและมีประโยชน์ต่อร่างกายคือมีความหลากหลายและสมดุล การบริโภคแคลอรี่น้อยลงเป็นสิ่งสำคัญ แต่สิ่งนี้ไม่ควรละเลยที่จะบริโภคสารอาหารหลักให้ครบทุกหมู่ อย่างไรก็ตามสิ่งจำเป็นอีกสิ่งก็คือการลดน้ำตาลและไขมันที่ไม่ดีต่อสุขภาพเช่นไขมันทรานส์
3. การออกกำลังกายอย่างเพียงพอ
การศึกษาในวารสารแพทยศาสตร์ & วิทยาศาสตร์ในกีฬาและการออกกำลังกายแนะนำอย่างน้อย 225 ถึง 420 นาทีของการออกกำลังกายต่อสัปดาห์สำหรับการลดน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพและเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาการออกกำลังระดับนี้ในช่วงระยะเวลานาน
นอกจากนี้การออกกำลังกายหลายๆ ประเภททำให้การลดน้ำหนักได้ผลมากขึ้นเช่นกัน การออกกำลังกายหลักสองประเภทคือแอโรบิคและแอนแอโรบิค แอโรบิก หรือความอดทนการออกกำลังกายเกี่ยวข้องกับการใช้กล้ามเนื้อขนาดใหญ่อย่างต่อเนื่องและซ้ำๆ เช่น แขนและขา ตัวอย่างของการออกกำลังกายแบบแอโรบิค ได้แก่ การวิ่งออกกำลังกายและปั่นจักรยาน
การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิคเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่สั้นและรุนแรง ตัวอย่างของการออกกำลังกายแบบไม่ใช้ออกซิเจน ได้แก่ การฝึกหนัก หรือการวิ่งอย่างหนัก ในขณะที่การออกกำลังกายแบบแอโรบิคนั้น ใช้ออกซิเจนเป็นพลังงานอย่างต่อเนื่อง แต่การออกกำลังกายแบบแอนแอโรบิค จะได้รับพลังงานทั้งหมดจากกลูโคสที่เก็บอยู่ในกล้ามเนื้อ การผสมผสานระหว่างการออกกำลังกายแบบแอโรบิค และแอนแอโรบิคนั้น จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลดน้ำหนัก
4. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
การบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากเกินไป ทำให้การลดน้ำหนักสูญเปล่า งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าปริมาณน้ำตาลในอาหารมีผลต่อการเพิ่มน้ำหนัก นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับการดื่มเครื่องดื่มน้ำตาลเป็นพิเศษ เป็นการยากที่จะมองข้ามเครื่องดื่มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหาร แต่เครื่องดื่มที่มีรสหวานหลายชนิดมีแคลอรี่สูง เครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้ตอบสนองต่อความกระหายน้ำแต่ยังให้แคลอรี่จนเกินความจำเป็น
การวิจัยแสดงให้เห็นว่าเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสามารถมีบทบาทในโรคอ้วน โรคเบาหวานประเภท 2 และโรคหัวใจ ดังนั้นการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสามารถช่วยลดน้ำหนักได้
5. การนอนหลับ
การนอนหลับไม่สนิท หรือการนอนไม่เพียงพอทำให้การลดน้ำหนักไม่เห็นผล มีการศึกษาแสดงให้เห็นว่าการนอนหลับไม่ดีสามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคอ้วนและโรคเบาหวาน อาจเป็นไปได้ว่าการนอนหลับไม่เพียงพอ สามารถทำลายความสามารถของร่างกายในการควบคุมความหิวโหย
ในการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วนจำนวน 472 คน ระยะเวลาที่ใช้ในการนอนหลับเป็นตัวปัจจัยที่สำคัญของความสำเร็จในโปรแกรมลดน้ำหนัก นอกจากนี้ความเครียดเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการลดน้ำหนักด้วยเช่นกัน จากข้อมูลของ National Sleep Foundation ผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 18–65 ปีควรนอนหลับให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน ผู้สูงอายุควรตั้งเป้าหมายไว้ที่ 7-8 ชั่วโมง
6. แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง ตัวอย่างเช่นเบียร์ 360 ml มีประมาณ 153 แคลอรี่และไวน์แดงหนึ่งแก้วมีแคลอรี่เฉลี่ย 125 แคลอรี่ การดื่มเบียร์สี่ขวดในตอนเย็น สามารถเพิ่มปริมาณแคลอรี่ที่ร่างกายได้รับในแต่ละวันได้ 612 แคลอรี
หลักฐานแสดงให้เห็นว่าการดื่มในปริมาณเล็กน้อยนั้น ไม่น่าจะทำให้ไขมันในร่างกายเพิ่มขึ้น ในกรณีการลดน้ำหนักส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ไปทั้งหมดเพียงเพื่อลดน้ำหนัก แต่ยังคงเป็นไปได้ที่จะลดน้ำหนักในขณะที่บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณสอง หรือสามครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งอาจเลือกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณแคลอรี่น้อยๆ อย่างเช่น วอดก้าหรือวิสกี้แทน
ดูดไขมันช่วยกำจัดไขมันได้
หากคุณพยายามลดน้ำหนัก หรือกำลังเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักอย่างหนักหน่วง แต่น้ำหนักโดยรวมยังไม่ลด สัดส่วนยังไม่เข้ารูป นวัตกรรมการแพทย์ที่ทันสมัยสามารถช่วยกำจัดไขมันที่สะสมมานานนับ 10 ปีได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงโดยวิธีการดูดไขมัน
การดูดไขมันในปัจจุบันมีความปลอดภัยและมีผลข้างเคียงหลังทำน้อยมากเพราะมีการพัฒนานวัตกรรมเครื่องดูดไขมันให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การดูดไขมันพลังน้ำโดยเครื่อง Body Jet EVO หลังทำเสร็จคนไข้แทบจะไม่รู้สึกเจ็บปวด และสามารถกลับบ้านได้เลย
การดูดไขมันด้วย Body Jet สามารถนำไขมันที่ดูดมาฉีดไขมันได้
เป็นการดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำ ซึ่งทำให้ไขมันที่ถูกดูดยังไม่เป็นไขมันที่ตาย จึงสามารถนำมาผ่านกระบวนการต่างๆเพื่อนำมาฉีดเติมส่วนอื่นได้ เช่น หน้าอก ก้น และบริเวณใบหน้า โดยการทำงานของ Body Jet คือ ทำการฉีดน้ำร่วมกับยาชา สลายไขมันที่จับกันใต้ชั้นผิว แล้วจึงดูดไขมันออกใส่บรรจุภัณฑ์สำหรับการเก็บไขมันโดยเฉพาะ และการดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Jet จะทำการดูดไขมันอย่างทะนุถนอม ไม่ทำให้ผู้ศัลยกรรมดูดไขมันได้รับผลกระทบ และฟื้นตัวได้เร็ว สามารถกลับบ้านดูแลตัวเองต่อที่บ้านได้ทันที ซึ่งเครื่องดูดไขมัน Body Jet เป็นเครื่องดูดไขมันที่ได้รับมาตรฐาน FDA US และ FDA ประเทศไทย
ดูดไขมัน ช่วยลดน้ำหนักไม่ได้!
หลายคนคงคิดว่าการดูดไขมันนั้นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการลดน้ำหนักที่รวดเร็ว เห็นผลชัดเจน เพราะน้ำหนักที่เยอะเกิดจากไขมันที่เยอะ หากดูดไขมันออกก็จะทำให้น้ำหนักลด แต่เป็นความคิดที่อาจไม่ถูกต้องซะทีเดียว เพราะในการดูดไขมันนั้น ผลลัพธ์จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับสุขภาพ และ ร่างกายของผู้ศัลยกรรม ในบางคนอาจเห็นผลว่าน้ำหนักลดเยอะ บางคนน้ำหนักอาจลดลงเพียงเล็กน้อย แต่ลดสัดส่วนในจุดที่ดูดไขมัน เช่น ต้นขา ต้นแขนเล็กลง หรือหน้าท้องเรียบขึ้น เพราะฉะนั้นหากผู้ศัลยกรรมดูดไขมันต้องการลดน้ำหนัก การดูดไขมันอาจช่วยคุณได้เล็กน้อย หรือช่วยให้คุณสามารถย่นเวลาการลดน้ำหนักลงได้ แต่สุดท้ายสิ่งที่จะทำให้คุณมีน้ำหนักที่ลดลง ผอมลง คือการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัย และดีต่อสุขภาพเรามากที่สุด
ดูดไขมัน ลดน้ำหนัก อันตรายไหม?
ดูดไขมันอันตราย! ถ้าหากทำศัลยกรรมกับคลินิกที่ไม่ได้รับมาตรฐาน ไม่ปลอดภัย และทำศัลยกรรมโดยศัลยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ ผู้ศัลยกรรมจึงต้องพิจารณาสถานพยาบาลก่อนการตัดสินใจอย่างดี ซึ่งปัจจุบันเราสามารถเช็คข้อมูลต่างๆได้ผ่านในอินเทอร์เน็ต ทั้งคลินิก และศัลยแพทย์ล้วนควรตรวจสอบก่อนแล้วจึงตัดสินใจ และอีกอย่างที่สำคัญคือการเข้าปรึกษากับศัลยแพทย์แต่ละคลินิกรวมไปถึงสังเกตสถานพยาบาลให้ดี ว่ามีความสะอาด และปลอดภัยหรือไม่
ดูดไขมัน ลดน้ำหนักที่ไหนจะปลอดภัย
สถานพยาบาลที่จะดูดไขมันต้องได้รับการรับรอง มีมาตรฐาน สะอาด มีห้องผ่าตัดที่ปลอดภัย รวมถึงศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ ซึ่ง APEX มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการศัลยกรรมดูดไขมัน โดยใช้เครื่องดูดไขมันที่ได้รับมาตรฐาน FDA US และ FDA ประเทศไทย โดยมีเครื่องดูดไขมันที่สามารถเลือกให้เหมาะสมกับผู้ศัลยกรรม เช่น Body Tite, Vaser Smooth, Body Jet และ Microaire PAL เพราะฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีห้องผ่าตัดที่ได้รับการรับรอง รวมถึงมีทีมศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญพร้อมดูแลผู้ศัลยกรรมเสมอ
ลดน้ำหนักด้วยการดูดไขมัน อาจไม่ได้ผลเท่าออกกำลังกาย
วิธีลดน้ำหนักที่เห็นผลชัดที่สุด และเป็นวิธีที่ง่าย และ ปลอดภัย คือการออกกำลังกาย ซึ่งสามารถเลือกให้เหมาะสมกับตนเองได้ ซึ่งในการดูดไขมันสามารถช่วยได้เพียงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ต้องมีการออกกำลังกายหลังจากดูดไขมัน เพราะดูดไขมันแล้วแต่หากละเลยไม่ดูแลตัวเอง ไขมันก็สามารถกลับมาได้
การดูดไขมันเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาลดน้ำหนัก หรือออกกำลังกายแล้ว แต่ไขมันส่วนนั้นๆ ยังไม่ยอมหายไปเสียที ซึ่งอาจเกิดจากเป็นส่วนที่ไขมันสลายได้ยาก ออกกำลังกายเท่าไรก็ไม่สามารถสลายไขมันส่วนนั้นได้ จึงต้องใช้วิธีการดูดไขมัน เพื่อกำจัดไขมันส่วนนั้นออก หรือบางกรณีเป็นผู้ศัลยกรรมที่มีรูปร่างผอม แต่มีไขมันที่ไม่สามารถกำจัดได้โดยการออกกำลังกาย สามารถใช้การดูดไขมันเพราะกระชับส่วนนั้น ส่วนมากมักเป็นบริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง
ก่อนการดูดไขมัน ลดน้ำหนัก ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อม
ไม่ว่าการศัลยกรรมใดๆ ก็ตามสิ่งที่สำคัญมากๆ ก่อนการศัลยกรรมเลย คือ ผู้ศัลยกรรมต้องตรวจสุขภาพก่อนการรับศัลยกรรม เพื่อตรวจเช็คว่าร่างกายตัวเอง พร้อมที่จะได้รับการศัลยกรรมโดย APEX เป็นสถานพยาบาลที่หากรับการศัลยกรรม จะได้รับการตรวจสุขภาพฟรีก่อนการรับผ่าตัดศัลยกรรม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผิดพลาดในการศัลยกรรม ซึ่งหากเป็นสถานพยาบาลอื่นๆผู้ศัลยกรรมอาจต้องเสียค่าตรวจสุขภาพเพิ่มเติม แต่ที่นี่เราใส่ใจในความปลอดภัยเป็นลำดับต้นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่จะต้องให้ผู้ศัลยกรรมได้รับการตรวจสุขภาพก่อน รวมถึงหากการศัลยกรรมใช้การวางยาสลบ ที่ APEX มีวิสัญญีแพทย์ ที่คอยให้การดูแลในการวางยาสลบเป็นอย่างดี ทำให้ผู้ศัลยกรรมจะได้รับการศัลยกรรมที่ปลอดภัยอย่างแน่นอน
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก สัดส่วน สามารถทำนัดปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูดไขมันได้ที่ เอเพ็กซ์ เมดิคอล เซ็นเตอร์
