เทคนิคใหม่ล่าสุด! ร้อยไหมอิตาลี ลดเหนียง เก็บกรอบหน้า

V-LR Technique เทคนิคล่าสุดจากการร้อยไหมอิตาลี เก็บเหนียงคางสองชั้น

เทคนิคใหม่ ล่าสุด ร้อยไหมอิตาลี ลดเหนียง เก็บกรอบหน้า

ร้อยไหมยกกระชับ

ปัจจุบันเทรนด์ฮิตในการยกกระชับหน้าต้องยกให้กับ ร้อยไหมยกกระชับ หรือ Thread Lift ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสวยรักงามที่ต้องการมีใบหน้าเรียวเล็ก หรือผู้ที่ต้องการลดเหนียงส่วนเกินออกไป รวมถึงผู้ที่ต้องการปรับลุคใบหน้าเพื่อช่วยชะลอวัย การร้อยไหมจึงถือเป็นหัตการเพื่อใบหน้าเรียวสวยที่โลดแล่นเป็นดาวเด่นไม่แพ้หัตถการอื่นๆ ในวงการเสริมความงามมากว่า 20 ปี ด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนานนี้ ทำให้ทั้งเทคนิคการร้อยไหมวัสดุที่ผลิตเส้นไหมและฝีมือแพทย์ ถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตอบโจทย์กับเทรนด์ความงามที่แปรเปลี่ยนไปทุกปี

ร้อยไหม ยกกระชับ Thread Lift

โดยในยุคเริ่มแรกการร้อยไหมยกกระชับ คือการนำเส้นไหมจำนวนไม่ต่ำกว่า 20-50 เส้นต่อครั้ง (จำนวนเส้นจะขึ้นอยู่กับเคสและการพิจารณาของแพทย์ร่วมด้วย) เรียงร้อยเข้าไปใต้ผิวหนังชั้นไขมันเป็นลักษณะคล้ายตาข่ายสานกันไปมา เพื่อให้โอบยกกล้ามเนื้อใบหน้าขึ้น หลักของการทำงานคือ บริเวณผิวที่ถูกร้อยไหมเข้าไปจะส่งผลกับการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนให้สร้างคอลลาเจนขึ้นมาใหม่พันรอบแนวเส้นไหมเอาไว้และผลลัพธ์ที่เกิดตามมาจากการดึงรั้งผิวหน้า หรือบริเวณที่ร้อยไหมเข้าไป คือทำให้ผิวเต่งตึงยกกระชับขึ้น ผิวไม่หย่อนคล้อยและยังช่วยให้กรอบหน้าชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย

แต่รู้หรือไม่ว่าการร้อยไหมยกกระชับด้วยจำนวนเส้นที่ต้องร้อยต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 20 เส้น ในข้างต้นนั้น มักจะส่งผลเสียอย่างหนึ่งต่อใบหน้านั่นคือความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะทำหรือหลังากนั้น เพราะต้องร้อยเส้นไหมเป็นจำนวนมากและการเกิดรอยเขียวช้ำหลังรักษาแบบเห็นได้ชัด จากการที่ต้องร้อยเส้นไหมซ้ำๆ เข้าไปจนครบจำนวน ด้วยเหตุนี้จึงมีการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมไหมยกกระชับหน้าขึ้นใหม่เพื่อลดข้อด้อยเพิ่มประสิทธิภาพ รวมถึงเพิ่มระยะเวลาการคงอยู่ของผลลัพธ์ให้ยาวนานกว่าเก่า

ร้อยไหม อิตาลี ร้อยไหมคุณโอ๋

ซึ่งเดิมทีในตลาดเสริมความงาม เส้นไหมร้อยหน้าที่นิยมจะนำเข้าจากประเทศเกาหลีและถูกเรียกเพื่อความเข้าใจง่ายว่า ไหมเกาหลี แต่เมื่อไม่นานมานี้ (ปีพ.ศ. 2562) มีผลิตภัณฑ์ร้อยไหมยกกระชับ นำเข้าจากประเทศอิตาลีเพิ่มขึ้นมาและถูกเรียกในชื่อ ไหมอิตาลี ตามต้นทางที่นำเข้าไหมอิตาลีถือเป็นน้องใหม่สำหรับการร้อยไหม ทั้งในเรื่องวัสดุที่ใช้ผลิตและเทคนิคในการร้อย ซึ่งแตกต่างไปจากไหมตัวอื่นๆ ในท้องตลาด ซึ่งได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา ทั้งในประเทศและต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Definisse คือ แบรนด์ของไหมอิตาลีเพียงเจ้าแรกและเจ้าเดียวในตอนนี้อีกด้วย

ที่บอกว่าแตกต่างเป็นเพราะการ ร้อยไหมอิตาลี (Italian Thread Lift) ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยจะใช้จำนวนเส้นสำหรับการร้อยต่อครั้งในแต่ละข้างเพียง 1-2 เส้น เท่านั้น ซึ่งเมื่อจำนวนเส้นที่ร้อยต่อครั้งลดจากหลักสิบเส้นเหลือเพียงแค่หนึ่งถึงสองเส้น เทคนิคที่ใช้ในการร้อยก็จะพิเศษตามไปด้วยเช่นกัน

ไหมอิตาลี

คุณสมบัติเด่นของไหมอิตาลีที่แตกต่างไปจากไหมแบบเดิมๆ

ไหมอิตาลี เป็นเส้นไหมที่ผสมผสานกันระหว่างวัสดุ PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ที่โดดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่น กระตุ้นคอลลาเจนได้ดีและวัสดุ PCL (Polycaprolactone) ที่เด่นในเรื่องของการอุ้มน้ำ ไม่แตกหักง่าย ยึดเกาะใต้ผิวหนังได้ดี วัสดุที่ใช้ผลิตเส้นไหมอิตาลีจึงมีชื่อเรียกว่า p(LA-CL) เมื่อดึงเอาจุดเด่นของทั้ง 2 วัสดุขึ้นมาจึงทำให้การร้อยไหมอิตาลี มีคุณสมบัติในการกระตุ้นสร้างคอลลาเจนได้ดีและให้ผลลัพธ์ในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าเส้นไหมที่มีมาก่อนหน้า

คุณสมบัติต่อมาที่น่าสนใจและแตกต่างไปจากไหมแบบเก่า คือเป็นไหมแบบ Double Needle Threads ซึ่งมีเข็มนำในแต่ละด้านของปลายไหม อีกทั้งปลายเข็มที่คมและลื่นเป็นพิเศษ ทำให้สามารถร้อยไหมอิตาลีในทิศทางที่ต้องการได้สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยลดอาการบวมแดงหลังจากการร้อยไหมและตัวเส้นไหมมีลักษณะเป็นเงี่ยงหันเข้าหากัน เมื่อถูกร้อยเข้าใต้ผิวหนังจะสามารถยึดติดกับผิวได้ดี ส่งผลต่อการยกกระชับผิวมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากร้อยไปแล้ว

ด้วยเทคนิคที่เป็นแบบ Double Needle Technique ของไหมอิตาลี ไม่เหมือนกับการร้อยไหมแบบเดิม แพทย์จึงต้องพัฒนาฝีมือพร้อมเรียนรู้เทคนิคใหม่นี้ด้วยเช่นกัน เทคนิคการร้อยไหมอิตาลีถูกออกแบบไว้อย่างหลากหลาย เช่น JR Technique, MR Technique, LR Technique, OR-V Technique เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นเทคนิคที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์กับปัญหาใบหน้าแต่ละเคสมากที่สุด การเลือกใช้เทคนิคแบบใดแบบหนึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแพทย์ร่วมกับการตัดสินใจของผู้เข้ารับการรักษา

V-LR Technique ร้อยไหมอิตาลี เทคนิคใหม่

เทคนิค V-LR Technique–23 cm

V-LR Technique–23 cm คือเทคนิคล่าสุดของการร้อยไหมอิตาลี โดยเทคนิคการร้อยไหมอิตาลีแบบ V-LR Technique เป็นเทคนิคการร้อยไหมเพื่อเน้นการเก็บกรอบหน้าให้คมชัด เก็บเหนียงและคางสองชั้นซึ่งเทคนิคนี้ถือเป็นเทคนิคระดับแอดวานซ์ ในประเทศไทยมีแพทย์เพียงไม่กี่ท่านเท่านั้นที่ร้อยไหมเทคนิคนี้ได้ เพราะจะต้องเป็นแพทย์ที่ผ่านการเทรนมาแล้วเท่านั้นถึงจะทำได้ 

เมื่อมีการออกแบบเทคนิคการร้อยไหมอิตาลีแบบใหม่ แน่นอนว่าจะถูกถ่ายทอดส่งต่อให้เหล่าแพทย์ด้านฝีมือสายยกกระชับ โดยสถาบันความงาม Apex Medical Center มีศูนย์ Training Center เป็นของตัวเอง ทำให้ทีมแพทย์สายยกกระชับของเอเพ็กซ์ไม่พลาดที่จะอัพเดทเทรนด์และเทคนิคใหม่ๆ อยู่สม่ำเสมอ ซึ่งรวมถึงเทคนิคการร้อยไหมอิตาลีแบบใหม่ที่เรียกว่า V-LR Technique ทีมแพทย์เอเพ็กซ์ของเราก็ไม่พลาดเด็ดขาด

ร้อยไหมอิตาลี เก็บเหนียงคาง 2 ชั้น

ร้อยไหมอิตาลีด้วย V-LR Technique เหมาะกับใคร

    • ผู้ที่อายุ 30-65 ปี
    • ผู้ที่ต้องการลดเหนียง แต่ต้องเป็นผู้ที่มีไขมันใต้คางในระดับหนึ่ง ไม่น้อยหรือมากเกินไป เพราะถ้ามีไขมันใต้คางมากเกินไปการร้อยไหมจะไม่เห็นผลดีเท่าที่ควร
    • ผิวไม่บาง ไขมันต้องไม่บางเกินไป (ไม่เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาวอลลุ่มลอส)
    • ผิวหน้าหย่อนยานในระดับปานกลาง ค่อยไปทางมาก (แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่ผิวย้วยมากๆ หรือผิวนิ่ม)
    • ต้องการลดเหนียงและมีกรอบหน้าที่ชัด

ใครที่หาวิธีลดเหนียงหรือลองฉีดลดเหนียงแล้ว แต่ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจสักเท่าไหร่ การร้อยไหมอิตาลีด้วยเทคนิคพิเศษนี้อาจเหมาะกับคุณก็เป็นได้ หากต้องการอ่านรายละเอียดของไหมอิตาลีเพิ่มเติม สามารถอ่านต่อได้ที่ : ร้อยไหมยกกระชับด้วย ไหมอิตาลี Definisse ดีกว่ายังไง?

สอบถามรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ได้ทาง Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) หรืออยากติดต่อจองคิวแพทย์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน