4 วิธีฟื้นฟูผิวหน้า ผิวแข็งแรง ยืดหยุ่นเหมือนผิวเด็ก
เมื่อพูดถึงการบำรุงผิวหน้า หลายคนอาจจะนึกถึงการบำรุงผิวให้มีความขาวกระจ่างใสขึ้น แต่จริง ๆ แล้วสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผิวหน้าดีขึ้นได้นั้น ต้องเริ่มมาจากพื้นฐานผิวที่มีความแข็งแรงก่อน เพื่อให้ผิวพร้อมรับการบำรุง และช่วยให้การบำรุงผิวหน้าได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยเป็นเกราะปกป้องผิว จากปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าเสื่อมโทรมได้อีกด้วย สำหรับใครที่ผิวหน้าอ่อนแอ บำรุงผิวไปเท่าไหร่ก็ไม่เห็นผล วันนี้เราได้รวบรวม 4 วิธีช่วยฟื้นฟูผิวหน้า ให้ผิวกลับมาแข็งแรงขึ้น จะมีวิธีอะไรบ้างมาดูไปพร้อมกันเลย
1.ปกป้องผิวจากแสงแดด
รังสียูวีจากแสงแดด ถือว่าเป็นตัวทำลายความแข็งแรงของผิวหน้าอันดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ค่ะ นอกจากจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำอย่าที่ทุกคนทราบกันดีแล้ว ยังทำให้ผิวหน้าแห้งกร้าน เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นควรพกร่ม เสื้อคลุมก่อนออกแดดจัด เพื่อเป็นการช่วยปกป้องผิวหน้าไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง
2.ทำความสะอาดผิวหน้า
หลายคนที่กลับมาจากเรียน หรือทำงานเหนื่อย ๆ แล้วมักจะทำความสะอาดผิวหน้าแบบรีบ ๆ เช็ดเครื่องสำอางออกไม่หมด ซึ่งทำให้เกิดสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวได้ ยิ่งนานวันเข้าก็จะทำให้ผิวเกิดการอุดตัน ผิวหน้าอ่อนแอลง นำไปสู่ปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมาได้ เช่น ปัญหาสิว และริ้วรอย ดังนั้นเราควรทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาดหมดจด เริ่มจากเช็ดล้างเครื่องสำอางหรือสิ่งสกปรกออกด้วยคลีนซิ่ง จากนั้นล้างหน้าให้สะอาดด้วยเจลหรือโฟมล้างหน้า ซึ่งควรเลือกแบบที่อ่อนโยนต่อผิว เพื่อช่วยลดอาการระคายเคือง
3.เลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับผิว
3.เลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะกับผิวเมื่อผิวหน้าสะอาดหมดจด สกินแคร์ที่ใช้จะยิ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากตัวบำรุงสามารถแทรกซึมเข้าไปในผิวหนังได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราควรเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสมกับผิวหน้า เพื่อตอบโจทย์ปัญหาผิว นอกจากนั้นควรเพิ่มสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อเป็นการฟื้นฟูบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งความชุ่มชื้นนี้เองจะเป็นเกราะป้องกันผิว ให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น ไม่หยาบกร้าน และลดปัญหาผิวหน้าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต อย่างเช่น ปัญหาริ้วรอย
4.ดื่มน้ำสะอาดเยอะ ๆ
อย่างที่เรารู้กันดีกว่าน้ำมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ทั้งช่วยให้ระบบโลหิต ระบบขับถ่ายดีขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลต่อผิวพรรณภายนอกโดยตรง ดังนั้นในทุกวันเราควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว เพื่อเป็นการช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้านให้กลับมามีความชุ่มชื้น ดูสุขภาพดี และผิวแข็งแรงขึ้นเหมือนผิวเด็กอีกครั้ง
แต่บางครั้งการกู้ผิวด้วยวิธีธรรมชาติก็ไม่เห็นผลเท่าที่ควรหรือช้าไม่ทันใจ ไม่ต้องห่วงค่ะ!! เรายังมีอีก 1 เทคนิคที่สามารถช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวหน้าแบบลงลึกถึงระดับชั้นเซลล์ผิวได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลลัพธ์ชัดเจนอีกด้วย โดยเป็นการใช้ตัวช่วยอย่างเทคโนโลยียกกระชับผิวหน้า อัลเทอร่า (Ulthera)
อัลเทอร่า (Ulthera)
อัลเทอร่า เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือยกกระชับผิวหน้า ที่ให้ผลลัพธ์เทียบเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้า สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังทำ โดยไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลา ซึ่งการทำอัลเทอร่า จะใช้เทคโนโลยีคลื่นเสียงความถี่สูง ในรูปแบบ Focus Ultrasound ปล่อยพลังงานลงสู่ผิวในระดับชั้น SMAS ซึ่งเป็นระดับชั้นเดียวกับที่แพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า เมื่อปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นใต้ผิวแล้ว จะทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับ ใบหน้าเรียวขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนและอิลาสตินที่เริ่มเสื่อมสภาพให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซึ่งจะส่งผลให้ ผิวแข็งแรง มีความเรียบเนียน ริ้วรอยดูลดเลือน ผิวหน้าเปล่งปลั่งสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์เหมือนผิวเด็กได้อีกครั้ง
ข้อดีของการทำอัลเทอร่า
นอกจากผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยฟื้นฟูผิวหน้าได้ลึกถึงใต้ชั้นผิวแล้ว อัลเทอร่า (Ulthera) ยังมีข้อดีอีกมากมายที่ทำให้เป็นเครื่องมือยกกระชับผิวหน้า ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็น
- การทำอัลเทอร่าหนึ่งครั้ง ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี เลยทีเดียว เนื่องจากหลังการทำอัลเทอร่า จะทำให้คอลลาเจนและอิลาสตินเกิดการกระตุ้นอยู่ตลอด ซึ่งเราจะเห็นผลลัพธ์หลังทำเสร็จทันทีว่าใบหน้าดูยกขึ้น มีความตึงกระชับขึ้นกว่า 10-15 % และจะเห็นผลได้ชัดเจนที่สุดภายใน 1-2 เดือน
- การทำอัลเทอร่าเป็นเทคโนโลยีเครื่องมือยกกระชับ ดังนั้นจึงไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัว แถมยังไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จอีกด้วย สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทันที
- เครื่องอัลเทอร่า ถือว่าเป็นเครื่องมือยกกระชับผิวหน้าที่มีความปลอดภัยสูงและได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่มีความแม่นยำ สามารถแก้ปัญหาผิวหน้าได้อย่างตรงจุด เพราะว่ามีนวัตกรรมแสดงผลผ่านทางจอ แบบ Real Time ทำให้แพทย์สามารถเห็นชั้นผิวของคนไข้ได้ตลอดเวลาในขณะที่ทำ จึงทำให้ไม่เกิดข้อผิดพลาดและช่วยให้ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจมากที่สุด
- อัลเทอร่ามีหัวยิง (transducer) 3 ระดับ สามารถยิงลงได้ลึกตั้งแต่ระดับ 1.5 มม. ชั้นหนังแท้ 3.0 มม. ชั้นไขมันใต้ผิว และ 4.5 มม. ชั้น SMAS ซึ่งทำให้สามารถช่วยแก้ปัญหาได้แบบเฉพาะบุุคคล
ผลลัพธ์ของการทำอัลเทอร่า
- ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีปัญหาแก้มห้อย หรือผิวหย่อนคล้อย ผลลัพธ์ของการทำอัลเทอร่าจะทำให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาผิว ช่วยกระตุ้นการทำงานของคอลลาเจนให้ผิวมีความกระชับและยืดหยุ่นมากขึ้น ผลที่ได้ผิวจึงมีความแข็งแรง ไม่แห้งกร้าน มีความเปล่งปลั่ง สดใสดูสุขภาพดี
- ช่วยแก้ปัญหากรอบหน้า สำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หรือใบหน้าทั้งสองข้างยกไม่เท่ากัน ผลลัพธ์ที่ได้จากการทำอัลเทอร่าจะช่วยให้ใบหน้าดูเรียวได้รูป และมีมิติมากยิ่งขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวกลับมาเรียบเนียน เต่งตึงมากขึ้น ส่งผลให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้ง
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าเมื่อพื้นฐานผิวของเราดี ผิวแข็งแรง พอบำรุงผิวเพิ่มเติมก็จะช่วยให้ได้รับประสิทธิภาพอย่างเต็มที่มากขึ้น นอกจากนั้นการทำอัลเทอร่า ถ้าได้เริ่มทำตั้งแต่ปัญหาผิวหรืออายุยังไม่เยอะมาก จะสามารถช่วยยืดอายุความอ่อนเยาว์ของผิวหน้าให้อยู่ได้นานขึ้น และสามารถช่วยให้ผลลัพธ์จากการทำมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นได้อีกด้วยนะคะ
