เทคนิคใหม่ล่าสุดของการฟิลเลอร์ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเทคนิคใหม่ ที่จะช่วยให้คุณเผยรอยยิ้มมั่นใจได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ ร่องแก้ม

ฟิลเลอร์ร่องแก้มเติมเต็มใบหน้า

นอกจากริ้วรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผาก ร่องแก้มนับเป็นส่วนหนึ่งที่เห็นชัดเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น บางคนร่องแก้มดูลึกจนทำให้ดูอายุเยอะกว่าวัยจริง ซึ่งอาจจะเกิดจากการหัวเราะเยอะๆ นอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นประจำ การสูบบุหรี่ รวมถึงเรื่องธรรมชาติอย่างความเสื่อมโทรมของเซลล์ผิว

ร่องแก้ม ฟิลเลอร์

ร่องแก้มลึก หรือ รอยพับบริเวณแก้ม มีสาเหตุมาจากคอลลาเจนและอิลาสตินที่อยู่ใต้ผิวเกิดเสื่อมสภาพจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นและพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคล ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วรอยย่นที่แก้มจะมีลักษณะเป็นร่องลึก เป็นเส้นยาวตั้งแต่บริเวณปีกจมูกโค้งลงมาถึงมุมปากหรือบางคนก็อาจยาวลงมาถึงคางเลยทีเดียว

ฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

วิธีที่ดีที่สุดของการกำจัดร่องแก้มคือ การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม เป็นการฉีดเติมร่องแก้มด้วยสารเติมเต็มตามธรรมชาติ (Hyaluronic Acid) สามารถอยู่ได้ชั่วคราว ประมาณ 1-2 ปี เทคนิคการฉีดสมัยก่อนคุณหมอฉีด ฟิลเลอร์ (Filler) เข้าไปใต้ผิวหนังบริเวณที่เป็นร่องลึกเพื่อเติมเต็มให้ร่องดูตื้น ผิวเรียบเนียนและเต่งตึงไร้ริ้วรอย

แต่ด้วยนวัตกรรมและเทคนิคของแพทย์ที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ไม่ใช่แค่การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่องแก้มที่ลึกอีกต่อไป เพราะปัญหาร่องแก้มลึกกว่า 90% เกิดจากปัญหาผิวหน้าที่หย่อนคล้อย คุณหมอจึงใช้เทคนิดการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับหน้า ซึ่งเป็นการฉีดฟิลเลอร์เข้าไปทดแทนคอลลาเจนและอิลาสตินบนใบหน้าที่สูญเสียไป ทำให้หน้าอ่อนเยาว์ยกกระชับและร่องแก้มดูตื้นขึ้น การฉีดฟิลเลอร์เติมร่องแก้มด้วยเทคนิคฟิลเลอร์ลิฟท์เพื่อลดร่องแก้มจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการฉีดฟิลเลอร์ถมไปบนร่องแก้มที่ลึก

หลังฉีด ฟิลเลอร์ ดูแลตัวเอง

โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ คนไข้อาจจะมีความรู้สึกบวมตึงและมีแดงเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด ในบางเคสอาจเกิดรอยเขียวช้ำได้ ซึ่งอาการเขียวช้ำจะค่อยๆ จางหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์คือเห็นผลลัพธ์ทันที เรียกได้ว่าฉีดเสร็จปุ๊บ ผิวจะอวบอิ่มและเต่งตึงขึ้นมาแบบทันตาเลยทีเดียว โดยทั่วไปแล้วสารเติมเต็มจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี (แล้วแต่การดูแลของแต่ละบุคคล)

หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มควรดูแลตัวเอง ดังต่อไปนี้

  1. หลีกเลี่ยงการนวดและสัมผัสบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์

หลังการฉีดฟิลเลอร์ไปสิ่งสำคัญที่สุดคือ “ห้ามนวด กด รวมถึงการสัมผัสแรงๆ” ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ เพราะด้วยเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ลิฟท์ การนวดอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปเคลื่อนที่ออกจากบริเวณที่ฉีด ทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์วางแผนไว้หรือทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ต้องการ

  1. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเสริมบางประเภท

ควรหลีกเลี่ยงการทานวิตามิน เช่น วิตามินซี วิตามินอี กิงโกะ น้ำมันพริมโรส กระเทียม โสม ทั้งก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อลดโอกาส “ภาวะช้ำ” เพราะวิตามินเหล่านี้ทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง อาจทำให้ช้ำได้ง่ายกว่าปกติ หรือมีเลือดซึมหลังจากฉีดฟิลเลอร์

  1. ดื่มน้ำให้มากๆ

ฟิลเลอร์คือสารไฮยารูโลนิคซึ่งมีฤทธิ์ในการอุ้มน้ำได้ดี หลังจากฉีดฟิลเลอร์ในช่วง 4–5 วันแรก แพทย์จึงแนะนำให้ดื่มน้ำให้อย่างน้อยวันละ 8–10 แก้ว จะช่วยให้ฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพดีมากขึ้นและทำให้บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ดูเต็มอย่างเป็นธรรมชาติ

  1. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์

หลังจากฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้งดการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอลฮอล์ ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ฟิลเลอร์สลาย แต่แอลกอฮอล์จะทำให้คนไข้ขาดสติ อาจจะเผลอนวดและไม่ระมัดระวังในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไป รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีด อาจจะทำให้เลือดซึมออกมาในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มไม่ใช่การฉีดสารเติมเต็มผิว (Hyaluronic Acid) ถมๆ เข้าไปเหมือนสมัยก่อน แต่เป็นการฉีดแบบฟิลเลอร์ลิฟท์เข้าไปเพื่อยกกระชับผิวบริเวณนั้นๆ ให้เต่งตึง อิ่มฟู ดูอ่อนเยาว์ป็นธรรมชาติมากกว่าและสำคัญที่สุดเลยคือการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดจะได้อยู่กับคุณได้อย่างยาวนานที่สุดนั่นเอง

อยากปรึกษาปัญหาลดเลือนริ้วรอย ย้อนวัยอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถสอบเพิ่มเติมเข้ามาได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า) ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเราพร้อมไขข้อสงสัยให้กับคุณ