ระวัง ! ปวดประจำเดือน อาจเป็นสัญญาณเตือนมะเร็งปากมดลูก

ปวดประจำเดือน
พอพูดถึงเรื่องของประจำเดือน สาว ๆ ส่วนใหญ่คงทั้งส่ายหัวและถอนหายใจกันแน่ ๆ ในช่วงนั้นนอกจากรู้สึกอึดอัด จะขยับตัวทำอะไรก็ไม่ค่อยสะดวกแล้ว ที่หนักยิ่งกว่าคืออาการ ปวดประจำเดือน บางคนปวดน้อย บางคนไม่ปวดเลยก็โชคดีไป แต่สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ปวดรุนแรงมากจนถึงขั้นไม่มีเรี่ยวแรงใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนปกติ คงเข็ดขยาดช่วงนี้ของเดือนเป็นพิเศษ บางคนคิดว่าแค่ทานยาเดี๋ยวก็หาย เพราะอาการปวดประจำเดือนถือเป็นเรื่องปกติ แต่แท้จริงแล้ว อาการปวดที่รุนแรงในช่วงมีประจำเดือนของสาว ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนจากภาวะมดลูกผิดปกติ หรือสัญญาณจากโรคร้ายแรงก็เป็นได้ค่ะ

ปวดประจำเดือน (Dysmenorrhea) มักเกิดขึ้นก่อนเป็นประจำเดือน หรือในช่วงระหว่างการเป็นประจำเดือน ทว่าในบางคนอาจเริ่มตั้งแต่หลังตกไข่ก็ได้ค่ะ ซึ่งระดับความรุนแรงมีตั้งแต่ระดับปวดหน่วงอ่อน ๆ ไปจนถึงระดับรุนแรงที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน และอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดหลังด้านล่าง หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ท้องผูก หรือปวดเวียนศีรษะ เป็นต้น

โดยเฉลี่ยทุก 28 วัน เยื่อบุโพรงมดลูกจะหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน โดยอาการปวดเกิดจากสารออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเรียกว่า พรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งจะก่อตัวขึ้นในเยื่อบุโพรงมดลูกขณะมีประจำเดือนค่ะ สารตัวนี้ทำให้กล้ามเนื้อบีบตัวและหดเกร็งคล้ายอาการเจ็บปวดขณะคลอดบุตร และส่งผลให้คลื่นไส้หรือท้องเสียได้ โดยหากร่างกายหลั่งสารนี้ในปริมาณมากก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรงของอาการปวด ปกติอาการปวดมักสิ้นสุดเมื่อหมดประจำเดือนแต่ละรอบค่ะ และพบว่าผู้หญิงจำนวนมากจะมีอาการปวดแบบเกร็งอยู่ที่ราว 1-2 วันแรกของรอบเดือน ขณะที่ 15% จะมีอาการปวดที่รุนแรงจนถึงขั้นต้องหยุดงานหรือหยุดเรียนทีเดียว

ปวดประจำเดือน แบบไหนที่อันตราย

อาการปวดประจำเดือนเกิดขึ้นได้จาก 2 สาเหตุหลัก ๆ ค่ะ หนึ่งก็คือการหดตัวของมดลูกแรงเกินไป ซึ่งจะปวดบริเวณท้องน้อยแต่ไม่รุนแรงมาก ในสาว ๆ ที่ประจำเดือนมาเยอะอาจรู้สึกเพลียล้า และมีภาวะคลื่นไส้อาเจียนหรือท้องเสีย ส่วนการปวดที่แฝงจากโรคอันตราย มักปวดท้องน้อยอย่างรุนแรง บางรายถึงขั้นลุกเดินแทบไม่ไหว มีไข้ที่อาจกลายเป็นภาวะไข้ทับระดู ทั้งนี้สามารถปวดศีรษะอย่างรุนแรงและคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีเลือดประจำเดือนเป็นสีแดงสด หรือคันบริเวณปากช่องคลอด ซึ่งมีสาเหตุจากการติดเชื้อต่าง ๆ นั่นเองค่ะ

โดยอาการปวดประจำเดือนแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือขั้นปฐมภูมิ (Primary Dysmenorrhea) เป็นอาการปวดท้องน้อยระหว่างรอบประจำเดือน แต่ตรวจไม่พบความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน อีกประเภทคือขั้นทุติยภูมิ (Secondary Dysmenorrhea) ที่เกิดจากภาวะผิดปกติในมดลูก หรือเกิดจากโรคในอวัยวะสืบพันธุ์อื่น ๆ เช่น

– เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis)

– เนื้องอกในมดลูก ซึ่งไม่เป็นเนื้อร้าย และไม่ก่อให้เกิดเซลล์มะเร็งในมดลูก (Uterine Fibroids)

– ภาวะถุงน้ำรังไข่

– ความผิดปกติแต่กำเนิดของช่องคลอด หรือปากมดลูก

– การติดเชื้อ หรือการอักเสบในกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Pelvic Inflammatory Disease)

– โรคร้ายต่าง ๆ เช่น ช็อกโกแลตซีสต์ มะเร็งรังไข่ หรือการติดเชื้อในช่องคลอด

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

– กินยาแล้วแต่ไม่หายจากอาการปวดประจำเดือน

– อาการปวดประจำเดือนรุนแรงมากขึ้นหรือนานขึ้น

– มีอายุมากกว่า 25 ปี และมีอาการปวดประจำเดือนรุนแรงเป็นครั้งแรก

– มีไข้พร้อมปวดประจำเดือน

– ปริมาณประจำเดือนออกมามากกว่าปกติ และต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง

– รู้สึกปวดท้องน้อย แม้ไม่มีประจำเดือน

– มีอาการติดเชื้อ เช่น คันบริเวณปากช่องคลอด ตกขาวมีกลิ่น หรือเลือดประจำเดือนสีแปลกจากปกติ

เห็นได้ว่าอาการปวดประจำเดือน โดยเฉพาะในลักษณะที่รุนแรง อาจไม่ได้เป็นเพียงเรื่องธรรมดาทั่วไปที่ใคร ๆ ก็เจอค่ะ เพราะมันอาจเป็นสัญญาณของภาวะมดลูกผิดปกติ และมีความเสี่ยงที่จะแฝงโรคร้ายแรงเอาไว้ ดังนั้นสาว ๆ คนไหนที่มีอาการปวดประจำเดือนรุนแรง หรืออาการผิดปกติอื่น ๆ ยามมีประจำเดือน ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุ และทำการรักษาให้ทันท่วงทีค่ะ

ทั้งนี้หากสาว ๆ คนไหนกำลังมองหาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพผู้หญิง หรือต้องการมองหาวิธีดูแลสุขภาพช่องคลอดเพื่อเพิ่มความกระชับ อยากแก้ปัญหาช่องคลอดแห้งแสบเพิ่มความชุ่มชื้น รักษาภาวะอุ้งเชิงกรานหย่อนคล้อย หรือกระทั่งขจัดปัญหาภาวะปัสสาวะเล็ดหรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการเจ็บตัวจากการผ่าตัด ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้น ทั้งยังเป็นการรักษาที่ปลอดภัยด้วยการรับรองมาตรฐานสากลระดับโลก ที่ APEX เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูง พร้อมเทคโนโลยีเลเซอร์รีแพร์ Vaginal Lift รอพร้อมให้การรักษาอย่างมืออาชีพทุกขั้นตอน เพื่อให้สุขภาพจุดซ่อนเร้นของสาว ๆ กลับมาดีเหมือนได้ย้อนวันวาน และปลดล็อกทุกความมั่นใจให้กลับคืนมาค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 062 709 6849, 063 310 8000
LINE@ ID : @APEXWOMEN
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexwomen