เมื่อพูดถึง การปลูกผม หลายๆ คนคงคิดว่าต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน ต้องลางาน หากเป็นในสมัยก่อนนั้นก็คงใช่ แต่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทำให้มีเทคโนโลยีการปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว คือ การปลูกผมแบบใช้สเต็มเซลล์รากผมนำมาสกัด แล้วฉีดรักษาบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง ผมบาง Hair Stem Micro Transplant ใช้เวลาในการปลูกผมไม่นาน หลังปลูกผมสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น ซึ่งแตกต่างจากการปลูกผมแบบเดิมๆ ที่ต้องใช้เวลาพักฟื้น เพื่อรักษาแผลบนหนังศีรษะ
ความแตกต่างของวิธีการปลูกผมในแต่ละวิธี
1. ปลูกผมแบบผ่าตัด FUT (Follicular Unit Transplantation)
เป็นวิธีการปลูกแบบแรกที่ใช้การผ่าตัดผมพร้อมหนังศีรษะ เพื่อให้ได้กอผมจากท้ายทอยด้านหลัง จากนั้นจะนำไปเย็บประกบกัน ในรายที่ปลูกจำนวนมาก อาจใช้การเย็บร่วมด้วย ซึ่งปัจจุบันวิธีนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก
2. ปลูกผมแบบทั่ว FUE (Follicular Unit Extration)
เป็นการพัฒนาการปลูกผมในรุ่นถัดมา โดยการสร้างเครื่องมือปลายคล้ายหลอดขนาดเล็ก วางคร่อมกอผม และเจาะกดทีละกอ วิธีนี้ข้อดีคือ ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเย็บ แต่การใช้มือกดทีละกอผม จะทำให้หนังศีรษะช้ำ และเป็นรูค่อนข้างใหญ่
3. ปลูกผมด้วยแขนกล RHT (Robot Hair Transplant)
เป็นการปลูกผมที่ถูกพัฒนามาล่าสุด โดยใช้แขนกลที่คล้ายหัวปากกาจิ๋ว ที่สามารถควบคุมแรงเจาะและแรงดูดกอผม ทำให้การเจาะรากผมเป็นไปอย่างรวดเร็ว กอผมที่มีคุณภาพ ไม่ทิ้งรอยเจาะเป็นรูกว้าง ทำให้รอยเจาะหายได้เองในไม่กี่วัน
4. ปลูกผมแบบใช้สเต็มเซลล์รากผม Hair Stem Micro Transplant
วิธีปลูกผมด้วยเทคโนโลยีจากประเทศสเปน เป็นวิธีที่ไม่ใช่การผ่าตัดปลูกผม ใช้การตัดเซลล์รากผมที่แข็งแรงบริเวณท้ายทองหรือข้างกกหูประมาณ 3-4 ราก เข้าสู่กระบวนการสกัดเซลล์ที่แข็งแรงจากรากผม จนได้เป็นสเต็มเซลล์ที่เรียกว่า Micro Graft นำไปฉีดรักษาบริเวณที่มีปัญหา เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วง ผมบางจากฮอร์โมนและพันธุกรรม ไม่จำเป็นต้องมีการพักฟื้นหลังการปลูกผม เพราะไม่ใช่การผ่าตัด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 080-5000-123
LINE : @apexhaircenter
รีวิวปลูกผมด้วยแขนกลจากผลลัพธ์จริงของลูกค้า
