ปลูกผม ตอนอายุเท่าไรถึงได้ผลดี ?

ปลูกผม ปลูกผมด้วยแขนกล
ปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้าน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย เนื่องจากสาเหตุของปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้จากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม อาการเจ็บป่วย หรือแม้แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิต ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาขึ้นแล้ว หากไม่อยากให้ศีรษะล้านจนถึงขั้นว่ารูขุมขนปิดแล้วล่ะก็ ก็ต้องรีบทำการรักษาด้วยการ ปลูกผม แต่เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าอายุเท่าไรที่ ปลูกผมด้วยแขนกล แล้วจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด วันนี้เรามีคำตอบมาฝากค่ะ

การปลูกผม นั้นเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาผมร่วง ผมบาง และศีรษะล้านที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ อีกทั้งยังไม่ต้องรับความเสี่ยงจากสารตกค้างในร่างกาย ในกรณีที่ต้องรับประทานยาปลูกผม และสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลัง ปลูกผม ดังนั้นจึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วการปลูกผมนั้นจะเริ่มทำเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป และสามารถปลูกผมได้ถึงอายุ 60 ปี เนื่องจากหากอายุมากกว่านี้แล้ว รากผมที่อยู่บริเวณท้ายทอยก็อาจมีการเสริมสภาพไปตามวัยจนทำให้ได้กราฟต์ผมที่มีคุณภาพน้อยลง และไม่สามารถปลูกผมได้ตามแผนที่แพทย์วางไว้ในตอนแรกได้ค่ะ

ดังนั้นในการปลูกผม หากพบว่าตัวเองกำลังมีปัญหาผมบาง หรือเริ่มมีศีรษะล้าน และใช้วิธีอื่นในการแก้ไขแล้วก็ยังไม่ได้ผล ก็ควรรีบเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการปลูกผมจะดีที่สุด เพื่อหาสาเหตุของปัญหา และทำการรักษาด้วยวิธีทางการแพทย์ หรือเข้ารับการปลูกผม เพราะยิ่งปลูกผมเร็ว ก็ยิ่งได้เส้นผมให้ที่แข็งแรง และดกดำ ดูแน่นเป็นธรรมชาติได้มากขึ้น

ทั้งนี้การปลูกผมในปัจจุบันก็มีหลากหลายวิธีให้เลือก ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหา และความต้องการของคนไข้ โดยวิธีปลูกผมที่ได้รับความนิยมได้แก่

1. ปลูกผม ด้วยพลาสมาเกล็ดเลือด

เป็นการนำเอาเลือดจากผู้เข้ารับการรักษา มาผ่านกระบวนการทางห้องปฏิบัติการเพื่อให้ได้พลาสม่าที่มีปริมาณเกล็ดเลือดสูงหรือเรียกอีกอย่างว่า PRP (platelet rich plasma) ซึ่งพลาสม่าชนิดนี้จะหลั่งสารที่เรียกว่า growth factors (GF) ทำหน้าที่ไปเรียกสเต็มเซลล์ที่อยู่ในกระแสเลือดมาซ่อมแซมบาดแผดหรือเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ซึ่งเมื่อฉีดพลาสมาที่มี growth factors เข้าไปยังบริเวณที่มีปัญหาผมร่วง สเต็มเซลล์ก็จะถูกเรียกมายังบริเวณรากผมจะกระตุ้นให้เซลล์รากผมที่หยุดทำงานแล้วกลับมาสร้างเส้นผมใหม่ แม้ว่าจะได้รับคำสั่งหยุดสร้างผมจากฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนหรือ DHT แล้วก็ตาม ทำให้มีผมขึ้นใหม่มากขึ้น ผมดูหนาขึ้นและมีสุขภาพดี มีเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมที่ใหญ่ขึ้นหยุดปัญหาผมร่วง ผมบาง และทำให้ผมกลับมาดูหนาได้ค่ะ

2. ปลูกผม ด้วยสเต็มเซลล์

การปลูกผมด้วยสเต็มเซลล์ เป็นเทคนิคการปลูกผมที่ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง และผมบางที่ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องตัดผมหรือโกนศีรษะ และเหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มมีปัญหาผมร่วง ผมบาง โดยวิธีการรักษาจะนำเอารากผมที่มีความแข็งแรงมาสกัดเอาสเต็มเซลล์รากผมบริสุทธิ์ แล้วนำมาฉีดกลับเข้าไปบริเวณที่มีปัญหา เพื่อกระตุ้นให้รากผมที่อ่อนแอกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ทำให้เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่ก็จะแข็งแรงมากขึ้น โดยไม่ต้องรับประทานยาค่ะ 

3. ปลูกผมแบบ Long Hair FUE

เทคนิคการปลูกผมที่พัฒนามาจากการปลูกผมแบบ FUE แบบดั้งเดิม แต่วิธีนี้มีจุดเด่นคือไม่ต้องโกนศีรษะก่อนเจาะกราฟท์ผม ทำให้สะดวกสำหรับคนที่ต้องการปลูกผมแต่ไม่ต้องการโกนศีรษะหรือตัดผมสั้นนั่นเอง ทว่าข้อด้อยของการปลูกผมด้วยวิธีนี้ก็คือจะไม่สามารถปลูกผมได้แน่นเหมือนการปลูกผมแบบ FUE ทั่วไป เนื่องจากเส้นผมที่ยาวจะทำให้ปลูกผมได้ไม่สะดวกนั่นเองค่ะ

4. ปลูกผมด้วยแขนกล

การปลูกผมด้วยเทคนิค Robot Hair Transplant หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า การปลูกผมด้วยแขนกล ซึ่งเป็นการปลูกผมแบบ Advanced FUE® ที่ไร้แผลผ่าตัด มีความแม่นยำสูงและไม่ต้องพักฟื้น ช่วยแก้ปัญหาผมร่วง ผมบางหรือศีรษะล้าน เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามากนักและไม่สะดวกที่จะต้องใช้เวลาพักฟื้นนานๆ อีกทั้งยังเป็นวิธีมีประสิทธิภาพ เมื่อผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญของแพทย์เฉพาะทางแล้วก็ยิ่งทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีมากขึ้น ได้เส้นผมที่แข็งแรง ดกดำ และแน่นเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าวิธีอื่น ๆ ค่ะ

อย่างไรก็ตามการ ปลูกผมด้วยแขนกล หากต้องการผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็ต้องทำกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะความเชี่ยวชาญที่มีของแพทย์จะช่วยให้การวางแผนเป็นไปได้ด้วยดี แล้วสามารถรักษาได้อย่างถูกวิธี ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจค่ะ 

ซึ่งที่ APEX Hair Center เราเป็นผู้นำในด้านการปลูกผมมาอย่างยาวนานกว่า 2 ทศวรรษ อีกทั้งยังมีทีมแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นมือหนึ่งในด้านการปลูกผมทำให้ไม่ว่าคุณจะอายเท่าไร คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถมีผมที่ดกดำได้อีกครั้งอย่างแน่นอนค่ะ

 

สอบถามเพิ่มเติม และประเมินกราฟ โทร. 085-700-0053
Line : http://line.me/ti/p/%40apexhaircenter