บอกต่อ 4 วิธี หน้าเรียว แบบไม่ต้องพึ่งศัลยกรรม

หน้าเรียวหน้าเรียว วีเชฟ แก้มเล็ก คงเป็นรูปหน้าที่ใครหลาย ๆ คนคงปราถนา เพราะการที่มีหน้าเรียว วีเชฟ แถมแก้มเล็กด้วย ก็จะทำให้ดูผอมได้ บางคนอาจต้องใช้เทคนิคการแต่งหน้า เพื่อให้ได้รูปหน้าเรียวเล็ก แต่เมื่อล้างเครื่องสำอางออก ก็กลับมาเหมือนเดิม และปัญหานี้จะแก้อย่างไรได้บ้าง ? แบบไม่ต้อง ดูดไขมันหน้า มีวิธีไหนบ้าง มาแชร์กันค่ะ

 

4 วิธี หน้าเรียว ไม่พึ่งศัลยกรรม

 

จัดฟัน หรือถอนฟัน

การจัดฟันหรือถอนฟัน ทำให้หน้าเรียวได้จริงเหรอ ? ในการจัดฟันปกติแล้วไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปหน้าโดยตรง ซึ่งการหน้าเรียวด้วยการจัดฟันหรือถอนฟัน ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน ขึ้นอยู่กับปัญหาของฟันผู้จัด เนื่องจากเหตุผลหลักของการจัดฟันคือ เพื่อ จัดระเบียบฟันให้เข้าที่เข้าทาง แก้ปัญหาฟันไม่ประสบกัน หรือฟันซ้อนกันทำให้กรามมีทรงที่ใหญ่ขึ้น จึงเกิดปัญหารูปหน้าที่ใหญ่ การจัดฟันจะช่วยหัวรูปฟันเข้าที่จัดเรียงเป็นระเบียบ จึงได้รูปหน้าที่เข้ารูปมากขึ้น เรียวขึ้น เพียงเล็กน้อย เป็นผลพลอยได้จากการดัดฟันนั้นเอง เพราะฉะนั้นหากใครไม่ได้มีปัญหาเรื่องฟันหรือเคยจัดฟันมาแล้วแต่หน้าก็ไม่เรียว วิธีนี้อาจทำให้ หน้าเรียว ไม่ได้ 

 

หลีกเลี่ยงอาหารรสเค็ม

 

อาหารรสเค็มเป็นหนึ่งสิ่งที่ทำให้หน้าบวม เพราะในอาหารรสเค็มหรืออาหารที่มีโซเดียวสูง เมื่อร่างกายเราได้รับโซเดียมมากเกินไปต่อวัน จะส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการบวม ไม่ใช่แค่เฉพาะใบหน้าเท่านั้น ร่างกายเองก็สามารถเกิดอาการบวมด้วยเช่นกัน โดยปกติร่างกายเราต้องการ โซเดียมไม่เกิน 2 กรัม ต่อวัน หรือเกลือ 1 ช้อนชา หากรับประทานอาหารที่มีโซเดียมไม่เกิน 2 กรัม โซเดียมจะเป็นผลดี่อร่างกาย โดยการควบคุมสมดุลของเหลวในร่างกาย รักษาระดับความดันโลหิต รวมถึงช่วยดูดซับสารอาหารในไตและลำไส้ แต่หากเรารับประทานโซเดียมเกินไป จะทำให้ร่างกายปรับสมดุลไม่ได้ เกิดการเก็บน้ำไว้ใต้ผิว และเนื้อเยื่อในร่างกาย ทำให้เกิดอาการบวมน้ำ น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว 

 

อาหารที่ทำให้ปริมาณโซเดียม

 

  1. อาหารทั่วไป โดยปกติ ในอาหารทั่วไปมีโซเดียมอยู่แล้ว ซึ่งเป็นปริมาณที่ไม่เยอะมาก ถ้ารับประทานปรกติจะได้รับโซเดียมเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ยกเว้น เราทำการปรุงรสชาติให้มีรสชาติมากขึ้น ก็อาจทำให้ได้รับโซเดียมมากไปกว่าที่ร่างกายต้องการ

 

  1. อาหารหมัก ดอง หรือผ่านการถนอมอาหาร อาหารประเภทนี้จะผ่านกระบวนการต่าง ๆ โดยมีโซเดียมปริมาณที่สูงขึ้น เพื่อให้อาหารสามารถเก็บได้นานขึ้น เช่น อาหารกระป๋อง อาหารแช่แข็ง อาหารหมัก ดอง

 

  1. เครื่องปรุง เชื่อว่าหลายคน เวลารับประทานอาหารก็ต้องมีการปรุงรสชาติให้เป็นรสชาติที่ตัวเองชอบ ไม่ว่าจะ หวาน หรือเค็ม ก็ตาม ซึ่งในเครื่องปรุงเองนั้นก็มีโซเดียมอยู่ด้วย เช่น ซอสพริก ซอสมะเขือ ทางที่ดีควรรับประทานอาหารแบบไม่ปรุงจะดีกว่า เพราะในการทำอาหารเองนั้น ก็ผ่านการปรุงรสมาแล้วเรียบร้อย 

 

แต่งหน้า

 

การแต่งหน้าก็เป็นอีกวิธีที่สามารถช่วยให้หน้าเรียวได้เช่นกัน เป็นวิธีที่ง่าย ๆ แต่ก็ต้องรู้จักวิธีการแต่งหน้าระดับหนึ่งเลย โดยการแต่งหน้าเทคนิคที่จะทำให้หน้าเรียวได้นั้น คือการใช้ คอนทัวร์และไฮไลท์ เป็นเครื่องสำอางที่จะช่วยสร้างเงาและแสงให้ใบหน้าเรา เพื่อดูหน้ามีมิติ หรือเรียวขึ้นนั่นเอง

 

โดยคอนทัวร์ จะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล ไปทางที่ค่อนข้างเข้ม ใช้คู่กับแปรงหัวตัด เพื่อให้เวลาปัดสามารถเข้ารูปทรงอย่างดี และจะได้เงาที่ดูเป็นธรรมชาติ เทคนิคการคอนทัวร์ที่ดีคือเราควรรูปกรอบหน้าตัวเองก่อน โดยการส่องกระจกให้แสงส่องมาที่ใบหน้า สามารถใช้โคมไฟได้ สังเกตใบหน้าบริเวณด้านข้างที่ขึ้นรูปเงา ใช้คอนทัวร์ปัดบริเวณที่เกิดเงาบริเวณกรอบให้ และปัดเข้าบริเวณใต้โหนกแก้มเล็กน้อย ปัดบริเวณกราม เพื่อสร้างกรอบกรามให้ชัดขึ้น การคอนทัวร์กรอบหน้ามักมากับการคอนทัวร์จมูก เพื่อให้การแต่งหน้าเข้ากัน โดยใช้แปรงหัวตัดขนาดเล็ก สร้างสันบริเวณจมูกเล็กน้อย สีคอนทัวร์ที่แนะนำ คือ สีน้ำตาลอมเทา

 

การปัดไฮไลท์ เป็นอีกเครื่องสำอางที่มักมาพร้อมคู่กันกับคอนทัวร์ เพื่อสร้างเงาให้ส่วนที่สูงบริเวณใบหน้า เช่น โหนกแก้ม จมูก คาง หน้าผาก เป็นส่วนที่จะมีความสูงกว่าจุดอื่นบนใบหน้า ซึ่งจะเป็นการเน้นให้สูงขึ้นอีกด้วยการใช้ไฮไลท์นั่นเอง โดยแปรงที่เหมาะกับการไฮไลท์จะมีลักษณะหัวแปรงกลม มัน เรียว ไม่ฟูมาก ใช้ปัดไฮไลท์บริเวณ โหนกแก้ม ปลายจมูก หน้าผาก และคางเล็กน้อย ควรเลือกสีให้เหมาะกับสีผิวตัวเองด้วย เพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ สีผิวขาว ใช้สีขาวมุก สีผิวเหลือ ไปถึงผิวสองสี ขึ้นไป ใช้สีขาวออกเหลืองได้ แต่ไม่ควรออกสีทอง 

 

ซึ่งไฮไลท์กับคอนทัวร์มี 2 ลักษณะด้วยกัน คือ แบบฝุ่น และแบบครีม ทั้งสองจะมีคุณสมบัติที่ต่างกัน หากต้องการความธรรมชาติ ดูเป็นผิว ควรเลือกใช้เป็นเนื้อครีม แต่อาจต้องใช้เป็นพับ หรือ ฟองน้ำ ในการลงบนผิว ส่วนแบบฝุ่น จะให้งานที่มีความคล้ายกับแป้ง เหมาะกับการลงเซ็ทรองพื้น หรือลงเพื่อเซ็ทเนื้อครีมได้

 

แต่งหน้า

 

ฉีด Botox หรือ Meso Fat

 

การฉีดโบท็อกหรือ Meso Fat ก็เป็นอีกทางที่นิยมกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากราคาไม่สูง สามารถทำซ้ำได้ แต่มีอายุอยู่เพียง 4 – 6 เดือน เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาในระยะเวลาหนึ่ง โดยไม่ต้องการพักฟื้น สามารถฉีดแล้วใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่ต้องผ่าตัด และไม่มีแผล

 

Botox หรือ Botulinum Toxin A คือโปรตีนสกัดจากการสร้างแบคทีเรีย คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม เป็นแบคทีเรียที่ถ้าหากได้รับอย่างพอดี จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว นำมาใช้ในทางการแพทย์ และนิยมใช้ในการเสริมความงาม คือการลดริ้วรอยต่าง ๆ กระชับผิว ทำให้หน้าเรียว 

 

โดยการฉีด Botox เพื่อทำให้ หน้าเรียว จะทำการโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการฉีด สามารถฉีดแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้ หลายจุด เช่น หน้าผาก หางตา คาง ลำคอ และกราม ซึ่งส่วนที่จะช่วยให้หน้าเรียวเล็กได้ จะทำการฉีดบริเวณกราม โดยใช้โบท็อกประมาณ 40 – 60 ยูนิต ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ฉีด 

 

การฉีดโบท็อกจะอยู่ได้โดยประมาณ 4 – 6 เดือน หลังจากนั้นจะสลายเองตามธรรมชาติ ซึ่งทำให้เราหน้าเรียวได้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง หากต้องการหน้าเรียวอีกครั้ง ต้องฉีดซ้ำ แต่ข้อดีคือ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น ฉีดแล้วจะเห็นผลหลังจากฉีดประมาณ 1 เดือน ใครอยากรู้ว่าถ้าตัวเองหน้าเรียวจะเป็นอย่างไร ลองฉีดโบท็อกดูก่อนได้

 

Meso Fat หรือเมโสแฟต คือ การสลายไขมัน ด้วยวิธีการฉีดยาสำหรับช่วยสลายไขมัน เรียกว่า Phosphatidylcholine และวิตามิน เข้าไปบริเวณที่ต้องการจำกัดไขมัน เพื่อสลายไขมันบริเวณที่ต้องการ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดไขมันตามจุดต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ต้นขา ต้นแขน แก้ม หรือเหนียง โดยหลังฉีด Meso Fat จะมีอาการบวมเล็กน้อย ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง และจะค่อย ๆ ยุบลงเอง ซึ่ง เมโซแฟต สามารถอยู่ได้ประมาณ 5 – 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลของผู้ฉีด 

 

นี่คือ 4 วิธีที่จะทำให้สาว ๆ หนุ่ม ๆ หน้าเรียวกันได้โดยไม่ต้องศัลยกรรม อาจมีการใช้มือหมอช่วยด้วยเล็กน้อย เช่นการฉีด ล้วนแล้วก็สามารถช่วยให้หน้าเรียวได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนนะที่จะได้รูปหน้าเรียวได้ บางทีการหน้าเรียวก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นร่วมด้วย บางคนอาจเป็นเพราะกรรมพันธ์ หรือรูปหน้าที่ไม่สามารถเรียวได้ อีกอย่างการทำ 4 วิธีที่แนะนำไป อาจไม่อยู่กับเราเสมอไป หรือมีระยะเวลาสั้น ๆ หรือ บางวิธีต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ 

 

เป็นวิธีง่าย ๆ ที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการหน้าเรียวแบบไม่ต้องผ่าตัดใด ๆ ใครที่กลัวการผ่าตัดก็สามารถใช้วิธีที่แนะนำได้ แต่อาจต้องสม่ำเสมอหน่อย ร่วมกับการออกกำลังกาย เพื่อให้ หน้าเรียว อยู่กับเราไปนาน ๆ  

 

แต่ถ้าหากรู้สึกการมีไขมันบนหน้าเป็นอุปสรรคกับเรา ต้องการเอาไขมันออกโดยเร็ว แบบไม่ต้องให้กลับมาในเวลาโดยเร็ว อีกวิธีที่สามารถช่วยได้ แต่อาจต้องให้ศัลยแพทย์ช่วยกันนิดนึง นั่นคือ การศัลยกรรม ดูดไขมันหน้า 

 

ในปัจจุบันการศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัว หรืออันตราย เพราะการศัลยกรรมนอกจากประสบการณ์ของศัลยแพทย์แล้ว เครื่องมือการศัลยกรรม เครื่องมือแพทย์ และเทคนิคการแพทย์ ก็สำคัญ ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมาย รวมถึงเทคนิค ที่ช่วยเอื้ออำนวยให้การผ่าตัดศัลยกรรมทำได้ปลอดภัยขึ้น และบางการศัลยกรรมไม่จำเป็นต้องผ่าตัดใหญ่ ก็สามารถผ่าตัดได้ จึงทำให้สามารถไว้วางใจความปลอดภัยการศัลยกรรมได้อย่างแน่นอน 

 

ดูดไขมัน

 

ศัลยกรรมดูดไขมัน 

 

ศัลยกรรมดูดไขมัน (Liposuction) คือ การศัลยกรรมเสริมความงามที่ใช้เครื่องมือในการช่วยดูดไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนังออกจากส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งเป็นไขมันส่วนที่ยากต่อการสลายเองตามธรรมชาติ ไม่สามารถออกกำลังกายเพื่อสลายไขมันได้ การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก เพราะฉะนั้นผู้ที่ต้องการสลายไขมันและต้องการลดน้ำหนัก อาจไม่เห็นผล เพราะไขมันที่ทำการดูดไขมันออก คือไขมันส่วนเกินที่จับกันเป็นก้อนอยู่บริเวณใต้ผิวหนัง และทำการปรับรูปร่างให้ผู้ศัลยกรรมต้องการ เช่น ผู้ที่ต้องการสร้างซิกแพคให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

 

ดูดไขมันมีกี่วิธี ?

 

Vaser Smooth

 

ดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser Smooth คือการดูดไขมันใช้พลังงานอัลตราซาวด์ พร้อมกับการสลายเซลลูไลท์ สามารถดูดไขมันได้ปริมาณมาก รวดเร็ว และดูดได้หลายจุด รวมถึงเหนียง การดูดไขมันด้วยการใช้เครื่อง Vaser Smooth จะทำการพ้นน้ำเกลือและยาชาเข้าไปในบริเวณที่ดูดไขมัน เพื่อทำการสลายไขมันที่จับกันเป็นก้อน สามารถทำให้ดูดไขมันได้ง่ายขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาผิวไม่เรียบเนียน ผิวเปลือกส้ม หรือผิวเป็นคลื่น โดยดูดไขมันอย่างนุ่มนวล ไม่ทำให้เกิดผลเสียต่อเนื้อเยื่อ

 

Body Tite

 

ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Tite คือการดูดไขมันที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ RF ( Radio Frequency ) โดยเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนในชั้นผิว โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการดูดไขมัน ทำให้ก้อนไขมันละลาย แล้วจึงดูดไขมันออกมา โดยเครื่อง Body Tite เป็นเครื่องดูดไขมันที่จะช่วยกระชับผิวด้วยในเวลาเดียวกัน โดยใช้ความร้อนในระดับที่พอเหมาะ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อให้คอลลาเจนในร่างกายทำการกระชับผิว สามารถช่วยให้ย่นเวลาในการกระชับผิว สามารถกระชับผิวได้เร็วขึ้น

 

Body Jet

 

ดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Jet คือการดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำ โดยหัวของเครื่องดูดไขมันจะทำการพ้นน้ำเข้าสู่ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้ไขมันที่จับตัวกันอยู่สลายออก และสามารถดูดไขมันได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังไม่ทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันสามารถนำมาใช้งานต่อได้ และการดูดไขมันด้วยเครื่อง Body Jet มีการทำงานที่นุ่มนวล ทำให้ไม่เกิดผลกระทบต่อเนื้อเยื้อ สามารถดูดไขมันได้เยอะ ไม่ทำให้ผิวเป็นคลื่น และไม่ต้องพักฟื้น เมื่อทำการดูดไขมันออกมาแล้ว ไขมันสามารถนำมาเติมเต็มส่วนอื่นได้ เช่น หน้าอก ร่องลึกบนใบหน้า ใต้ตา และช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนวัย

 

Microaire PAL 

 

ดูดไขมันด้วยเครื่อง Microaire PAL เป็นการดูดไขมันพลังงานกล หรือการสั่นสะเทือน เพื่อทำให้ไขมันที่จับกันเป็นก้อนสลาย และสามารถดูดไขมันออกมาได้ง่ายขึ้น โดยเครื่อง Microaire PAL จะเป็นเครื่องดูดไขมันที่หัวมีความทู่ ไม่ทำให้เกิดการกระทบกับเนื้อเยื่อมาก สามารถทำให้ผิวเรียบได้ ดูดไขมันได้ในปริมาณที่มาก รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน 

 

โดยเครื่องมือดูดไขมันทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นเครื่องมือที่มีการรับรองจาก US FDA และผ่าน อย. ประเทศไทย จึงมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน ซึ่งการดูดไขมันสามารถใช้เครื่องดูดไขมันร่วมกันโดย ขึ้นอยู่กับพิจารณาของศัลยแพทย์ หากต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถปรึกษาศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เลย

 

ทำไมต้องดูดไขมัน ? 

 

การดูดไขมันเป็นอีกหนึ่งวิธีเพื่อช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไขมันสะสม หรือไขมันส่วนเกิน เพราะการมีไขมันส่วนนี้ ต่อให้ออกกำลังกายก็อาจไม่สามารถสลายไปเองได้ หรืออยู่ในจุดที่ไม่สามารถบริหารให้ลดลงได้ การดูดไขมันจึงสามารถเข้ามาช่วยสลายไขมันที่ไม่สามารถสลายไปเองได้ และนอกจากนี้การดูดไขมันยังสามารถสร้างรูปร่างให้ดูดีได้ เช่นการสร้างเอว S การสร้างซิกแพค หรือ Sexy Line ให้ชัดเจนได้

 

ใครควรทำศัลยกรรมดูดไขมัน

– ผู้ที่ออกกำลังกายสร้างกล้ามหน้าท้องหรือซิกแพค แต่ออกเท่าไรก็เห็นได้ไม่ชัด

– ต้องการลดสัดส่วนบริเวณ ต้นขา ต้นแขน ให้เล็กลง

– ต้องการลดเหนียง แก้ม 

– ต้องการรูปร่างที่ชัดเจนมากขึ้น

– มีไขมันสะสมส่วนเกิน ในส่วนอื่นของร่างกาย 

– ต้องการความกระชับ จากการลดน้ำหนักที่เร็วเกินไป หรือหย่อนคล้อยตามอายุ

– ผู้ที่ต้องการทำหน้าอกด้วยการใช้ไขมันตัวเอง

 

ดูดไขมันอยู่ได้นานไหม ?

 

การดูดไขมัน เป็นการดูดไขมันส่วนเกินออก ไขมันที่อยู่ในใต้ผิวหนังจึงหายไปอย่าง ถาวร แต่ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพของผู้ศัลยกรรมดูดไขมันด้วย เพราะไขมันแม้ว่าจะหายไปได้ แต่ยังสามารถกลับมาได้ ถ้าหากเรารับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ได้รับไขมันเยอะ ไขมันสะสมหรือไขมันส่วนเกินก็สามารถกลับมาหาเราได้ เพราะฉะนั้นหากทำศัลยกรรมดูดไขมันแล้ว การดูแลตัวเองก็สำคัญมาก ควรออกกำลังกายเพื่อสลายไขมัน เพื่อป้องกันการเกิดไขมันส่วนเกิน 

 

ดูดไขมันที่ไหนดี ?

 

ศัลยกรรมดูดไขมันถือเป็นการผ่าตัดอย่างหนึ่ง ควรศัลยกรรมด้วยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ การเลือกสถานพยาบาลนั้นจึงสำคัญมาก ควรศึกษาสถานพยาบาลที่มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมดูดไขมัน มีประสบการณ์ สถานพยาบาลมีความสะอาด และห้องผ่าตัดที่ผ่านการรับรอง รวมถึงเครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย สะอาด ผ่านการรับรอง 

 

APEX เป็นศูนย์ความงาม ที่มีศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการศัลยกรรมดูดไขมันพร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำ รวมถึงเข้าใจความต้องการของผู้ศัลยกรรม สามารถทำศัลยกรรมได้อย่างเข้าใจผู้ศัลยกรรม พร้อมเทคนิคการศัลยกรรมที่สามารถทำให้แผลสังเกตเห็นได้ยาก ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ผ่านการรับรองจาก US FDA และ อย. ประเทศไทย พร้อมห้องผ่าตัดผ่านการรับรอง JCI และบุคลากรที่พร้อมให้การดูแลเป็นอย่างดี ผู้ศัลยกรรมดูดไขมันจึงไว้วางใจกับ APEX ได้อย่างแน่นอน

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ดูดไขมันหน้า พร้อม J Plasma

โทร : 0888-7000-39
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurgery