บริจาคเลือด ดีต่อใจ แถมช่วย ลดความอ้วน ได้อีกด้วย

บริจาคเลือด ลดความอ้วนการบริจาคเลือด นอกจากดีต่อใจทั้งผู้ให้และผู้รับแล้ว ยังเป็นการสร้างประโยชน์ให้แก่ร่างกายของเราอีกด้วยค่ะ โดยเฉพาะผลพลอยได้ที่การบริจาคเลือดหนึ่งครั้ง สามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ แถมการ บริจาคเลือด ลดความอ้วน ได้ด้วย ครั้งนี้เราจึงนำข้อดีของการบริจาคเลือดที่ดีต่อทั้งใจและสุขภาพมาฝากกันค่ะ

ก่อนจะไปทราบถึงข้อดีของการบริจาคโลหิต สิ่งจำเป็นที่คุณควรทราบก่อนก็คือ การบริจาคแต่ละครั้งนั้น จะต้องเสียเลือดที่ปริมาณ 350-450 ซีซี จากทั้งหมดที่มีในร่างกายของเราประมาณ 4,000-5,000 ซีซีค่ะ หรือคิดเป็น 8% ของน้ำหนักตัวของผู้บริจาค ดังนั้นจึงมีข้อกำหนดว่าผู้ที่จะสามารถบริจาคโลหิตได้ ต้องมีน้ำหนักตัวไม่ต่ำกว่า 45 กิโลกรัม และต้องมีอายุระหว่าง 17-60 ปีบริบูรณ์ ที่สำคัญควรมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว ห้ามอยู่ระหว่างเจ็บป่วย หรือกินยารักษาใด ๆ ไม่เสพยาเสพติด และหากเป็นคุณผู้หญิง ต้องไม่อยู่ระหว่างเป็นประจำเดือน ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร และต้องไม่มีการคลอดบุตร หรือแท้งบุตรภายใน 6 เดือนที่ผ่านมาค่ะ

สารพัดข้อดี ของการบริจาคเลือด

ป้องกันโรคหัวใจและโรคตับ

สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจมักมาจากเลือดที่มีความหนืดผิดปกติ ซึ่งเกิดจากมีระดับธาตุเหล็กในเลือดสูงเกินไป และนำไปสู่อาการหัวใจวายได้ อีกทั้งภาวะที่มีธาตุเหล็กสูงมักจะไปสะสมที่หัวใจ ตับ และตับอ่อน จึงเสี่ยงต่อโรคตับแข็ง ตับวาย ดังนั้นการบริจาคเลือดจึงช่วยลดความเสี่ยงเหล่านั้นได้ เพราะสามารถลดระดับธาตุเหล็กให้เป็นปกตินั่นเองค่ะ

กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด

เนื่องด้วยหลังการบริจาคโลหิต ไขกระดูกจะกระตุ้นให้ร่างกายของเราเร่งผลิตเม็ดเลือดใหม่เพื่อทดแทนที่เสียไป ซึ่งจะส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดียิ่งขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้น ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ทั้งยังช่วยลดสิว ลดอาการปวดเมื่อย รวมถึงอาการเหน็บชาอีกด้วยค่ะ

ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง

การที่ร่างกายมีธาตุเหล็กมากเกินไป เป็นสาเหตุเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งได้เช่นกันค่ะ เพราะธาตุเหล็กที่สูงจะทำให้สารอนุมูลอิสระเพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้เซลล์ในร่างกายแปรสภาพเป็นเซลล์มะเร็งได้ ดังนั้นการบริจาคเลือดจึงช่วยปรับระดับธาตุเหล็กที่มากเกินไปให้ลดลงสู่ภาวะปกตินั่นเองค่ะ

บริจาคเลือด ลดความอ้วน

มาถึงข้อดีสำคัญที่หลาย ๆ คนสนใจ นั่นก็คือการบริจาคโลหิต 1 ครั้งสามารถช่วยเผาผลาญพลังงานได้มากถึง 650 กิโลแคลอรี่ ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักค่ะ แต่ทั้งนี้การบริจาคเลือดนั้นไม่สามารถใช้เป็นวิธีลดน้ำหนักได้ เพราะการบริจาคแต่ละครั้งต้องห่างกัน 2-3 เดือนเป็นอย่างต่ำค่ะ

สุขใจ

ความรู้สึกที่คุณรับรู้ได้ทันที เพราะจะมีคนที่สามารถต่อชีวิต หรือรอดชีวิตได้เพราะเลือดที่คุณบริจาคไปค่ะ ดังนั้นต้องรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างแน่นอน เพราะการบริจาคเลือดถือเป็นการทำบุญ และการให้ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้วิธีอื่น ๆ เลยค่ะ

การเตรียมตัวก่อนไปบริจาคเลือด

  1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอในคืนก่อนที่จะไปบริจาคเลือด
  2. สุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย ไม่เป็นไข้หวัด หรืออยู่ในระหว่างกินยาแก้อักเสบใด ๆ
  3. กินอาหารมื้อหลักก่อนไปบริจาคเลือด แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ หรืออาหารที่ประกอบด้วยกะทิ ของทอด ของหวาน เนื่องจากจะทำให้สีพลาสมาเป็นสีขาวขุ่น ไม่สามารถนำเลือดไปใช้ได้ค่ะ
  4. ดื่มน้ำเปล่า 3-4 แก้ว หรือเครื่องดื่มอื่น ๆ เช่น น้ำผลไม้ นม น้ำหวาน เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณเลือดในร่างกาย และยังสามารถช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อน อย่างอาการมึนงง อ่อนเพลีย หรือวิงเวียนศีรษะหลังบริจาคโลหิตได้อีกด้วยค่ะ
  5. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนบริจาคโลหิต 24 ชั่วโมง
  6. งดสูบบุหรี่ทั้งก่อนและหลังบริจาค 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เพื่อให้ปอดสามารถฟอกโลหิตได้ดี
  7. ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่แขนเสื้อไม่คับเกินไป เพื่อให้สามารถดึงขึ้นเหนือข้อศอกได้อย่างน้อย 3 นิ้วในระหว่างบริจาคเลือดค่ะ

บริจาคเลือด ลดความอ้วน ได้ แบบนี้ต้องลองแล้ว !

การบริจาคเลือดนอกจากดีต่อใจ แถมอิ่มบุญแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม มิหนำซ้ำยังช่วยเผาผลาญแคลอรี่อีกด้วย แบบนี้ใครที่กำลังลังเลว่าจะบริจาคดีไหม ต้องลองดูสักครั้งแล้วละค่ะ แต่ก่อนจะไปบริจาค อย่าลืมสังเกตสุขภาพของตัวเองกันให้ดีว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมหรือเปล่า และอย่าลืมเตรียมตัวอย่างเหมาะสมด้วย ทั้งนี้การบริจาคโลหิตแต่ละครั้งแม้ช่วยเผาผลาญได้ดี ทว่าไม่สามารถทำได้บ่อย จึงไม่นับเป็นวิธีลดน้ำหนักแต่อย่างใด ซึ่งหากคุณกำลังมองหาวิธีลดสัดส่วนอย่างปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ดีแบบไม่จกตาอยู่ ฉะนั้นการทำ CoolSculpting Elite อาจตอบโจทย์สายรักสุขภาพ ด้วยทั้งไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียง ไม่ต้องเจ็บตัว ใช้เวลาในการทำแต่ละครั้งไม่นาน เพียงแค่ 35-45 นาที ที่ดีสุด ๆ คือหลังรักษาเสร็จไม่จำเป็นต้องพักฟื้นใด ๆ จึงไม่ทำให้คุณต้องเสียเวลาหรือหยุดงานอีกด้วยค่ะ 

CoolSculpting Elite หรือการกำจัดไขมันด้วยความเย็น เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการลดสัดส่วนที่นำเอาความเย็นที่อุณหภูมิ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียสมาใช้เพื่อทำลายเซลล์ไขมันเฉพาะจุดที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ปีกหลัง ใต้คางหรือส่วนอื่น ๆ หลังจากนั้นเซลล์ไขมันที่ถูกทำให้ตายลงจะถูกกลไกตามธรรมชาติของร่างกายขจัดออก ซึ่งใช้เวลาราว 1-3 เดือนเพื่อเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน 

ถ้าคุณต้องการรูปร่างและสัดส่วนสวยกระชับอย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัว วางใจมาทำ CoolSculpting Elite กับเราได้ที่ APEX เพราะเราเป็นผู้นำด้านการกำจัดไขมันด้วยความเย็นมานานกว่า 10 ปี พร้อมมีทีมผู้เชี่ยวชาญ Coolsculpting Specialist ประสบการณ์สูงที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น และต่อยอดเสริมความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอพร้อมให้บริการ ตั้งแต่ขั้นตอนให้คำปรึกษา แนะนำ ช่วยดูแลออกแบบรูปร่างตามที่คุณต้องการตลอดจนเสร็จสิ้นการรักษา เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจ และมั่นใจในรูปร่างตัวเองอีกครั้ง

 

ปรึกษา และสอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
FB inbox : click http://m.me/apexprofoundbeauty
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter