น้ำยาบ้วนปาก จำเป็นจริง ๆ หรือ ?

น้ำยาบ้วนปาก
เชื่อว่าหลายคนค่อนข้างเคร่งครัดกับสุขอนามัยช่องปากของตัวเองเป็นอย่างดี ซึ่งนอกเหนือจากขั้นตอนการแปรงฟัน หรือใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารแล้ว บางคนอาจยังไม่ค่อยมั่นใจในความสะอาด หรือกังวลเรื่องกลิ่นปากระหว่างวัน ดังนั้นจึงเพิ่มน้ำยาบ้วนปากเข้ามา แม้น้ำยาบ้วนปากจะใช้กันอย่างแพร่หลายมายาวนาน ทว่าก็ยังมีหลายคนที่ไม่เคยใช้น้ำยาบ้วนปากเลย แต่ก็ไม่ได้มีผลกระทบใด ๆ ตามมา คุณเคยสงสัยไหมคะ ว่าแท้จริงแล้ว น้ำยาบ้วนปาก มีความจำเป็น หรือมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนกันแน่

โดยมาก น้ำยาบ้วนปาก มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น ทั้งนี้แต่ละสูตรยังมีประสิทธิภาพในการช่วยส่งเสริมสุขภาพช่องปากแตกต่างกันไป ซึ่งคุณสามารถใช้น้ำยาบ้วนปากได้ทั้งก่อน หลังแปรงฟัน รวมถึงหลังมื้ออาหารหรือระหว่างวันค่ะ ซึ่งความจริงน้ำยาบ้วนปากสามารถช่วยให้ลมหายใจของคุณหอมสดชื่นได้เพียงระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้น

ดังนั้น น้ำยาบ้วนปากจึงไม่สามารถทดแทนการแปรงฟัน หรือการใช้ไหมขัดฟันได้ แต่ควรถูกใช้เป็นเพียงตัวเลือกเสริม และไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นประจำนาน ๆ เพราะนอกจากช่วยทำลายเชื้อแบคทีเรียไม่ดีแล้ว มันยังสามารถทำลายแบคทีเรียที่ดีและจำเป็นในช่องปากของคุณได้เช่นกันค่ะ ซึ่งอาจก่อให้เกิดเชื้อราในช่องปาก ตุ่มรับรสของลิ้นผิดเพี้ยน สีเคลือบฟันหรือสีวัสดุอุดฟันเปลี่ยนแปลงตามมา

ประเภทของ น้ำยาบ้วนปาก

น้ำยาบ้วนปากในท้องตลาดทั่วไปมักมีสรรพคุณช่วยลดกลิ่นปากเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีทั้งช่วยลดอาการปากแห้ง ช่วยให้ฟันขาว ยับยั้งฟันผุ คราบจุลินทรีย์ และอื่น ๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากถูกแบ่งออกเป็น 2 ชนิด ตามส่วนผสมหลักดังนี้

  1. น้ำยาบ้วนปากชนิดทั่วไป (Cosmetic Mouthwash) น้ำยาบ้วนปากที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือสารชีวภาพ จึงไม่สามารถช่วยกำจัดแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปากใด ๆ ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้จึงใช้เพื่อมอบลมหายใจหอมสดชื่นได้เพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ เท่านั้นค่ะ
  2. น้ำยาบ้วนปากที่ใช้รักษาโรคในช่องปาก (Therapeutic Mouthwash) น้ำยาบ้วนปากประเภทนี้จะมีส่วนผสมที่ช่วยในการกำจัดแบคทีเรีย และคราบจุลินทรีย์ในช่องปากของคุณ รวมถึงช่วยป้องกันการเกิดโรคปริทันต์รวมถึงโรคเหงือก ซึ่งอาจมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ คลอร์เฮกซิดีน หรือเซทิลไพริดิเนียมคลอไรด์ เป็นต้น

ส่วนผสมในน้ำยาบ้วนปาก มีส่วนประกอบหลัก ๆ หรือมักพบเห็นได้ทั่วไป ดังนี้

– คลอร์เฮกซิดีน (Chlorhexidine) เป็นส่วนประกอบอย่างดีที่ช่วยรักษาโรคปริทันต์และยับยั้งคราบจุลินทรีย์ ทว่าอาจทำให้เกิดคราบสีบนผิวฟันของคุณได้หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน

– เซทิลไพริดิเนียมคลอไรด์ (Cetylpyridinium Chloride) เป็นสารประกอบแอมโมเนียมที่สามารถกำจัดทั้งแบคทีเรีย ยับยั้งการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ และยังมีคุณสมบัติช่วยกำจัดกลิ่นปากได้อย่างดีเยี่ยม

– ฟลูออไรด์ (Fluoride) ในน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์เข้มข้น เช่น สแตนนัสฟลูออไรด์หรือโซเดียมฟลูออไรด์จะสามารถช่วยป้องกันฟันผุได้ แต่หากคุณใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์อยู่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำยาบ้วนปากที่ผสมฟลูออไรด์เพิ่มอีกค่ะ เพราะอาจเสี่ยงต่อการได้รับฟลูออไรด์เกินขนาด

– ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide) มีคุณสมบัติช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ทั้งอาจช่วยลดคราบจุลินทรีย์ โรคเหงือกอักเสบ และมีส่วนช่วยให้ฟันขาวขึ้นเล็กน้อย

– น้ำมันหอมระเหย ในน้ำยาบ้วนปากที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมหลัก มักใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างเมนทอล และยูคาลิปตัส ซึ่งทำหน้าที่ช่วยดับกลิ่นปาก และช่วยต้านแบคทีเรีย

– เอนไซม์ต้านแบคทีเรีย เอนไซม์ต้านแบคทีเรียชนิดที่พบได้ในน้ำยาบ้วนปาก เช่น ไลโซโซม์ และแลคโตเพอออกซิเดส ซึ่งยังสามารถช่วยลดอาการปากแห้งได้อีกด้วยค่ะ

– แอลกอฮอล์ มีฤทธิ์ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดและป้องกันโรคเหงือกอักเสบกับคราบจุลินทรีย์บริเวณเหงือก ทว่าข้อเสียคืออาจส่งผลให้มีอาการแสบร้อนในช่องปากหรือปากแห้งได้

ที่สำคัญการใช้น้ำยาบ้วนปากในปริมาณที่พอเหมาะ ย่อมไม่ก่อให้เกิดผลเสียใด ๆ แต่ถ้าคุณใช้มากกว่าปริมาณที่ผลิตภัณฑ์แนะนำ อาจก่อให้เกิดอาการเป็นพิษตามมาได้ค่ะ อย่างน้ำยาบ้วนปากชนิดที่มีส่วนผสมของคลอร์เฮกซิดีน และเอทิลแอลกอฮอล์ อาจก่อให้เกิดอาการ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ท้องร่วง อาเจียน หัวใจเต้นเร็ว พูดไม่ชัด เซื่องซึม หรือรุนแรงกระทั่งหมดสติ ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์ และห้ามทำให้อาเจียนโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ในผู้ที่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ มักมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในช่องปากอยู่แล้ว ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ด้วยนะคะ

ถ้าถามถึงความจำเป็นของน้ำยาบ้วนปาก แม้คุณจะไม่ใช้เลยก็ไม่ส่งผลเสียใด ๆ ค่ะ หากแปรงฟันสม่ำเสมออย่างถูกวิธี รวมถึงใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วยเป็นประจำอยู่แล้ว ทว่าถ้าคุณไม่สามารถทำความสะอาดช่องปากได้อย่างเต็มที่ ทั้งมีความเสี่ยงต่อฟันผุหรือโรคเหงือก การใช้น้ำยาบ้วนปากช่วยป้องกันอีกแรงก็ไม่เสียหาย ทางที่ดีหากคุณมีโรคหรือพบอาการผิดปกติใด ๆ ในช่องปาก ควรรีบไปปรึกษาทันตแพทย์เพื่อได้รับการรักษาและแก้ไขอย่างทันท่วงทีนะคะ

ทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ APEX Dental Center ยินดีให้คำปรึกษา และช่วยแก้ไขทุกปัญหาสุขภาพในช่องปากและฟันของคุณอย่างเต็มที่ เรามีเทคโนโลยีด้านทันตกรรมที่ทั้งทันสมัยและครบวงจร รอพร้อมส่งมอบยิ้มสวยและคืนความมั่นใจให้กับคุณ โดยทั้งหมดให้บริการภายใต้มาตรฐานระดับสากล คุณจึงมั่นใจได้ถึงความสะอาด ปลอดภัย และการบริการอย่างมืออาชีพ

ปรึกษาทันตแพทย์เฉพาะทางได้ที่ APEX Dental Center

สาขาเพลินจิต โทร. 062-6623000

สาขาทองหล่อ โทร. 081-9409974

สาขาภูเก็ต โทร. 099-2877451

บทความที่ท่านอาจจะสนใจ