ดึงหน้า vs โบท็อก อันไหนดีกว่ากัน?

ดึงหน้า หรือ โบท็อก ตัวเลือกของการแก้ปัญหาริ้วรอยต่างๆ โดยทั้งสองมีข้อดีที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้รับบริการ หรือปัญหาเกี่ยวกับริ้วร้อย หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรเลือกดึงหน้าหรือโบท็อก วันนี้เราจะมาช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเอง

โบท็อกซ์ (Botox) คือ?

โบท็อกซ์ เป็นโปรตีนบริสุทธิ์ สกัดจาก Botulinum Toxin A เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน ทั่วโลก เพราะโบท็อกซ์จะช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์ ลดริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าได้ ออกฤทธิ์เพื่อให้กล้ามเนื้อเล็กๆ คลายตัว ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดริ้วรอยนั่นเอง สามารถฉีดได้หลายจุด เช่น ริ้วรอยหน้าผาก หางตา ร่องแก้ม ริ้วรอยระหว่างคิ้ว สามารถยกตาและคิ้วให้ดูโตขึ้น และสามารถปรับผิวบริเวณกรามให้ชัดขึ้น ดูเรียวขึ้น

โดยปริมาณที่ใช้จะขึ้นอยู่กับปัญหาริ้วรอยของผู้รับบริการ ซึ่งปัจจุบันก็สามารถเลือกซื้อเป็นแบบเหมา หรือปริมาณที่ต้องการได้ โดยหนึ่งขวดมี 100 ยูนิต ผู้รับบริการสามารถแบ่งฉีดแต่ละจุดที่มีปัญหาได้ เช่น ต้องการลดริ้วรอยบริเวณหน้าผาก และบริเวณหางตา 

ซึ่งโบท็อกซ์มีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ซึ่ง แต่ละแบรนด์เห็นผลลัพธ์ที่คล้ายกันคือลดริ้วรอย และกระชับกรามให้หน้าเรียว แต่ความแตกต่างคือระยะเวลา โดยโบท็อกซ์แต่ละคลินิกใช้โบท็อกที่แตกต่างแบรนด์กัน เพราะฉะนั้นต้องเช็คให้ดี เพื่อให้ได้โบท็อกที่คุณภาพดี ทั่วไปการฉีดโบท็อกซ์จะเห็นผลได้ทันที และเห็นผลได้ชัดเจนหลังฉีด 1-2 สัปดาห์ และอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลของแต่ละบุคคล หลังจากนั้นจะเริ่มคลายกลับมาเหมือนเดิม ซึ่งสามารถฉีดซ้ำได้ ไม่อันตราย 

ข้อดีของการฉีดโบท็อกซ์ คือ เป็นการเสริมความงามที่มีความนิยมมากที่สุด เพราะมีความปลอดภัย ระยะเวลาที่อยู่ได้เหมาะสม มีหลายราคา เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด ใช้ระยะเวลาไม่นานก็เห็นผลลัพธ์ สามารถเลือกจ่ายแบบเหมา หรือเป็นยูนิตได้ตามความต้องการ แต่ต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม และไม่ส่งผลกระทบต่อมาในภายหลัง

ดึงหน้า คือ?

การดึงหน้า เป็นหนึ่งในการศัลยกรรม โดยต้องผ่านการศัลยกรรมโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการศัลยกรรมดึงหน้า เนื่องจากการดึงหน้าถือเป็นหนึ่งการศัลยกรรมที่ต้องทำการผ่าตัด ซึ่งการดึงหน้าสามารถดึงได้ 2 จุดคือ บริเวณหน้าผาก และบริเวณหน้าส่วนกลางถึงส่วนคอ ซึ่งการศัลยกรรมดึงหน้าาส่วนกลาง จะต้องทำร่วมกับการดึงคอ เพราะให้ได้รับการรักษาที่มีความเป็นธรรมชาติ หากผู้ศัลยกรรมทำการดึงหน้า ก็สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างชัดเจน คือ การดึงหน้าบริเวณหน้าผาก ซึ่งเป็นการดึงหน้าที่ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอย และยกคิ้ว ยกตา ให้ดูดีขึ้น สำหรับผู้ที่มีปัญหา คิ้วและตาใกล้กัน ตาตก การดึงหน้าจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นได้

ซึ่งการศัลยกรรมดึงหน้าปัจจุบันถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่ต้องผ่าตัดใหญ่ เพื่อทำการผ่าตัดดึงชั้นผิวที่ลึกที่สุด การทำศัลยกรรมดึงหน้าแบบเดิมจึงทำให้เกิดแผลใหญ่ และต้องพักฟื้นนาน ปัจจุบันการดึงหน้าจึงพัฒนาทำให้เกิดดึงหน้าแผลเล็กลง ใช้การผ่าตัดโดยการส่องกล้องแทน ทำให้เห็นโครงสร้างต่างๆ ได้ชัดเจนเหมือนกับการดึงหน้าแบบเดิม แต่แผลเล็ก และไม่ต้องพักฟื้นนาน

การทำศัลยกรรมดึงหน้าที่พูดถึงกันข้างต้น เรียกว่า ดึงหน้าส่องกล้องปักหมุด Endotine โดยเป็นการดึงหน้าบริเวณหน้าผาก ผ่าตัดโดยการส่องกล้อง และปักหมุด เพื่อหยึดให้การดึงหน้าเต่งตึงได้ยาวนานยิ่งขึ้น ซึ่งหมุดที่ใช้ในการศัลยกรรมดึงหน้า สามารถสลายเองได้ตามธรรมชาติ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการตกค้างในร่างกาย เพราะไม่มีอย่างแน่นอน ซึ่งการดึงหน้า Endotine สามารถดึงหน้าได้ในชั้น SMAS เป็นชั้นที่ลึกที่สุด ทำให้การดึงหน้าอยู่ได้ยาวนาน ตลอดกาล โดยแผลที่ทำการศัลยกรรมดึงหน้าจะถูกซ่อนอยู่ตามโคนผม จึงสังเกตเห็นได้ยาก และก่อนการรับศัลยกรรมดึงหน้าต้องได้รับคำปรึกษาและคำแนะนำจากศัลยแพทย์ก่อน เพื่อให้ได้รับการศัลยกรรมที่ถูกต้อง ตามความต้องการของผู้ศัลยกรรมนั่นเอง

หลังจากทำศัลยกรรมดึงหน้าเสร็จแล้ว ผู้ศัลยกรรมสามารถกลับบ้าน ดูแลตัวเองต่อได้เลย ดูแลตัวเองตามศัลยแพทย์แนะนำ ซึ่งการดึงหน้าจะเข้าที่ประมาณ 6 เดือน และอยู่ได้ต่อไปกับเราตลอด คงทนถาวร

ข้อดีของการศัลยกรรมดึงหน้า คือ ทำครั้งเดียวสามารถแก้ปัญหาได้หลายจุด เช่น ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ยกคิ้ว ยกตา แก้ปัญหาตาตกได้ และขยายระยะห่างของตาและคิ้วให้กว้างขึ้น ทำให้ดวงตาดูสดใสโตขึ้น ซึ่งสามารถอยู่ได้ตลอด ไม่ต้องทำซ้ำทุกๆ ปี

มีปัญหาจุดไหน ต้องแก้ไขให้ถูกจุด

ดึงหน้ากับโบท็อก สามารถแก้ไขปัญหาริ้วรอยได้เหมือนกัน แต่ก็มีบางจุดที่การฉีดโบท็อกซ์ เป็นทางเลือกที่ดีกว่า หรือตรงกับความต้องการของผู้รับบริการมากกว่า โดยการศัลยกรรมดึงหน้า เป็นการศัลยกรรมผ่าตัดประเภทหนึ่ง อาจทำให้ต้องมีเวลาสักระยะเพื่อให้เห็นผลชัดเจน ซึ่งโบท็อกสามารถเห็นผลได้เร็วกว่า แต่อายุของผลลัพธ์การดึงหน้านั้นสามารถอยู่ได้ตลอด แต่โบท็อกอาจต้องมีการฉีดซ้ำเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้อย่างต่อเนื่อง 

โบท็อก เหมาะกับใคร?

  • ต้องการลดริ้วรอย แต่ไม่พร้อมผ่าตัด
  • มีเวลาดูแลตัวเองไม่มาก
  • ต้องการแก้ไขส่วนอื่นร่วมด้วย เช่น กราม
  • ปัญหาริ้วรอย ยังไม่เป็นปัญหาใหญ่มาก หรือผู้รับบริการยังมีอายุน้อย

ดึงหน้า เหมาะกับใคร?

  • ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยหน้าผาก และต้องการรักษาระยะยาว
  • มีปัญหาคิ้วตก ตาตก ดวงตาไม่สดใส
  • มีปัญหาระหว่างคิ้วและตาใกล้ชิดกัน
  • ต้องการทำครั้งเดียวแล้วจบ ไม่ต้องทำซ้ำ

ไม่ว่า ดึงหน้า หรือ โบท็อกซ์ ต้องเลือกคลินิกให้ดี

เนื่องจากทั้งสองเป็นการเสริมความงามที่ต้องผ่านมือแพทย์ ซึ่งมีผลต่อภายในร่างกาย จึงควรได้รับการรักษาโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในด้านนั้นๆ เพื่อให้ได้รับการรักษาได้อย่างถูกต้อง ตรงจุด เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน ตรงตามความต้องการ และปลอดภัยที่สุด ยิ่งเป็นการศัลยกรรมดึงหน้า ยิ่งต้องได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง เพราะมีการผ่าตัดเข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อความปลอดภัย ต้องเลือกให้ดี

โดยทาง APEX เป็นศูนย์ความงามครบวงจร ที่มีทั้งการฉีดโบท็อกและการดึงหน้า โดยการศัลยกรรมดึงหน้าทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการศัลยกรรมดึงหน้า ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย และทำการศัลยกรรมภายในห้องผ่าตัดที่ได้รับมาตรฐาน ผู้ศัลยกรรมมั่นใจได้ว่าการทำศัลยกรรมดึงหน้าที่ APEX ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการแน่นอน 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ ดึงหน้าแผลเล็ก

โทร : 0888-7000-39
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurgery