ริ้วรอยบนใบหน้า อีกหนึ่งปัญหาใหญ่กวนใจ นอกจากจะทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน มีรอยเหี่ยวย่นแล้ว ริ้วรอยตัวปัญหาก็ยังทำให้ใบหน้าของเราดูแก่ขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งวิธีการกำจัดริ้วรอยบนใบหน้าก็มีด้วยกันหลากหลายวิธี แต่วิธีที่ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็ว คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากการ ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย นั่นเอง
แต่ก่อนที่จะไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยกันให้มากขึ้น เรามารู้สาเหตุกันก่อนดีกว่าว่าริ้วรอยบนใบหน้า เกิดจากปัจจัยอะไรได้บ้าง และมีจุดไหนบนใบหน้าที่ควรฉีดโบท็อกลดริ้วรอย เพื่อให้ใบหน้ากลับมาสวยเรียบเนียน
ริ้วรอยบนใบหน้า เกิดจาก?
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น : เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายก็เริ่มฝ่อตัวและเสื่อมสภาพลง โดยเฉพาะคอลลาเจนที่เป็นตัวทำให้ผิวแข็งแรง และอิลาสตินที่เป็นตัวทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ดังนั้นเมื่อคอลลาเจนและอิลาสตินเสื่อมลงจึงส่งผลต่อผิวชั้นนอกโดยตรงทำให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ความหย่อนยาน และความหมองคล้ำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
- แสงแดด : รวมไปถึงมลภาวะอย่างเช่น ควัน ฝุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องเจอทุกวัน ส่งผลเสียต่อทั้งร่างกายและผิวพรรณโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้งหยาบกร้าน เกิดริ้วรอย และผิวคล้ำเสียได้ง่ายขึ้น ดังนั้นก่อนออกแดดทุกครั้งควรปกป้องผิวด้วยครีมกันแดด และเมื่อกลับถึงบ้านควรเช็ดล้างทำความสะอาดผิวหน้าทันที
- การแสดงออกทางสีหน้า : เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น เช่นการหัวเราะ ยิ้ม หรือแม้แต่การขมวดคิ้ว ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราแสดงออกทางสีหน้าอยู่เป็นประจำทุกวัน ดังนั้นเมื่อนานวันเข้าผิวหนังที่เกิดรอยพับบริเวณที่เราแสดงสีหน้าเหล่านั้นจึงเกิดเป็นรอยที่ชัดเจนขึ้น
- การใช้ชีวิตประจำวัน : สำหรับคนที่ใช้ชีวิตในแต่ละวันที่ค่อนข้างหนัก ไม่ค่อยใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายอย่างเช่นนอนดึก ปาร์ตี้บ่อย สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อร่างกายและผิวพรรณโดยตรงเลย เพราะจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพลงเร็วขึ้น ริ้วรอยจึงเกิดขึ้นตามมาได้ง่าย
4 จุดบนใบหน้าที่ควร ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย
ริ้วรอยสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งใบหน้าเลยค่ะ โดยจุดที่สามารถเกิดริ้วรอยได้ง่ายส่วนใหญ่มักจะเป็นบริเวณที่มีการขยับของใบหน้าบ่อย ๆ ทำให้ผิวหนังเกิดรอยพับเมื่อผ่านเวลาไปจึงทำให้เกิดเป็นริ้วรอย และเมื่อประกอบกับปัจจัยอื่น ๆ ที่ได้กล่าวไปก็ยิ่งทำให้ริ้วรอยเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งจุดที่สามารถเกิดริ้วรอยได้ง่ายมี 4 จุด คือ
1.หน้าผาก
1.หน้าผากหน้าผากเป็นจุดที่รับแสงแดดได้ง่ายที่สุด ดังนั้นถ้าไม่ได้ปกป้องผิวจากแสงแดดให้ดี บริเวณนี้จะเกิดความหมองคล้ำ และแห้งกร้านได้ง่ายกว่าส่วนอื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นริ้วรอยหน้าผาก ยังเกิดขึ้นได้จากการแสดงอารมณ์ทางสีหน้า อย่างเช่น เมื่อเวลาตกใจ คนส่วนใหญ่มักจะเลิกคิ้วขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากเกิดการหดตัวและเกิดรอยพับขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปจึงเกิดเป็นริ้วรอยลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ
2.ระหว่างคิ้ว
จุดนี้มักจะมาจากเวลาเราแสดงสีหน้าโดยไม่ตั้งใจ เช่น เมื่อเกิดอาการเครียด หรือเมื่อจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งอยู่ อย่างการอ่านหนังสือ ทำให้หลาย ๆ คนมักจะเผลอขมวดคิ้ว เมื่อกล้ามเนื้อระหว่างคิ้วขมวดเข้าหากันบ่อย ๆ เข้า ก็จะทำให้เกิดริ้วรอยระหว่างคิ้วได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
3.หางตา
ริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาเป็นจุดที่เกิดขึ้นง่ายมาก เนื่องจากบริเวณนี้ผิวค่อนข้างบอบบาง เมื่อมีปัจจัยอะไรมากระทบก็ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น ซึ่งริ้วรอยหางตา หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ตีนกา เกิดขึ้นได้จากผิวหนังที่เริ่มเสื่อสภาพลงตามวัย ผิวบริเวณรอบดวงตาจึงฝ่อตัวและมีความแห้งกร้าน ส่งผลต่อการเกิดริ้วรอย และอีกปัจจัยสำคัญคือการแสดงออกทางสีหน้า อย่างเช่น การยิ้ม การหรี่ตา ก็ทำให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน
4.บริเวณรอบริมฝีปาก
เป็นอีกจุดนึงที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายมาก เนื่องจากในชีวิตประจำของทุกคนต้องมีการพูดคุย ยิ้ม หัวเราะ อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อกล้ามเนื้อบริเวณนี้เกิดการขยับบ่อย ๆ เมื่อผ่านเวลาไปนานเข้าก็จะทำให้เกิดเป็นริ้วรอยรอบ ๆ บริเวณริมฝีปากได้ ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยร่องแก้ม หรือ ริ้วรอยเล็ก ๆ บริเวณมุมปาก
ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย ให้หน้ากลับมาสวยปัง
อย่างที่บอกไปว่าวิธีลดริ้วรอยที่ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็วที่สุด คือการ ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย ซึ่งเป็นการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน (Botulinum toxin type A) เข้าไปบริเวณที่เกิดปัญหาริ้วรอย เพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์ต่อกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ๆ โดยสารนี้จะเข้าไปลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด ทำให้มัดกล้ามเนื้อที่หดตัวอยู่ เริ่มคลายตัว ดังนั้นจึงส่งผลให้ผิวหนังชั้นนอกเรียบตึงขึ้นได้ ริ้วรอยบนใบหน้าที่เคยมีจึงดูลดลง
โดยการฉีดโบท็อกถือว่ามีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากสามารถสลายตัวได้เอง ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ ซึ่งผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกลดริ้วรอย จะสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ใน 2-3 วันหลังฉีด และผลลัพธ์ความเรียบตึงนี้จะคงอยู่ได้นานกว่า 6-8 เดือนเลยทีเดียว แม้ว่าการฉีดโบท็อกจะไม่สามารถช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่อย่างถาวร แต่เราก็จะสามารถกลับมาฉีดซ้ำได้อีกเรื่อย ๆ โดยควรเว้นระยะจากการฉีดแต่ละครั้งประมาณ 3-4 เดือน
เลือกให้ดีก่อน ฉีดโบท็อกลดริ้วรอย
แม้ว่าการฉีดโบท็อกสามารถฉีดได้แทบทั้งใบหน้า แต่ควรตัดสินใจให้ดีก่อนเลือกฉีดในแต่ละครั้ง เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้นะคะ อย่างเช่น ถ้าแพทย์ที่ฉีดให้ไม่มีความชำนาญมากพอ แล้วฉีดโบท็อกผิดจุดตำแหน่งกล้ามเนื้อ หรือฉีดในปริมาณที่ไม่พอดี ก็จะส่งผลให้ใบหน้าเบี้ยว หรือตึงเกินไปได้ ดังนั้นเมื่อต้องการฉีดโบท็อกควรคำนึกถึงสิ่งเหล่านี้ก่อนทุกครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาดีมีประสิทธิภาพ
- โบท็อกที่ใช้ : ต้องเป็นของแท้ ที่สามารถตรวจสอบได้ โดยดูจากกล่องที่บรรจุผลิตภัณฑ์ต้องมีเลขทะเบียนอย. และเอกสารกำกับภาษาไทยชัดเจน นอกจากนั้นเลข Lot. ที่อยู่ข้างขวดต้องสามารถนำไปเช็คได้จริง โดยสามารถตรวจสอบกับบริษัทผู้นำเข้า อย่างเช่นโบท็อกของแบรนด์ Allergan สามารถเช็คได้ที่ 02-640-4999 ต่อ 1 บริษัท Allergan Thailand (DKSH)
- สถานที่ฉีด : คลินิกมีมาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ สะอาด มีอุปกรณ์และเครื่องมีอที่ทันสมัย มีรีวิวจากผู้เข้าใช้บริการจริงที่สามารถเชื่อถือได้ นอกจากนั้นการติดต่อสอบถาม หรือขอคำปรึกษา ต้องได้รับบริการอย่างรวดเร็ว ทั้งก่อนและหลังที่เข้ารับบริการแล้ว
- ความเชี่ยวชาญของแพทย์ : การฉีดโบท็อกแม้จะสะดวกรวดเร็ว ดูเป็นวิธีที่ง่าย แต่จริง ๆ แล้วแพทย์ต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เนื่องจากคุณหมอต้องประเมินปัญหาบนใบหน้าของคนไข้ เพื่อเลือกใช้ปริมาณตัวยาโบท็อกได้อย่างถูกต้อง และสามารถฉีดได้อย่างตรงจุด แม่นยำ เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เกิดปัญหาภายหลัง อย่างเช่น หน้าตึง หรือหน้าแข็งเกินไป
สำหรับท่านใดที่สนใจการฉีดโบท็อกลดริ้วรอยบนใบหน้า ที่ APEX ของเรามีบริการนี้เช่นกันค่ะ รับรองผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพได้จากผู้เข้าใช้บริการจำนวนมาก ที่พึงพอใจในผลลัพธ์และกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้น APEX ยังได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย อย่างรางวัลล่าสุดที่มอบให้แก่คลินิกที่ใช้ผลิตภัณฑ์จาก Allergan บริษัทผู้ผลิตBOTOX, JUVÉDERM FILLER มากที่สุด ‘Top Allergan Aesthetics Valued Customer in Total Porfolio 2020’ จนเรียกได้ว่าเอเพ็กซ์เป็นคลินิกอันดับ 1 ในด้านการฉีดเลยค่ะ เพราะนอกจากนั้นผู้ก่อตั้ง Apex Medical Center อย่างคุณหมอนัน พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ ยังเป็นอาจาย์แพทย์ผู้บุกเบิกการใช้โบท็อก Botox กลุ่มแรกของประเทศไทย มานานกว่า 20 ปีแล้ว จนทำให้ได้รับสมญานามว่าเป็น Botox Queen ของไทยเลยค่ะ อีกทั้งคุณหมอยังเป็นผู้เทรน ให้กับทีมแพทย์ของ APEX ผ่าน training center ของเราเองอีกด้วย ทำให้แพทย์ทุกท่านมีความสามารถเทียบเท่าระดับอาจารย์เลยทีเดียว ดังนั้นไม่ว่าผู้เข้าใช้บริการ จะเลือกฉีดโบท็อกที่สาขาใดของ APEX ก็มั่นใจได้เลยว่าจะได้รับการบริการและคุณภาพแบบเดียวกันทั้งหมดอย่างแน่นอน
