ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร? เสี่ยงไหมในปี 2021

ฉีดฟิลเลอร์การ ฉีดฟิลเลอร์ ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานเกินกว่า 10 ปี ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นๆ กับข่าวคราวความอันตรายของฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะฉีดแล้วหน้าเบี้ยว ฟิลเลอร์เน่า หรือ ฟิลเลอร์ไหลจนผิดรูป จนทำให้บางคนไม่กล้าทำหัตถการนี้ไปเลย แต่ถ้าเราลองศึกษาจากข่าวก็จะทราบได้ทันทีว่าที่ฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดอันตรายนั้น มาจากปัญหาของการเลือกสถาบันเสริมความงาม หรือ คลินิกที่ไม่รับการยอมรับ ไม่ได้มาตรฐาน บางคนไม่รู้ว่าหมอฉีดสารอะไรให้เรา เพราะเลือกฉีดกับหมอกระเป๋า ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นซิลิโคนก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าเราศึกษาข้อมูลมาดี เลือกฉีดฟิลเลอร์โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ฟิลเลอร์มีคุณภาพฉีดให้เราก็จะมีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน

โดยเมื่อก่อนการฉีดฟิลเลอร์ เริ่มจากไว้ใช้กับผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ แล้วใบหน้าได้รับความเสียหาย เพื่อเป็นการช่วยเติมเต็มเนื้อที่หายไปหลังเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เยอะ และในตอนนั้นฟิลเลอร์มีแค่ชนิดถาวรกับกึ่งถาวร เท่านั้น แต่ต่อมาฟิลเลอร์และเทคนิคของแพทย์ได้รับการพัฒนามาเรื่อยๆ นอกจากนั้นยังมีไว้สำหรับช่วยเติมเต็มใบหน้าในส่วนที่บกพร่อง แทนที่จะทำการผ่าตัดศัลกรรม อย่างเช่น การฉีดฟิลเลอร์จมูก ฉีดฟิลเลอร์คาง ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แต่ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า การฉีดฟิลเลอร์ จะเน้นไปที่เรื่องของความสวยงามเฉพาะบุคคล ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ออกแบบรูปหน้าให้ (Face Design) อย่างเช่น การฉีดฟิลเลอร์ปากให้มีความอวบอิ่ม ฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าให้มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้น

 

ฉีดฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ ในปัจจุบันจะใช้สารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ เอชเอ (HA) ฉีดลงไปในชั้นผิวหนังบริเวณที่มีปัญหาเพื่อช่วยเติมเต็มผิวหรือต้องการปรับให้ผิวดูสวยขึ้น โดยสารนี้เป็นสารเลียนแบบสารที่มีอยู่ในชั้นผิวของเราอยู่แล้ว ดังนั้นจึงมีความปลอดภัย และ สามารถสลายเองได้ ไม่ตกค้างในร่างกาย

ซึ่งฟิลเลอร์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ซึ่งมีแค่ประเภทเดียวเท่านั้นที่ได้รับรองจาก อย. คือ สารเติมเต็มแบบชั่วคราว นอกจากนี้อีกสองประเภท คือ สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร และ สารเติมเต็มแบบถาวร ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตจากอย. ให้ใช้รักษาในประเทศไทย

filler

1.Temporary filler (สารเติมเต็มแบบชั่วคราว) คือ ไฮยารูรอนิกแอซิด Hyaluronic Acid ซึ่งสารชนิดนี้ สามารถคงผลลัพธ์ได้ 6-12 เดือน และจะสลายเองตามธรรมชาติได้ 100% จึงมีความปลอดภัยสูง เป็นที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

2.Semi-Permanent Filler (สารเติมเต็มแบบกึ่งถาวร) ฟิลเลอร์ชนิดนี้สามารถอยู่ได้นาน 2-5 ปี ซึ่งจะสามารถสลายได้บางส่วนเท่านั้น ถ้ามีปัญหาหรือผลข้างเคียงจากการฉีด จะทำให้แก้ไขได้ยาก

3.Permanent Filler (สารเติมเต็มแบบถาวร) เช่น ซิลิโคน หรือ พาราฟิน จะไม่สามารถสลายได้ตามธรรมชาติ และยังมีผลข้างเคียงในระยะยาวอีกด้วย เช่น ฟิลเลอร์ไหล หรือ ฟิลเลอร์ผิดรูป สารเติมเต็มชนิดนี้จึงไม่แนะนำให้ฉีดเพราะ ไม่สามารถนำฟิลเลอร์ออกได้หมดเมื่อเกิดปัญหา และจะเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

ปี 2021 การฉีดฟิลเลอร์ ยังอันตรายหรือไม่

เมื่ออายุมากขึ้นมวลกระดูกของเราจะกร่อน และ ไขมัน ของเราจะเริ่มฝ่อตัวลง การฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นเหมือนเป็นการเพิ่มวอลลุ่มที่หายไป ให้กลับมาดูเต็มขึ้น นอกจากนั้นแล้วการฉีดฟิลเลอร์ยังฉีดเพื่อเป็นการปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน ชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ใบหน้าฉ่ำวาวขึ้นได้อีกด้วย

แม้จะเป็นฟิลเลอร์จาก สารไฮยารูรอนิกแอซิด Hyaluronic Acid ที่สามารถสลายเองได้ 100% เหมือนกัน แต่ฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น ก็ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการฉีดในแต่ละบริเวณแตกต่างกัน เพราะด้วยคุณสมบัติและผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมือนกัน เช่น ฟิลเลอร์บางรุ่นเนื้อค่อนข้างแข็ง เพื่อให้ปั้นขึ้นรูปได้ง่าย แพทย์มักใช้ฟิลเลอร์ชนิดนี้เพื่อการยกกระชับ อย่างเช่น ฉีดฟิลเลอร์บริเวณ กราม สันจมูก และฟิลเลอร์แบบนิ่ม ที่เปรียบเสมือนการฉาบปูน ทำให้ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น

ดังนั้นเมื่อเราต้องการ ฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกสถานที่ฉีด ที่ได้รับมาตรฐาน ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารสุข เป็นคลินิกที่สามารถตรวจสอบได้ มีชื่อเสียงน่าเชื่อถือ และ แพทย์มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ มีเทคนิคที่ดี มีความรู้ความเข้าใจด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพื่อที่สามารถประเมิน และ วิเคราะห์ปัญหารูปหน้าของเราได้ว่าควรฉีดฟิลเลอร์แบบไหน ปริมาณเท่าไหร่ และ สามารถฉีดได้แม่นยำ มีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งการเลือกคลินิกและศึกษาข้อมูล เตรียมตัวก่อน-หลังฉีดฟิลเลอร์มาเป็นอย่างดีนั้นสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง เพราะการฉีดฟิลเลอร์ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการฉีด เพียงเท่านี้การฉีดฟิลเลอร์ก็ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรือ น่ากังวลอีกต่อไป เพราะเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย ถ้าได้ทำตามคำแนะนำข้างต้นค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์

ทีนี้เราก็ได้รู้กันแล้วว่า ฟิลเลอร์นั้นไม่ได้มีอันตราย หรือ น่ากลัวอย่างที่หลาย ๆ คน เห็นกันตามข่าว ซึ่งถ้าอ่านเนื้อข่าวดี ๆ ก็จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ไม่ได้ฉีดในคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ จึงทำให้เกิดปัญหาตามมา ดังนั้นถ้าอยากฉีดฟิลเลอร์ได้ออกมาสวยเป็นธรรมชาติ อย่างปลอดภัย อย่างลืมศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจทำนะคะ

เรื่องฉีดฟิลเลอร์/โบท็อก มั่นใจ APEX! สามารถปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ของเราได้ที่ Line@ : @apexbeauty (มี @ นำหน้า)  หรือที่คลินิค APEX กว่า 30 สาขาในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศไทย