จิ๋มล็อก! ความเจ็บปวดทางเพศ ที่แก้ได้ด้วยโบท็อกซ์

  • เจ็บช่องคลอดในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์หรือเมื่อใช้ผ้าอนามัยแบบสอด
  • เป็นตะคริวในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
  • มีอาการปวดระหว่างการตรวจอุ้งเชิงกราน
  • ปวดและเป็นตะคริวในระหว่างการปัสสาวะ หรือการเคลื่อนไหวของลำไส้

หากผู้หญิงคนไหนกำลังพบกับปัญหาข้างต้น ต้องขอบอกเลยว่าคุณกำลังมีอาการ จิ๋มล็อก หรือช่องคลอดหดเกร็ง ซึ่งเป็นความเจ็บปวดจากการเกร็งตัวของปากช่องคลอด (Vaginismus) ที่มากผิดปกติ โดยส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากความรู้สึกทางด้านจิตใจ สภาวะที่ร่างกายหรือจิตใจไม่มีความต้องการทางเพศ ไม่สามารถตอบสนองต่อการกระตุ้นทางเพศได้ตามปกติ ทำให้เกิดปัญหาในการร่วมเพศ ส่งผลไปถึงความสุขทางเพศ จนทำให้ไปไม่ถึงจุดสุดยอด ก่อให้เกิดความวิตกกังวล จนลุกลามกลายเป็นการทะเลาะกันในคู่รัก ทั้งนี้อาการจิ๋มล็อกเป็นความผิดปกติทางเพศที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ถึง 43% ซึ่งสูงกว่าเพศชายในการสำรวจคราวเดียวกัน ที่พบความผิดปกติเพียง 31% เท่านั้น โดยผู้หญิงกว่า 1 ใน 3 อาจมีความต้องการทางเพศที่ลดลงหรือไม่มีเลย กว่า 1 ใน 4 ไม่สามารถไปถึงจุดสุดยอดได้ได้ นอกจากนี้กว่า 20% ยังมีอาการเจ็บปวดระหว่างประกอบกิจการทางเพศอีกด้วย

5 วิธีการรักษาจิ๋มล็อก

  1. การใช้ Vaginal Dilator เริ่มใช้ตั้งแต่ขนาดเล็กค้างไว้ 10 นาทีแล้วเอาออก หลังจากนั้นเพิ่มขนาดเรื่อยๆ จนถึงขนาดเท่ากับองคชาติของฝ่ายชายหรือใหญ่กว่า
  2. การใช้สารหล่อลื่นช่องคลอด (Vaginal Lubricant) โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีภาวะช่องคลอดแห้ง ซึ่งสามารถซื้อได้ตามร้านขายยา โดยไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งยา โดยสารหล่อลื่นอาจอยู่ในลักษณะครีม เจลหรือยาสอดช่องคลอดก็ได้ แนะนำให้ใช้แบบน้ำ (Water-based) มากกว่าแบบน้ำมัน (Oil-based) เช่น Petroleum jelly, Mineral oil, Baby oil เพราะว่ามันสามารถทำปฏิกิริยากับถุงยางอนามัย ทำให้เกิดการแตกหรือรั่วได้
  3. การรักษาด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen Therapy) นอกจากรักษาอาการหมดประจำเดือนแล้ว การได้รับเอสโตรเจนยังช่วยเพิ่มความไวต่อความรู้สึกของ Clitoris ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ ทำให้อาการเจ็บปวดขณะร่วมเพศลดลง โดยในปัจจุบันเอสโตรเจนมีทั้งในรูปแบบครีม เจล หรือยาเม็ดแบบสอด ทำให้อาการช่องคลอดแห้งทุเลาลงได้เป็นอย่างดี
  4. การรักษาด้วยฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone Therapy) เหมาะสำหรับผู้หญิงที่รังไข่หยุดทำงานเร็วกว่าปกติหรือมีภาวะพร่องฮอร์โมนชนิดนี้ แต่ยังไม่มีการรายงานผลทางด้านการรักษาภาวะบกพร่องทางเพศในหญิงอย่างแน่ชัด โดยขนาดยาที่ใช้จะขึ้นกับระดับความรุนแรงของอาการผู้ป่วย ยาที่นิยมนำมาใช้ ได้แก่ Methytestosterone 25-1.25 mg. ต่อวัน
  5. การฉีดสารโบทูลินั่มท็อคซินหรือโบท็อกซ์ เป็นวิธีที่ง่าย ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและยั่งยืน โดยโบท็อกซ์ที่ใช้สำหรับช่องคลอดมีความปลอดภัยและให้ผลทันที สามารถใช้เพื่อรักษาภวะหดเกร็งของช่องคลอดที่เกิดจากสภาวะทางจิตได้ หากใช้อย่างต่อเนื่องก็สามารถหายขาดได้

จริงอยู่ที่การฉีดโบท็อกซ์บริเวณอวัยวะเพศเป็นที่ยอมรับและแพร่หลายทั่วโลก แต่สำหรับในไทยมีอาจารย์แพทย์เพียงไม่กี่ท่านที่สามารถฉีดและรักษาโรคนี้ได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม