จะเสริมจมูก แต่ตัดสินใจไม่ถูก เลือกทำแบบไหนดี !?

 

การ เสริมจมูก ถือเป็นสิ่งทีหลาย ๆ คนอยากทำเป็นอันดับแรก เพราะแค่จมูกเปลี่ยนไปเล็กน้อยก็สามารถทำให้หน้าเปลี่ยนไปได้ และยังใช้ระยะเวลาในการรักษาไม่นาน จึงเหมาะมากสำหรับคนที่มีเวลาไม่มากในการพักฟื้น 

แต่การ เสริมจมูก มีการใช้วัสดุหลากหลายให้คุณได้เลือก แต่ละวัสดุจะมีความแตกต่างกัน มีอะไรบ้างและแตกต่างยังไงบ้าง มาดูกันค่ะ

 

วัสดุที่ใช้สำหรับเสริมจมูก มีอะไรบ้าง

1. Silicone 
2. Silicone + กระดูกอ่อน 
3. Silicone + เนื้อเยื่อเทียม (ADM) 
4. กระดูกอ่อนละเอียด 

 

Silicone ซิลิโคน

แท่งซิลิโคนเป็นวัสดุสามารถปรับรูปทรงได้ตามต้องการ ซิลิโคนสำหรับการเสริมจมูกเป็นการผลิตมาเพื่อใช้ในทางการแพทย์โดยเฉพาะ จุดเด่นคือ เป็นวัสดุที่นิยมเลือกใช้ในการทำศัลยกรรมจมูก และค่าใช้จ่ายไม่สูงมาก โดย APEX ใช้ซิลิโคนของประเทศอเมริกา ที่มีความปลอดภัยสูงคุณภาพดี มีความยืดหยุ่นสูงสามารถปรับแต่งได้ตามรูปทรงที่ผู้เสริมต้องการได้

ซิลิโคนสำหรับการใช้เสริมจมูกมี 2 ประเภท

1. ซิลิโคนแบบสำเร็จรูป 

เป็นซิลิโคนที่มีรูปร่างมาแล้ว มีขนาดหลากหลาย ซึ่งก่อนการศัลยกรรม ศัลยแพทย์อาจจะมีการปรับแต่งรูปทรงของซิลิโคนเล็กน้อย เพื่อให้เข้ากับรูปทรงจมูกของผู้เสริม มีเนื้อซิลิโคนให้เลือกหลากหลาย สามารถเลือกความแข็ง นิ่มของซิลิโคนได้ 

1. ซิลิโคนแบบเหลาเอง

เป็นซิลิโคนแผ่นที่นำมาเหลาเองเพื่อให้ได้รูปทรงตามที่ผู้เสริมต้องการ สามารถปรับแต่งรูปทรงได้ตั้งแต่สันจมูกจนถึงปลายจมูก โดยการใช้ซิลิโคนแบบเหลาเองต้องใช้ความชำนาญของศัลยแพทย์อย่างมาก 

 

Silicone + เนื้อเยื่อเทียม (ADM)

เป็นการนำซิลิโคนและADM หรือเนื้อเยื่อเทียมใช้เป็นวัสดุในการเสริมจมูก เป็นวัสดุที่นิยมมากในประเทศเกาหลี โดยเนื้อเยื่อเทียมจะนำมาใช้บริเวณปลายจมูก เนื้อเยื่อเที่ยมเป็นวัสดุที่สร้างขึ้นมาทำให้มีความใกล้เคียงคล้ายกับเนื้อเยื่อของมนุษย์ ที่ทำการแยกเซลล์ออก และทำความสะอาด ฆ่าเชื้อแล้วเรียบร้อย มีรูพรุน เพื่อให้ร่างกายสร้างเนื้อเยื่อเข้าไปแทรกอยู่ในรูพรุนของเนื้อเยื่อเทียม เพื่อลดการต่อต้านอาการแพ้ เหมาะสำหรับใช้ในบริเวณปลายจมูกเพื่อป้องกันการทะลุ หรือคนผิวหนังบางได้ ดูเป็นธรรมชาติ เสมือนจริง 

 

Silicone+กระดูกอ่อนหลังหู

เป็นการเสริมจมูกด้วยการใช้ Silicone บริเวณสันจมูก และใช้กระดูกอ่อนหลังหู ช่วยเสริมบริเวณปลายจมูก ซึ่งกระดูกอ่อนหลังหูเป็นวัสดุจากร่างกายของเราเอง สามารถปรับแต่งรูปทรงได้ตามที่ผู้เสริมต้องการได้ แผลที่ผ่าตัดบริเวณหลังหูจะอยู่บริเวณรอยพับหลังใบหู สังเกตเห็นได้ยาก 

ผู้เสริมที่ต้องการปลายจมูกแบบหยดน้ำ การใช้กระดูกหลังหูก็สามารถทำได้ เพราะสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ สามารถทำให้ปลายจมูกยาวขึ้น และการใช้วัสดุกระดูกอ่อนหลังหู จะลดความเสี่ยงในการซิลิโคนทะลุ ไม่ใช่วัสดุแปลกปลอม ไม่ทำให้เกิอาการแพ้ และอยู่คงทนยาวนาน

กระดูกอ่อนละเอียด

กระดูกอ่อนละเอียด เป็นวัสดุที่เกิดขึ้นจากการนำกระดูกอ่อนบริเวณซี่โครง นำมาขึ้นทรงให้ได้ทรงตามที่ผู้เสริมต้องการ ได้จมูกรูปทรงธรรมชาติ ดูไม่เป็นรูปทรงแท่งเหมือนซิลิโคน ระยะยาวจมูกสามารถบิดได้เหมือนกับจมูกจริง และการเสริมจมูกโดยใช้กระดูกอ่อนละเอียด จะไม่เกิดปัญหาปลายจมูกทะลุ เนื่องจากเป็นวัสดุจากร่างกายเราเอง จึงไม่ทำให้ร่างกายต่อต้าน ไม่เกิดอาการแพ้ สามารถอยู่กับเราได้ยาวนาน โดยการทำศัลยกรรมจมูกด้วยกระดูกอ่อนละเอียดมีที่ APEX ที่เดียว

 

ใครที่เหมาะทำจมูกด้วยกระดูกอ่อนละเอียด

คนที่ไม่เคยทำจมูกมาก่อน การทำจมูกเป็นครั้งแรกนั้น หลายคนคงอยากได้เห็นรูปทรงจมูกได้อย่างชัดเจน บางคนอาจกังวลใจ ว่า ทำแล้วจะดีไหม จะมีผลเสียตามมาหรือไม่ การทำจมูกด้วยกระดูกอ่อนละเอียด จึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากเป็นการนำวัสดุจากในร่างกายมาทำ ร่างกายจึงไม่ต่อต้านหรือทำให้เกิดอาการแพ้ หมดความกังวลจมูกจะเกิดการแพ้หรือทะลุไปได้เลย

คนที่ต้องการจะแก้ไขจมูก สำหรับใครที่ผ่านการทำศัลยกรรมจมูกมาแล้ว แต่เกิดปัญหาจากระยะเวลา ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากการเสริมจมูก ทรงไม่เป็นธรรมชาติ บางกรณีเกิดจากการแพ้ การต่อต้านจนทำให้จมูกทะลุ สามารถใช้กระดูกอ่อนละเอียดในการแก้ไขจมูกให้ดูดีขึ้นได้

 

ความแตกต่างของวัสดุในการเสริมจมูก

จากที่เราแนะนำไปแล้วเรื่องวัสดุของการเสริมจมูก ในการเสริมจมูกก็ถือว่าเป็นการผ่าตัดที่ต้องตัดสินใจให้ดี เพื่อเราจะได้มีจมูกที่เราพึงพอใจมากที่สุด การเลือกวัสดุในการศัลยกรรมก็ต้องเลือกให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน 

 

ความต่างระหว่าง ซิลิโคน และ กระดูกอ่อนละเอียด ซิลิโคน เป็นวัสดุที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในการทำสัลยกรรมจมูก อาจจะมีรูปทรงที่เป็นสำเร็จ และนำมาตัดแต่งให้เข้ากับรูปทรงที่ผู้เสริมต้องการ แต่มีข้อเสียคือ เมื่อเวลาผ่านไป จมูกอาจจะทำการรัดซิลิโคน ทำให้สามารถเห็นเป็นทรงซิลิโคนชัดเจน บางรายที่มีเนื้อจมูกน้อย อาจจะทำให้ปลายทะลุได้ แต่กระดูกอ่อนละเอียด เป็นวัสดุที่นำกระดูกอ่อนบริเวณซี่โครงมาสร้างรูปทรงจมูก ให้ได้ทรงจมูกที่ผู้เสริมต้องการ ซึ่งสามารถอยู่ได้นาน เมื่อเวลาผ่านไปจมูกยังคงมีรูปทรงเดิม และกระดูกอ่อนละเอียดจะทำการเชื่อมเข้ากับผิวจมูกทำให้เป็นเนื้อเดียวกัน จึงสามารถบิดได้เหมือนจมูกจริง และเป็นธรรมชาติมาก ข้อเสียคือ ค่าใช้จ่ายสูงมาก เพราะต้องมีการผ่าตัดทั้งบริเวณจมูก และซี่โครง ทำให้มีขั้นตอนเยอะ พักฟื้นเยอะ นอกจากนี้ในบางกรณีการเสริมจมูกด้วยซิลิโคนอาจจะต่อต้านซิลิโคนเนื่องจากเป็นสิ่งแปลกต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายต่อต้าน ก่อให้เกิดการอักเสบ จนต้องถอดออก แต่สำหรับกระดูกอ่อนละเอียดจะไม่มีการต่อต้านของร่างกายเนื่องจากเป็นวัสดุที่ทำขึ้นมาจากส่วนหนึ่งของร่างกายเรา ไม่ทำให้แพ้ และไม่มีโอกาสทะลุแน่นอน

 

ความแตกต่างระหว่าง ปลายจมูกทำด้วย กระดูกอ่อนหลังหู และ เนื้อเยื่อเทียม ทั้งคู่เป็นวัสดุที่นำมาช่วยเพิ่มเติมในส่วนปลายจมูก เหมาะกับผู้ที่มีปลายจมูกบาง จึงต้องใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือ เนื้อเยื่อเทียม เข้ามาเป็นตัวช่วยในการเสริมจมูกส่วนปลาย แต่กระดูกอ่อนหลังหู เป็นวัสดุที่ทำมาจากส่วนในร่างกาย ทำให้โอกาสแพ้แทบไม่มี แต่เนื้อเยื่อเทียม เป็นการนำวัสดุอื่นมาทำให้คล้ายกับเนื้อเยื่อของคนมากที่สุด แต่ก็ยังคงเป็นสิ่งแปลกต่อร่างกาย อาจทำให้ร่างกายต่อต้าน เกิดอาการแพ้ และอักเสบได้ ซึ่งทั้งสอง สามารถทำให้ปลายจมูกดูธรรมชาติ ได้รูปทรงหยดน้ำ ได้ตามที่ต้องการ

เห็นความแตกต่างของแต่ละอย่างแล้วใช่ไหม ? เพราะงั้นเลือกวัสดุให้เหมาะกับตัวเอง ทำทั้งทีเลือกให้ดีไปเลย เพื่อให้ในอนาคตไม่ต้องมาทำการแก้ไข แต่ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจหรือการดูแลของแต่ละคนด้วย ถ้าหากเราดูแลจมูกเราได้อย่างดี ถูกต้อง ไม่ทำให้เกิดการกระทบ ก็จะได้จมูกที่สวยพอใจ โดยไม่ต้องแก้ไข 

 

เหตุการณ์ไหนบ้างที่จะทำให้เราทราบว่าจมูกเราอาจจะมีปัญหา ต้องแก้ไข ?

• มีอาการจมูกบวกขึ้น ไม่ยอมยุบ ปรกติแล้วการผ่าตัดศัลยกรรมจมูก ถ้าผ่านไป 1 สัปดาห์ จมูกที่เสริมจะเริ่มยุบลง ถึงแม้แผลจะยังไม่แห้งดี แต่ถ้ามีอาการบวมขึ้น ปวดบริเวณรอบ ๆ รีบแจ้งทางสถานพยาบาลทันที เพื่อให้สถานพยาบาลให้ความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด
• มีสิวขึ้นบริเวณปลายจมูก ห้ามบีบ กด หรือฉีดเด็ดขาด เมื่อผ่าตัดศัลยกรรมเสริมจมูกไปแล้ว 2 – 3 สัปดาห์  เพราะนั้นอาจจะเป็นซิลิโคนที่ทะลุ ควรแจ้งให้สถานพยาบาลทราบ และทานยาตามที่ศัลยแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
• แผลเย็บมีน้ำเหลืองซึม หลังการถอดไหม แล้วยังมีน้ำเหลืองซึมออกมา สามารถสังเกตได้จากการทำความสะอาด เกิดจากการที่แผลไม่หาดีตามปรกติ อาจต้องทำการเย็บไหมใหม่อีกครั้ง ถ้าหากมีอาการควรแจ้งให้สถานพยาบาลทราบ
• มีน้ำเหลืองออกมาบริเวณปลายจมูก อาจเป็นสัญญาณของปัญหา หรืออักเสบ เพื่อได้รับการรักษาที่รวดเร็ว ควรแจ้งสถานพยาบาลทันที
• มีอาการปวด บวมแดง หลังผ่าตัด 2 – 3 สัปดหา์ อาจะเป็นสัญญาณของการอักเสบ ควรแจ้งสถานพยาบาล เพื่อให้สถานพยาบาลได้ให้ความช่วยเหลือ

 

โดยการเสริมจมูกที่ทำให้เกิดปัญหา อาจมีสาเหตุมาจาก วัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน การเลือกวัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูกก็ต้องเหมาะสมกับผู้เสริม บางคนอาจจะแพ้สิ่งแปลกทำให้ร่างกายเกิดการต่อต้าน จนก่อให้เกิดการอักเสบ จนต้องแก้ไขจมูก 

เสริมจมูกโดยใช้ซิลิโคนขนาดที่ไม่เหมาะสมกับผู้เสริม บางคนอาจจะมีทรงจมูกที่ชอบ อยากทำทรงที่ชอบโดยลืมไปว่าเราอาจมีรูปทรงจมูกเดิมที่ไม่สามารถทำให้ได้ทรงจมูกตามที่ต้องการดาย เพราะเนื้อจมูกบาง ซึ่งอาจทำให้จมูกทะลุได้ เพราะฉะนั้นถ้าต้องการเสริมจมูกที่ทรงสวยเข้ากับรูปทรงจมูกเดิมที่มี ควรปรึกษาศัลยแพทย์ เพื่อให้ศัลยแพทย์แนะนำรูปทรงที่เหมาะกับผู้เสริม และทำให้ใกล้เคียงกับความต้องการของผู้เสริมมากที่สุด 

หรือสถานพยาบาลที่ไม่ผ่านมาตรฐาน การเลือกทำศัลยกรรมเสริมจมูกกับสถานพยาบาลที่ดีก็ถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก ๆ เพราะต้องมีการผ่าตัด การเลือกสถานพยาบาลที่ห้องผ่าตัดได้รับการรับรองจึงเป็นเรื่องที่จะทำให้เราสามารถมั่นใจได้ และไว้วางใจกับสถานพยาบาล ถ้าหากทำศัลยกรรมกับสถานพยาบาลที่ห้องผ่าตัดไม่ผ่านการรับรอง อาจจะมีสิ่งสกปรก เข้าสู่ร่างกายทำให้อาจเกิดการอักเสบ และติดเชื้อตามมาภายหลัง 

เพราะฉะนั้นผู้เสริมจึงควรศึกษาสถานพยาบาล เทคนิค วัสดุต่าง ๆ ที่สถานพยาบาลที่เราสนใจให้เพียงพอ เพื่อให้เรามั่นใจได้ว่าการทำศัลยกรรมกับสถานพยาบาลที่เราศึกษานั้นปลอดภัย และไว้วางใจได้แน่นอน 

 

โดยการเสริมจมูกมีเทคนิคการผ่าตัดหลัก ๆ อยู่ 2 แบบ คือ Close Rhinoplasty และ Open Rhinoplasty การเสริมจมูกทั้ง 2 แบบมีข้อดีอย่างไร และแบบไหนเหมาะกับการแก้ไข เราจะมาเล่าให้ฟังกัน

 

Close Rhinoplasty 

เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่เป็นที่นิยมอยู่ตลอด เนื่องจากเป็นการผ่าตัดด้านใน แผลเป็นจึงเป็นขนาดเล็กและไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก ก่อนจะสอดซิลิโคนเข้าไปในบริเวณสันจมูกจนถึงปลายจมูก เนื่องจากเป็นการผ่าตัดด้านในจึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นปัญหาภายในโครงสร้างจมูกได้ ซึ่งใช้ระยะเวลาไม่นาน เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความสูงเฉพาะสันจมูก โดยที่มีทรงจมูกเดิมสวยอยู่แล้ว การเสริมจมูกด้วยวิธีนี้อาจจะไม่ได้รูปทรงจมูกเท่าที่ต้องการ และในระยะยาวอาจจะเกิดปัญหาจมูกทะลุเนื่องจากเนื้อจมูกบาง 

 

Open Rhinoplasty

เป็นเทคนิคการผ่าตัดแบบเปิด ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างภายในจมูกได้ทั้งหมด  และสามารถมองเห็นถึงปัญหาได้ชัดเจน จึงป้องกันการเกิดปัญหาในอนาคตได้ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาจมูกสั้น เนื้อจมูกน้อย จมูกเบี้ยว หรือผู้ที่เคยเสริมจมูกแล้วต้องการแก้ไข การเสริมจมูกโดยการใช้เทคนิค Open Rhinoplasty จะสามารถทำได้รูปทรงจมูกที่ต้องการมากกว่า และแก้ปัญหาหรือแก้ไขจมูกได้ตรงจุด 

เนื่องจากการเสริมจมูกแบบ Open Rhinoplasty เป็นการผ่าตัดแบบเปิด ทำให้ศัลยแพทย์สามารถเห็นโครงสร้างภายใน ผู้ที่เคยศัลยกรรมจมูกมาแล้ว ที่ต้องการแก้ไขจึงเหมาะกับการแก้โดยผ่าตัดแบบ Open Rhinoplasty เพื่อศัลยแพทย์จะได้เห็นถึงปัญหาและจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไข ทำให้ศัลยแพทย์สามารถแก้ไขได้ตรงจุด และเปลี่ยนให้จมูกที่เป็นปัญหาเป็นจมูกทรงสวยที่ผู้เสริมต้องการได้

 

เทคนิคที่เหมาะกับการแก้ไขจมูกมากที่สุด สำหรับผู้ที่มีปัญหาเสริมจมูกแล้วจมูกพัง คือการแก้ไขจมูกด้วยเทคนิค Open Rhinoplasty เพราะการผ่าตัดศัลยกรรมจมูกแบบ Open Rhinoplasy เป็นการผ่าตัดแบบเปิดจึงทำให้เห็นจุดบกพร่องและปัญหาได้ชัดเจนที่สุด เราแนะนำถ้าหากแก้จมูก ควรใช้วัสดุจากกระดูกอ่อนละเอียด เพราะเป็นวัสดุที่ทำจากกระดูกอ่อนซี่โครง ซึ่งเป็นวัสดุภายในร่างกาย นำมาขึ้นรูปทรงให้ได้รูปทรงจมูกที่ผู้เสริมต้องการ และวัสดุนี้ไม่ทำให้ร่างกายต่อต้าน โอกาสการจมูกทะลุไม่มี หมดปัญหาเรื่องแก้ไขจมูกในอนาคตไปได้เลย และยังสามารถอยู่กับเราไปได้อีกนาน ยิ่งระยะเวลาผ่านไปนาน สามารถบิดได้เหมือนจมูกจริง เพราะกลายเป็นเนื้อเดียวกับจมูกแล้วเรียบร้อย

 

ทรงจมูกที่นิยมในปัจจุบัน

• • สโลป + หยดน้ำ เป็นทรงที่เป็นนิยมมากในปัจจุบัน ทรงนี้เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อจมูกอยู่แล้ว เพราะถ้าหากเนื้อน้อยทำจมูกทรงนี้อาจรั้ง และไม่เป็นทรงหยดน้ำ หากได้รับการศัลยกรรมที่ไม่เหมาะสมอาจปลายทะลุได้ นอกจากทำศัลยกรรมจมูกด้วยการใช้ซิลิโคนคู่กับกระดูกอ่อนหลังหู หรือใช้กระดูกอ่อนละเอียดทั้งหมด ก็สามารถช่วยเสริมจมูกที่เนื้อน้อย ให้ได้รูปทรงสโลป และหยดน้ำได้
  • ปลายพุ่ง ทรงนี้ก็มีความนิยมเป้นอย่างมากเช่นเดียวกับสโลป + หยดน้ำ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีสันจมูก ถ้าทำแล้วจะได้รูปทรงจมูกที่คม ดูสวย ปลายจมูกดูเรียวเล็ก แต่ไม่เหมาะกับคนที่มีจมูกสวยอยู่แล้ว เพราะอาจจะทำให้สันจมูกโด่งกว่าเดิมอีก ดูไม่สวย ไม่ธรรมชาติ เหมาะกับคนมีเนื้อปลายจมูก ถ้าหากคนมีปลายจมูกน้อย สามารถใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือ กระดูกอ่อนละเอียด ในการเสริมปลายจมกให้ดูพุ่งขึ้นได้โดยไม่ต้องกลัวปลายจมูกทะลุ
  • ทรงจมูกบาร์บี้ไลน์ เป็นทรงที่นิยมในเกาหลี มากกว่าในประเทศไทย เป็นการเสริมจมูกที่ทำให้สันจมูกโด่งขึ้นเล็กน้อย ตัดปีกจมูกให้แคบลงเล็กน้อย เหมาะกับคนหน้าเรียว หน้ารูปไข่ มากกว่า หน้าทรงกลม เพราะจมูกเล็กอาจจะทำให้หน้ายิ่งดูกว้างมากกว่าเดิม สามารถใช้การศัลยกรรมจมูกแบบกระดูดอ่อนละเอียดทำให้ได้เป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่เห็นเป็นสันซิลิโคน
  • ทรงจมูกตั๊กแตน เหมาะกับคนเอเชียอย่างเรามาก เป็นการเสริมจมูกที่เน้นบริเวณสันจมูก ทำให้ดูธรรมชาติ ไม่เน้นปลาย เน้นเสริมให้เข้ากับรูปหน้าและทรงจมูกเดิม สามารถใช้เป็นกระดูกอ่อนละเอียดในการเสริมได้ ยิ่งทำให้ดูธรรมชาติ ปลายจมูกไม่ทะลุ และปลอดภัยอยู่ได้ตลอดชีวิต
  • ทรงจมูกเน้นปลายเชิดเล็กน้อย เหมาะกับผู้ที่มีสันจมูกสวยอยู่แล้ว แต่อาจมีปัญหาตรงปลายจมูก ถ้าจมูกดูเชิดขึ้นจะทำให้ดูจมูกโด่งขึ้นมา โดยเสริมเพิ่มเติมสันจมูกเล็กน้อยแต่เน้นปลายจมูก แนะนำเสริมแบบ กระดูกอ่อนหลังหู หรือ กระดูกอ่อนละเอียด เพราะเพิ่มปลายจมูกขึ้นเล็กน้อย และปลายจมูกเป็นจุดที่ถ้าเสริมด้วยซิลิโคนเฉย ๆ อาจจะทะลุได้ การใช้กระดูกอ่อนหลังหู หรือ กระดูกอ่อนละเอียด จะช่วยให้ไม่เกิดการทะลุ และดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

 

ทรงจมูกแต่ละทรงขึ้นอยู่กับรูปหน้าและเนื้อจมูกของแต่ละคน การเสริมจมูกควรมีการเข้าปรึกษากับศัลยแพทย์เพื่อวิเคราะห์ทรงจมูกที่เหมาะสมกับผู้เสริม เพื่อให้ได้ทรงจมูกที่เข้ากับรูปหน้าของผู้เสริมมากที่สุด โดยเราแนะนำวัสดุกระดูกอ่อนละเอียดในการทำศัลยกรรมเสริมจมูก เพราะถ้าหากทุกคนสังเกต เกือบทุกรูปทรงจมูกที่พูดถึง วัสดุจากกระดูกอ่อนละเอียดสามารถทำได้เกือบทุกรูปทรง เพราะเป็นวัสดุที่นำมาจากกระดูกอ่อนซี่โครง สามารถปรับแต่งได้ตามรูปทรงที่ผู้เสริมต้องการ เลยหายห่วงเรื่องรูปทรงได้เลย ดูเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ทะลุ และอยู่ได้คงทนยาวนาน 

 

การเตรียมตัวก่อนการศัลยกรรมเสริมจมูก

1. ควรแจ้งโรคประจำตัว และลาที่ต้องรับประทานเป็นประจำให้ศัลยแพทย์ทราบ เพื่อให้ศัลยแพทย์วางแผนการผ่าตัดศัลยกรรมได้อย่างเหมาะสม ถูกต้อง และปลอดภัยกับผู้เสริมมากที่สุด
2. ไม่ควรดื่มน้ำและรับประทานอาหาร 6 – 8 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัดศัลยกรรม ในบางกรณีอาจใช้การวางยาสลบ อาจทำให้ระหว่างผ่าตัด ผู้เสริมสำลักอาหาร เป็นอันตรายต่อผู้เสริม
3. ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ก่อนการผ่าตัดศัลยกรรม อาจส่งผลให้แผลผ่าตัดอักเสบ และเสี่ยงติดเชื้อ
4. ไม่ควรรับประทานอาหารเสริม หรือวิตามิน ก่อนการผ่าตัด 1 – 2 สัปดาห์ เพราะวิตามินหรืออาหารเสริมอาจส่งผลให้เลือดไหลเวียนหยุดช้า เป็นอันตรายต่อผู้เสริมระหว่างผ่าตัด
5.  ไม่ควรรับประทานยาแก้อักเสบ หรือแก้ปวด เพราะยาในกลุ่ม แอสไพรินและ NSAIDs อาจทำให้กระตุนระบบไหลเวียนเลือด ทำให้เลือดแข็งตัวช้า เป็นอันตรายระหว่างผ่าตัด

 

การดูแลรักษาหลังจากรับการเสริมจมูก

1. ควรทานยาตามที่ศัลยแพทย์สั่งอย่างเคร่งคลัด และถ้าหากมียาที่แพ้ควรแจ้งศัลยแพทย์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อแผลผ่าตัด
2. ควรใช้หมอนรองคอและเลี่ยงการนอนราบ ซึ่งการนอนหงายอาจทำให้เลือดไหลคั่งบริเวณดวงตา เห็นเป็นบริเวณช้ำได้
3. ควรประคบเย็นบริเวณข้างแก้มและหน้าผาก จะช่วยลดอาการบวมช้ำบนใบหน้าให้ดีขึ้น
4. ควรทำความสะอาดด้วยสำลีชุบน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือ 
5. ไม่ควรให้แผลโดนน้ำ ในน้ำอาจมีเชื้อโรค ซึ่งสามารถทำให้จมูกติดเชื้อ จนต้องแก้ไขจมูกได้
6. ไม่ควรยกของหนัก หรือสิ่งที่เสี่ยงให้เกิดการกระทบกระเทือน
7. ไม่ควรรับประทานของ หมัก ดอง เนื่องจากของหมักดองอาจทำให้แผลผ่าตัดติดเชื้อได้ 
8. ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ เพราะทำให้แผลหายช้า และเสี่ยงติดเชื้อ

 

สำหรับการทำศัลยกรรมจมูกต้องมีการพูดคุยปรึกษาและรับคำแนะนำจากศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียดเนื่องจากเป็นการผ่าตัด จึงต้องมีการพูดคุยระหว่างผู้เสริมและศัลยแพทย์เพื่อปรึกษาและแนะนำกระบวนการในการศัลยกรรม โดยแต่ละบุคคลจะมีจมูกรูปทรงแตกต่างกัน การศัลยกรรมจึงอาจมีกระบวนการผ่าตัดที่แตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัยและได้รูปทรงจมูกที่ผู้เสริมต้องการ จึงต้องมีการเข้าพบและปรึกษากับศัลยแพทย์เป็นลำดับแรก

 

โดย APEX เป็นที่เดียวที่มีการนำกระดูกอ่อนละเอียดมาขึ้นโครงเป็นรูปทรงจมูกที่ต้องการ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมที่พร้อมให้คำปรึกษา และคำแนะนำในการเสริมจมูก  และมีห้องผ่าตัดที่ได้รับมาตรฐานระดับสากล ผู้เสริมจึงมั่นใจได้ว่า APEX จะดูแลทางลูกค้าให้ได้รูปทรงจมูกตรงจุดที่ลูกค้าต้องการแน่นอน

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ เสริมจมูก หรือการ เสริมจมูก กระดูกอ่อนละเอียด

โทร : 0888-7000-39 , 0888-7000-16
LINE@ ID : @APEXSURGERY
หรือคลิก http://line.me/ti/p/%40apexsurgery