เส้นขนที่ขึ้นอยู่บริเวณจุดซ่อนเร้น หรือที่เราเรียกกันว่า ขนหมออ้อย มีประโยชน์ในในการปกป้องไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่บริเวณจุดซ่อนเร้นของหนุ่ม ๆ สาว ๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยลดการเสียดสีขณะมีเพศสัมพันธ์หรือเวลาสวมใส่ชุดชั้นในได้ ทว่าการมีเส้นขนบริเวณนี้มาก ๆ ก็เป็นเหมือนดาบสองคมเช่นกัน เพราะถ้าหากเราไม่ดูแลรักษาความสะอาดให้ดี หรือมีเพศสัมพันธ์ที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางชนิด ก็อาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หรือติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ โดยเฉพาะการติดเชื้อปรสิตตัวเล็ก ๆ อย่างโลน ที่จะเปลี่ยนให้ ขนหมออ้อย กลายเป็นรังอันแสนสุขของเจ้าปรสิตตัวเล็กเหล่านี้ได้เลยล่ะค่ะ !
โลน เป็นแมลงขนาดเล็กชนิดหนึ่งที่อยู่ในกลุ่มปรสิต มักอาศัยอยู่บนร่างกายมนุษย์โดยเฉพาะบริเวณที่มีเส้นขนหยาบ อาทิ ขนที่จุดซ่อนเร้น หรือขนรักแร้ มีขนาดประมาณ 2 มิลลิเมตร ตัวสีเหลืองเทา รูปร่างคล้ายปู ดำรงชีวิตด้วยการดูดเลือดของสิ่งมีชีวิตที่โลนอาศัยอยู่ ทั้งนี้ โลนมีวงจรชีวิตคล้ายเหา สามารถวางไข่ได้ โดยไข่ของโลนจะมีลักษณะเป็นเม็ดสีน้ำตาลเล็ก ๆ กระจายอยู่บริเวณที่มีโลน ขณะที่การติดเชื้อโลนสามารถเกิดขึ้นได้จากการอยู่ใกล้ชิดกัน ไม่ว่าจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์ หรือแม้นอนอยู่บนเตียงเดียวกันก็สามารถติดกันได้ ไม่เพียงเท่านั้น เพราะการที่มีเส้นขนบริเวณจุดซ่อนเร้นมาก ๆ และไม่มีการดูแลรักษาที่ดี จะยิ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการอาศัย และวางไข่ของโลนได้อีกด้วยค่ะ
อย่างไรก็ตามการติดโลนจะไม่เกิดขึ้นหากคุณดูแลรักษาเส้นขนบริเวณจุดซ่อนเร้น หรือบริเวณที่เสี่ยงต่อการติดโลนให้สะอาดอยู่เสมอ หรือหมั่นตัดเล็มเพื่อไม่ให้เส้นขนยาวมากจนเกินไป ก็จะช่วยให้บริเวณจุดซ่อนเร้นดูสะอาดสะอ้านมากขึ้น นอกจากนี้ยังควรหมั่นสังเกตความผิดปกติ หากมีรอยจุดแดง ๆ ร่วมกับอาการคันที่บริเวณจุดซ่อนเร้น หรือบริเวณหัวเหน่า ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาทางรักษาเป็นการด่วนค่ะ
แต่ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาในการดูแลรักษาขนหมออ้อยเพื่อป้องกันการติดโลน หรือติดเชื้อที่จุดซ่อนเร้น ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยได้ นั่นก็คือการกำเลเซอร์กำจัดขน เพราะการทำเลเซอร์กำจัดขนบิกินี่สามารถช่วยให้คุณจบปัญหาเรื่องเส้นขนได้อย่างถาวรเลยล่ะค่ะ
เลเซอร์บิกินี่ เป็นหนึ่งในวิธีการกำจัดขนด้วยการใช้คลื่นพลังงานเลเซอร์ โดยจะแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ Bikini Line และ Whole Bikini ซึ่งทั้ง 2 วิธีจะแตกต่างกันบริเวณที่ทำ Bikini Line จะเป็นการกำจัดขนด้วยเลเซอร์บริเวณขอบบิกินี่ ทำให้ขนไม่แพลมออกมา ส่วน Whole Bikini เป็นการกำจัดขนบริเวณจุดซ่อนเร้นทั้งหมด ซึ่งมีประโยชน์ตรงที่ทำให้ดูแลรักษาความสะอาดได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องขนแพลมออกมาเวลาที่ใส่ชุดบิกินี่ตัวเก่งอีกด้วย โดยในปัจจุบันนอกจากจะมีวิธีการทำเลเซอร์ขนบิกินี่หลายแบบแล้ว ก็ยังมีเทคโนโลยีเลเซอร์หลายแบบอีกด้วย และที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมี 3 ชนิด ได้แก่
- Long-pulsed Alexandrite laser – คลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 755 nm โดยเป็นคลื่นเลเซอร์ที่ใช้ผลึกอเล็กแซนไดร์เป็นตัวกลางในการผลิตแสง ทำให้สามารถลงได้ลึกกว่า และยังสามารถจับเม็ดสีได้ดีกว่าคลื่นพลังงานเลเซอร์แบบ Long-pulsed ruby laser และ IPL ทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนค่อนข้างดี
- YAG Laser – คลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นอยู่ที่ 1064 nm ซึ่งช่วงความยาวคลื่นขนาดนี้จะสามารถลงลึกไปในผิวหนังชั้นลึกได้ถึง 7 มิลลิเมตร อีกทั้งยังสามารถจับกับเม็ดสีของเส้นขนได้ดีมาก จึงทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้อย่างหมดจด
- Diode Laser – คลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นค่อนข้างหลากหลาย โดยในปัจจุบันที่นิยมใช้นั้นมีช่วงคลื่นความยาวตั้งแต่ 800-810, 940, 1064-1350 nm เลเซอร์ Diode สามารถดูดซับเม็ดสีได้ค่อนข้างมาก และสามารถลงลึกถึงผิวหนังชั้นในส่วนลึกได้ จึงทำให้มีความสามารถในการกำจัดขนสูงเมื่อเทียบกับการใช้เลเซอร์ชนิดอื่นๆ
พลังงานเลเซอร์ทั้ง 3 ชนิดนี้ นอกจากจะได้รับความนิยมแล้วยังเป็นเทคโนโลยีที่ได้มีประสิทธิภาพสูง ยังเหมาะกับสภาพเส้นขนที่แตกต่างกันไป ทั้งในเรื่องของความหน้า ลักษณะเส้นขน หรือสีของเส้นขน แต่คลื่นพลังงานที่มีประสิทธิภาพเหมาะกับลักษณะเส้นขนของคนเอเชียมากที่สุดก็คือการ YAG Laser เพราะสามารถปล่อยคลื่นพลังงานไปจับกับเม็ดสีที่มีความเข้มมากกว่าได้ จึงทำให้กำจัดขนที่มีเส้นสีเข้มได้มากกว่าค่ะ โดยในกระบวนการทำเลเซอร์ขนบิกินี่ โดยส่วนใหญ่แล้วก็มักจะใช้ YAG Laser ในการกำจัดขน เนื่องจากเป็นเลเซอร์ที่เหมาะกับสภาพเส้นขนของคนเอเชีย และมีความปลอดภัยมากที่สุด โดยในการทำแต่ละครั้งสามารถกำจัดขนไปได้ 20 – 30% ของเส้นขนทั้งหมด และจะเริ่มเห็นว่าเส้นขนน้อยลงมากหลังจากการทำครั้งที่ 4 – 5 หากทำครบตามคอร์สที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ก็จะทำให้เส้นขนบริเวณจุดซ่อนเร้นหมดไป หรือบางลงเป็นเพียงเส้นขนอ่อนๆเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้นการทำเลเซอร์ขนบิกินี่ด้วย YAG Laser ยังไม่เจ็บมากนักเมื่อเทียบกับคลื่นพลังงานเลเซอร์ชนิดอื่น ๆ แต่ถ้าหากคุณกลัวว่าจะเจ็บ ก็สามารถใช้ยาชาร่วมได้ เพราะบริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก ผู้เชี่ยวชาญจึงอาจแนะนำให้ใช้ยาชาแบบแปะเพื่อลดความรู้สึกไม่สบายตัวขณะทำได้ค่ะ
ซึ่งที่ APEX เรามีผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทำเลเซอร์ขนประจำทุกสาขา ซึ่งพร้อมให้คำแนะนำ และให้บริการเลเซอร์บิกินี่ เพื่อให้คุณวางใจได้ว่าคุณจะไม่มีเส้นขนแพลม ๆ จนทำให้อาจกลายเป็นบ้านหลังใหม่ของตัวโลนได้อย่างแน่นอนค่ะ บอกลาปัญหาเส้นขนที่จุดซ่อนเร้น และความเสี่ยงการติดเชื้อ หรือติดโลนได้ด้วย เลเซอร์บิกินนี่ จาก APEX
3 เหตุผลที่ควร เลเซอร์ขนบิกินี่ ที่ APEX
และถ้าใครคิดอยากจะทำเลเซอร์ขนบิกินี่ ที่ APEX เราเป็นผู้นำในด้านการทำเลเซอร์ขนมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ และมีเทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนในเลือกหลากหลายแบบ รวมทั้งเลเซอร์ขนบิกินี่ 3 พลังงาน พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการทำเลเซอร์กำจัดขนมายาวนานกว่า 24 ปี จึงมั่นใจได้ถึงผลลัพธ์และความปลอดภัย และนี่อีก 3 เหตุผลในการทำเลเซอร์ขนที่ APEX ค่ะ
1. ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า ด้วย เทคโนโลยี 3 พลังงาน
ที่ APEX เรามีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีไปอีกขั้น ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเลเซอร์ขนแบบใหม่ล่าสุดที่รวมเอาจุดเด่นของคลื่นพลังงานเลเซอร์ 3 ชนิด ได้แก่ Alexandrite Laser, YAG Laser และ Diode Laser เข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งเทคโนโลยีนี้มีข้อดีคือ สามารถกำจัดขนได้ เนียนกว่า ไวกว่า เจ็บน้อยกว่า อีกทั้งยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย
2. ให้บริการด้วยผู้เชี่ยวชาญตัวจริง
ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในด้านการทำเลเซอร์ขน ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะกำหนดว่าผลลัพธ์ในการเลเซอร์ขนจะมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยจากผลข้างเคียงหรือไม่ เพราะผู้เชี่ยวชาญจะสามารถวางแผนในการทำเลเซอร์ขนได้อย่างเป็นมืออาชีพ ทำให้สามารถกำจัดขนในบริเวณที่กังวลได้หมดจด เรียบเนียน โดยไม่ต้องเสี่ยงกับผลข้างเคียงค่ะ
3. รีวิวเยอะ มั่นใจได้ถึงผลลัพธ์
รีวิวถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า เพราะยิ่งมีรีวิวที่ดีมากเท่าไร ก็ยิ่งช่วยเสริมความน่าเชื่อถือ เช่นเดียวกับการ เลเซอร์ขน APEX ซึ่งมีภาพความประทับใจ และรีวิวจากลูกค้ามากมาย ที่จะช่วยให้คุณได้เห็นผลลัพธ์หลังการทำเลเซอร์ขนได้ชัดเจนมากขึ้น และทำให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับความพึงพอใจสูงสุด
