กำจัดขน แบบนี้ ดีกับผิวเราที่สุด

กำจัดขน
ต้องยอมรับว่าการมีผิวที่เรียบเนียนไร้เส้นขนกวนใจ ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีสร้างเสริมความมั่นใจให้ใครหลาย ๆ คนได้ เนื่องจากในบางบริเวณของร่างกาย การที่ไม่มีเส้นขนขึ้นมาก็ทำให้ดูสะอาดตา และรักษาความสะอาดได้ง่ายกว่า ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกจะกำจัดขนในบริเวณที่ตัวเองกังวล ซึ่งในปัจจุบันการ กำจัดขน ก็มีหลากหลายวิธีให้เลือก ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน ทว่าคุณเคยสงสัยหรือไม่ว่า วิธีไหนที่กำจัดขนได้ดี และส่งผลดีกับผิวของคนเรามากที่สุด ถ้าหากคุณกำลังสงสัยกันอยู่ล่ะก็ เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ

สำหรับการกำจัดขนนั้น ในประเทศไทยมีการสันนิษฐานว่าในสมัยโบราณ บรรดานางใน หรือผู้หญิงที่อยู่ในครอบครัวร่ำรวย จะมีการกำจัดขนรักแร้ด้วยการถอนขน เพราะการแต่งตัวของผู้หญิงสมัยโบราณจะเน้นการห่มสไบ หรือนุ่งกระโจมอกเป็นหลัก หากมีขนรักแร้ที่ยาวก็อาจทำให้ดูไม่งามได้ ทั้งนี้อุปกรณ์ที่นิยมใช้ในการถอนขนก็คือแหนบ เนื่องจากมีการค้นพบแหนบมาตั้งแต่สมัยโบราณ และมีปรากฎว่ามีการใช้แหนบในการถอนเส้นผมหรือเส้นขนในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศก พระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธิเบศ นอกจากนี้ยังมีการบอกต่อจากรุ่นสู่รุ่นในเรื่องของการกำจัดขนด้วยการใช้ปูนแดงอีกด้วย จึงสามารถสรุปได้ว่าคนไทยเรามีการดูแลเรื่องเส้นขนกันมาตั้งแต่ในสมัยโบราณเลยล่ะค่ะ ซึ่งในปัจจุบันก็มีการพัฒนาเรื่องวิธีการกำจัดขนมากขึ้นโดยมีวิธีกำจัดขนที่ได้รับความนิยมหลากหลายวิธี ได้แก่

สารบัญ

การถอน 

เป็นวิธีกำจัดขนแบบดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยในการถอนขนนั้นก็สามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้แหนบถอน หรือการใช้เครื่องถอนขนไฟฟ้า โดยเส้นขนที่ถูกถอนออกมาจะหลุดออกมาทั้งเส้น และการถอนขนนั้นก็นิยมให้กับเส้นขนเฉพาะส่วน หรือบริเวณที่เส้นขนไม่เยอะมาก เนื่องจากในการกำจัดขนด้วยการถอน เมื่อถอนเส้นขนออกจะรู้สึกเจ็บปวด หรือมีอาการบวมแดงชั่วคราว ซึ่งถ้าหากดูแลผิวไม่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาขนคุด รูขุมขนอักเสบ หรือผิวหนังอักเสบตามมาได้ ทั้งนี้ในการกำจัดขนด้วยการถอน จะช่วยให้ผิวเรียบเนียนไร้เส้นขนได้ประมาณ 3 – 8 สัปดาห์ค่ะ 

การแว็กซ์

เป็นอีกหนึ่งวิธีการกำจัดขนที่ช่วยถอนขนออกมาทั้งเส้น ซึ่งการกำจัดขนวิธีนี้สามารถทำได้ทุกส่วนของร่างกาย เช่น ใบหน้า ใต้วงแขน ขา หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น และผลลัพธ์จะสามารถอยู่ได้ 3 – 6 สัปดาห์ โดยก่อนจะทำการแว็กซ์ในแต่ละครั้ง ควรปล่อยให้เส้นขนยาวอย่างน้อย 6 มิลลิเมตร เพราะจะช่วยให้แว็กซ์ขนได้ง่ายขึ้น ทว่าในการแว็กซ์ขนนั้นจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บเล็กน้อย ถึงปานกลาง หลังจากทำ และอาจเกิดรอยแดง หรือตุ่มแดงหลังจากทำได้ เนื่องจากเป็นการกระชากเส้นขนออกมาจากรูขุมขน ซึ่งถ้าหากดูแลไม่ดีก็อาจทำให้รูขุมขน และผิวหนังอักเสบหรือเกิดปัญหาขนคุดได้ 

การโกน

เป็นการกำจัดขนด้วยมีดโกนหรือเครื่องโกนขนไฟฟ้า ซึ่งถือเป็นวิธีการกำจัดขนที่ง่าย แต่ให้ผลเพียงชั่วคราวเพียง 1 – 3 วัน เส้นขนก็จะยาวกลับขึ้นมาใหม่ ทำให้ต้องทำซ้ำบ่อย ๆ เป็นประจำทุกวันหากต้องการมีผิวที่เรียบเนียน โดยการกำจัดขนวิธีนี้มักนิยมใช้ในการกำจัดหนวด เคราะ เส้นขนใต้วงแขน แขน ขา หรือบริเวณจุดซ่อนเร้น และในการโกนขนควรใช้ครีมโกนขนร่วมด้วย เนื่องจากใบมีดอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ อีกทั้งยังควรเปลี่ยนใบมีดโกนบ่อย ๆ เพราะการใช้มีดโกนซ้ำ ๆ อาจทำให้เกิดผื่นแดง ตุ่มนูน ระคายเคืองผิว มีขนคุด เกิดรอยบาด หรือติดเชื้อจากใบมีดโกนได้ด้วยเช่นกันค่ะ

ครีมกำจัดขน

ครีมกำจัดขน คือผลิตภัณฑ์ที่ใช้กำจัดขนโดยมีส่วนประกอบของสารเคมีชนิดต่าง ๆ มีฤทธิ์เป็นด่างสูง และทำให้มีกลิ่นฉุน โดยสารเคมีที่อยู่ในครีมกำจัดขนนั้น เมื่อสัมผัสกับเส้นขนแล้ว ก็จะเข้าไปทำลายเส้นขน ให้เส้นขนขาดออกจากรากขน และหลุดออกมาพร้อม ๆ กับการเซ็ตครีมกำจัดขนออก ขณะที่รากขนก็ยังคงอยู่ตามเดิม โดยการกำจัดขนวิธีนี้เป็นวิธีการกำจัดขนแบบชั่วคราว เนื่องจากเส้นขนที่ถูกกำจัดออกคือส่วนของขนที่อยู่เหนือผิวหนังเท่านั้นแต่ไม่ได้ลงไปลึกถึงรากขนทำให้เส้นขนยังสามารถกลับมายาวได้เหมือนเดิมภายในเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์นอกจากนี้สารเคมีที่อยู่ในครีมกำจัดขน ก็ยังอาจเป็นอันตรายต่อผิวและทำให้ผู้ใช้เสี่ยงต่อปัญหาผิวหนังตามมาได้อีกด้วย

กำจัดขน ด้วยกระแสไฟฟ้า 

เป็นวิธีการกำจัดขนระยะยาวแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นการนำเอาอุปกรณ์คล้ายเข็มขนาดเล็กสอดลงไปในรูขุมขนแล้วปล่อยกระแสไฟฟ้าทำลายรากขน วิธีนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน และอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดมากในขณะที่ทำ จึงมักใช้กำจัดขนในบริเวณเล็ก ๆ เช่น ริมฝีปากบน คิ้ว ใต้วงแขน เป็นต้น ทว่าการกำจัดขนด้วยวิธีนี้นั้นมีผลข้างเคียงค่อนข้างมาก อีกทั้งยังอาจไม่ได้ผล เพราะในบางรายที่ใช้วิธีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้อาจมีเส้นขนขึ้นมาใหม่ หรือเกิดปัญหาผิวแห้ง ผิวตกสะเก็ด ร้ายแรงที่สุดคืออาจเกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อจากการใช้อุปกรณ์กำจัดขนที่ไม่สะอาดอีกด้วย

เลเซอร์กำจัดขน

เลเซอร์ เป็นวิธีกำจัดขนด้วยคลื่นพลังงานเลเซอร์ ด้วยการส่งพลังงานความร้อนผ่านลำแสงไปที่เส้นขนในระยะโตเต็มที่ ซึ่งเส้นขนในระยะนี้จะมีเซลล์เม็ดสีซึ่งสามารถดูดซับพลังงานความร้อนจากเลเซอร์ได้ เมื่อเซลล์รากขนดูดซับความร้อนในระดับหนึ่ง รากขนจะฝ่อตัวลง และหยุดการเจริญเติบโต จากนั้นก็จะค่อย ๆ หลุดร่วงไปจนหมด หากทำครบตามที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำก็จะช่วยให้เส้นขนไม่ขึ้นใหม่อีกเป็นเวลานาน ขณะเดียวกันการทำเลเซอร์กำจัดขนยังสามารถช่วยแก้ปัญหาขนคุด และผิวหนังไก่ที่เกิดจากการกำจัดขนด้วยวิธีที่ผิด ๆ ได้อีกด้วย 

ทั้งนี้ในปัจจุบันเทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนที่ได้รับความนิยมมีทั้งหมด 3 ชนิด แบ่งตามชนิดของคลื่นพลังงานเลเซอร์ ได้แก่

  • Long-pulsed Alexandrite laser เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 755 nm โดยคลื่นเลเซอร์ชนิดนี้เป็นการนำเอาผลึกอเล็กแซนไดร์เป็นตัวกลางในการผลิตแสง ทำให้สามารถลงลึกได้ลึกกว่า และสามารถจับเม็ดสีได้ดีกว่าคลื่นพลังงานเลเซอร์แบบ Long-pulsed ruby laser และ IPL ทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนค่อนข้างดี

  • YAG Laser
    เป็นเลเซอร์กำจัดขนแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ โดย YAG Laser คือคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นอยู่ที่ 1064 nm ซึ่งช่วงความยาวคลื่นขนาดนี้จะสามารถลงลึกไปในผิวหนังชั้นลึกได้ถึง 7 มิลลิเมตร อีกทั้งยังสามารถจับกับเม็ดสีของเส้นขนได้ดีมาก จึงทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่เป็นอันตรายต่อผิว
  • Diode Laser
    เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นค่อนข้างหลากหลาย โดยในปัจจุบันที่นิยมใช้นั้นมีช่วงคลื่นความยาวตั้งแต่ 800-810, 940, 1064 – 1350 nm เลเซอร์ Diode สามารถดูดซับเม็ดสีได้ค่อนข้างมาก และสามารถลงลึกถึงผิวหนังชั้นในส่วนลึกได้ จึงทำให้มีความสามารถในการกำจัดขนสูงเมื่อเทียบกับการใช้เลเซอร์ชนิดอื่น ๆ 

มาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า แล้ว IPL ล่ะ เป็นคลื่นเลเซอร์ชนิดไหน ขอบอกเลยว่าสำหรับ IPL (intense pulsed light) นั้น ไม่ใช่พลังงานเลเซอร์ค่ะ แต่เป็นเพียงแสงความเข้มสูงที่แม้จะสามารถทำลายรากขนได้ แต่ไม่สามารถทำลายได้ทั้งหมด ทำให้อาจยังหลงเหลือเส้นขนอยู่ แถมที่ผ่านมามีหลายเคสที่ผิวเกิดการไหม้หลังจากทำกำจัดขนด้วย IPL พบมากในผู้ที่มีผิวสีเข้ม ดังนั้นแพทย์ผิวหนังในคลินิกที่มีประสบการณ์ด้านการกำจัดขนด้วยเลเซอร์จะไม่แนะนำให้ใช้ IPL ในการกำจัดขน เพื่อความปลอดภัยค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีการให้บริการอยู่บ้างในบางแห่งเนื่องจากเป็นการกำจัดขนราคาถูก แต่ให้ผลลัพธ์ไม่คุ้มค่าค่ะ

กำจัดขน ด้วยเลเซอร์ แบบไหนเหมาะกับเรามากที่สุด

ปัจจุบันเทคโนโลยีการทำเลเซอร์กำจัดขนนั้นมีการพัฒนาไปอย่างมาก ซึ่งคลื่นพลังงานเลเซอร์แต่ละชนิดก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไป แต่แบบไหนจะดีที่สุดนั้นต้องพิจารณาถึงหลาย ๆ อย่างด้วยกัน โดยเลเซอร์กำจัดขนที่ดีควรมีช่วงความยาวของคลื่นที่มากเพียงพอ เพราะช่วงความยาวของคลื่นส่งผลโดยตรงต่อการกำจัดขน หากช่วงความยาวของคลื่นนั้นสูงมากพอจะทำให้คลื่นพลังงานลงลึกไปถึงรากขนได้และสามารถทำลายรากขนได้ดี โดยคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่สามารถกำจัดขนได้ดีคือ คลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นตั้งแต่ 900 nm ขึ้นไป อย่างเช่น YAG Laser และ Diode เป็นต้น

แต่ล่าสุดได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อการเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งเป็นการผสาน 3 เทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนเข้าไว้ด้วยกันในเครื่องเดียว ทำให้สามารถกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังมีระบบการป้องกันเพื่อความปลอดภัยในการทำอีกด้วย เครื่องที่ว่านี้ก็คือ Soprano Ice Platinum ค่ะ

Soprano Ice Platinum เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ด้วยการผสานเอาคลื่นพลังงาน 3 คลื่นความถี่ที่มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนสูงสุดอย่าง Alexandrite Laser, YAG Laser และ Diode Laser มาใช้ในการกำจัดขน ทำให้ Soprano Ice Platinum มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนที่มากกว่าเดิม เพราะด้วยความถี่ของคลื่นพลังงานที่แตกต่างกัน จะทำให้คลื่นพลังงานแต่ละชนิดไปจับกับเม็ดสีของเส้นขน ได้ลึกในทุกระดับ ผลที่ได้ก็คือสามารถกำจัดเส้นขนได้ดีกว่า เรียบเนียนกว่า ไม่ว่าเส้นขนจะมีลักษณะแบบไหน สีไหน หรือจะขนดกแค่ไหน ก็สามารถกำจัดออกได้อย่างหมดจดเลยล่ะค่ะ

นอกจากนี้ Soprano Ice Plantinum ยังมีระบบ Cooling Touch ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ออกแบบมาโดยเฉพาะทำให้ขณะที่ทำเลเซอร์ขน ผู้เข้ารับบริการจะรู้สึกสบายผิวมากขึ้น ไม่เสี่ยงกับปัญหาผิวเบิร์นที่อาจทำให้เกิดแผลเป็นที่ไม่น่ามองอีกต่อไป ไม่เพียงเท่านั้น เพราะหลังจากทำครบตามคอร์สที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำแล้วก็จะได้ผิวที่เนียบเนียนมากขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่า Soprano Ice Platinum เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนถาวรที่ดีที่สุดในขณะนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ

กำจัดขน ด้วยเลเซอร์ การเตรียมตัวก็สำคัญ !

นอกเหนือจากเทคโนโลยีเลเซอร์กำจัดขนที่ดีแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผู้เข้ารับบริการไม่ควรพลาดนั้นก็คือ การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์ เพราะถ้าหากมีการเตรียมตัวที่ดี จะช่วยให้ทำเลเซอร์ขนได้ง่าย และปลอดภัยมากขึ้น แถมยังช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีเต็มประสิทธิภาพอีกด้วยค่ะ โดยในการเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ขนควรทำตามนี้ 

  1. หลีกเลี่ยงการถอนขนในบริเวณที่ต้องการทำเลเซอร์กำจัดขน ประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากต้องการกำจัดขนจริง ๆ ก็อาจใช้การโกนเบา ๆ ด้วยมีดโกนแทนได้ ทั้งนี้สาเหตุที่ห้ามถอนเพราะในการทำเลเซอร์ขน จะต้องมีการใช้ลำแสงเลเซอร์ส่งผ่านพลังงานไปสู่รากขน โดยใช้ตอขนเป็นสื่อ จากนั้นเซลล์รากขนจะดูดซับพลังงานความร้อน ทำให้รากขนฝ่อลงไปในที่สุด
  2. ก่อนการทำเลเซอร์ขน ผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการจะทำความสะอาดบริเวณที่ต้องการกำจัดขนให้สะอาด จากนั้นจะโกนเบา ๆ ด้วยมีดโกนแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อให้เหลือความยาวของเส้นขนที่เหมาะสมต่อการทำเลเซอร์ขน
  3. หลังจากโกนขนออกเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำเจลเย็น มาทาบนผิวในบริเวณที่ทำเลเซอร์ขน เพื่อให้ความเย็นช่วยทำให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบายผิวมากขึ้นในระหว่างทำเลเซอร์ขน
  4. ก่อนทำการยิงเลเซอร์ลงไปยังบริเวณผิวที่ทำ ในบริเวณ Sensitive จะมีการนำเอา Cool Pack วางอีกครั้ง เพื่อลดความรู้สึกขณะทำเลเซอร์ขน โดยในขณะทำเลเซอร์ อาจรู้สึกคล้ายหนังสติ๊กดีดเบาๆ และรู้สึกอุ่นๆในบริเวณที่ทำ ซึ่งการประคบด้วยความเย็น และทาเจลเย็นตลอดการทำ เพื่อให้ขณะที่ทำจะยิ่งทำให้รู้สึกสบายขึ้นค่ะ

ทั้งนี้หลังจากการทำเลเซอร์ขนแล้วผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการเลเซอร์ขนจะมีการทาครีมเพื่อบำรุง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์ขน โดยผู้เข้ารับบริการควรทำตามคำแนะนำ และข้อควรปฏิบัติหลังการทำเลเซอร์ขนที่ผู้ให้บริการแจ้งอย่างเคร่งครัด เพื่อที่ดูแลให้ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์ขนมีสุขภาพที่ดีมากขึ้นค่ะ

หลังทำ เลเซอร์ขน ทำตามนี้ ผิวสวยไร้ขน !

ในการทำเลเซอร์ขน การดูแลหลังเลเซอร์ขนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยให้ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์ขนมีสุขภาพดีมากขึ้น เพราะหลังจากการทำเลเซอร์แล้ว ผิวหนังบริเวณที่ทำจะได้รับความร้อนจากพลังงานด้วยส่วนหนึ่งทำให้ผิวอาจบอบบางลงชั่วคราว ดังนั้นหลังจากการทำเลเซอร์ขนควรปฏิบัติตัวดังนี้ค่ะ

1. ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ

หลังจากทำเลเซอร์ขน ผิวหนังบริเวณที่ทำจะบอบบางลงชั่วคราว ทำให้เสี่ยงต่อการไหม้แดดหรือเกิดเป็นรอยด่างดำจากการโดนแสงแดดจัดได้ ดังนั้นจึงควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป และมีค่า PA+++ เพื่อป้องกันผิวค่ะ

2. ใช้เจลว่านหางจระเข้เพิ่มความชุ่มชื้น

ในบางรายที่มีอาการบวมแดงหลังการทำเลเซอร์ ก็สามารถใช้เจลว่านหางจระเข้ทาเพื่อช่วยให้อาการดังกล่าวลดลงได้ อีกทั้งการทาด้วยเจลว่านหางจรเข้ยังช่วยให้ผิวหนังบริเวณที่เลเซอร์ได้รับความชุ่มชื้นอีกด้วย

3. เลี่ยงการถอนหรือแว็กซขน 

ในกรณีที่ยังอยู่ในช่วงการทำเลเซอร์ขน และเส้นขนในบริเวณที่ทำยังไม่หมด ก็อาจต้องใช้การตัดเล็มเส้นขน หรือโกนเบา ๆ เพื่อกำจัดขนออก เพราะวิธีเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังซึ่งเกิดจากการถอนหรือการแว็กซ์ขนได้

4. ทาครีมบำรุงบริเวณที่ทำเลเซอร์

การทาครีม หรือมอยซ์เจอไรเซอร์จะช่วยให้ผิวหนังได้รับความชุ่มชื้นมากขึ้น และทำให้ผิวหนังกลับมาเนียนนุ่มสุขภาพดีหลังจากการทำเลเซอร์ขนได้อีกครั้ง

5. สครับผิวเบา ๆ บริเวณที่ทำเลเซอร์

หลังจากการทำเลเซอร์ขนอย่างน้อย 2 – 3 สัปดาห์จะเริ่มมีขนหลุดร่วง และมีการผลัดเซลล์ของผิวหนังที่ตายแล้ว ซึ่งการสครับเบา ๆ จะช่วยให้เส้นขน และซากของเซลล์ผิวหนังหลุดออกมาได้ดีขึ้น และทำให้ผิวกลับมาดูสวยสุขภาพดีได้อีกด้วยค่ะ

6. หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อน 

ในการทำกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ผิวหนังบริเวณที่ทำเลเซอร์จะได้รับความร้อนไปด้วย และทำให้เกิดการระคายเคืองได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการอาบน้ำด้วยน้ำอุ่นจัด หรือการเข้าซาวน่า อบตัว เพราะอาจกระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ค่ะ

7. หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง หรือใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมี

ผิวหนังที่บอบบางลงชั่วคราวจากการทำเลเซอร์จะไว้ต่อแอลกอฮอล์ และสารเคมีชนิดต่าง ๆ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมี หรือส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะดีที่สุด

8. หลีกเลี่ยงการเกาบริเวณที่ทำเลเซอร์

ในช่วงแรกหลังจากการทำเลเซอร์การเกาวหนังบริเวณที่เลเซอร์ขนจะทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองและอาการอักเสบได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงไปก่อนเพื่อความปลอดภัยค่ะ

10. หลีกเลี่ยงอยู่กลางแสงแดดจัด

แสงแดดและรังสียูวีอาจทำให้ผิวหนังที่ผ่านการทำเลเซอร์ขนเกิดรอยด่างดำ หรือเกิดอาการไหม้แดด จนกลายแผลเป็น หรือเกิดเป็นฝ้าได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน และสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดด และรังสียูวีนั้นทำร้ายผิวค่ะ

และนี่คือสิ่งที่ดี ๆ ที่เราหยิบมาแนะนำในเรื่องการกำจัดขน ใครที่กำลังมองหาวิธีการกำจัดขนที่เหมาะกับตัวเอง ก็อาจจะในความคิดอะไรดี ๆ มากขึ้น แต่ถ้าหากคุณไม่อยากเสียเวลาในการกำจัดขนบ่อย ๆ หรืออยากลบปัญหาเส้นขนที่กวนใจออกไปอย่างถาวรแล้วล่ะก็ ที่ APEX เราเป็นผู้นำในด้านการเลเซอร์ขนมายาวนานกว่า 25 ปี ซึ่งพร้อมจะให้คำปรึกษา และให้บริการเลเซอร์ขนด้วยความเชี่ยวชาญ เพื่อให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าปัญหาเส้นขนที่กวนใจจะหมดไปอย่างแน่นอนด้วยเลเซอร์กำจัดขนที่ APEX ค่ะ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter