6 วิธี กำจัดขนน้องสาว ให้ปลอดภัยไร้กังวล

เลเซอร์บิกินี่

หากกล่าวถึงการ กำจัดขน คงมีผู้หญิงหลายคนที่คงตั้งคำถามในใจเกี่ยวกับ ขนบริเวณอวัยวะเพศ ของตัวเอง ซึ่งหากผู้หญิงเลือกจะกำจัดขนแล้ว นอกจากบริเวณรักแร้หรือขา ที่ต้องยอมรับว่าเป็นบริเวณที่ผู้หญิงต้องการกำจัดขนมากที่สุด ก็ยังมีขนบริเวณน้องสาวอีกที่นึงที่ถือว่าได้รับความนิยมในการกำจัดขนเช่นกัน

Q : อยากทราบว่าเรา ควรกำจัดขนบริเวณน้องสาวหรือไม่? และหากชอบสวมชุดบิกินี่บ่อยๆ จึงจำเป็นต้องแว๊กซ์ขน จะมีอันตรายไหม? และควรจะดูแลผิวหลังแว๊กซ์ขนอย่างไร?

A : เมื่อพูดถึงการกำจัดขน (ไม่นับผม) คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะวัยรุ่นต่างก็เคยกำจัดขนในบริเวณต่างๆ เช่น ขนหนวด เครา ขนคิ้ว ขนตา ขนหน้าอก ขนหน้าท้อง ขนรักแร้ ขนหัวหน่าว ขนแขน ขนขา ขนหน้าแข้ง โดยกำจัดด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง ซึ่งขนเหล่านี้จะงอกเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น โดยงอกออกมาจากเซลล์ต่อมขน (Hair Follicle) จากอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชายเทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งส่วนหนึ่งเกี่ยวข้องกับชาติพันธุ์ด้วย โดยจะเห็นได้ว่าคนจีน คนญี่ปุ่น จะมีหนวดเครา ขนหน้าอก ขนแขนและขนขาน้อย หากเทียบกับคนอินเดียหรือคนตะวันตก

กำจัดขนด้วยการแว็กซ์ขน โดยเฉพาะกับพื้นที่ที่บอบบางและอ่อนโยน อาจก่อให้เกิดการอับเสบของรูขุมขน หรือเกิดการแพ้สารที่ใช้ในการแว็กซ์ได้ บางครั้งหากสถานที่หรือวิธีการทำไม่สะอาดเพียงพอก็อาจเกิดการติดเชื้อร่วมด้วย

Promotion กำจัดขนน้องสาว
น้องเนียน ไร้ขน ชีวิตดี๊ดี

ขนสามารถแบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ

1.ระยะเจริญเติบโต (Anagen Phase)

ระยะนี้ต่อมขนจะอยู่ลึกเข้าไปในชั้นหนังแท้ (Dermis) มีเลือดมาหล่อเลี้ยงเป็นจำนวนมาก ขนจึงเจริญเติบโตงอกยาวออกมา ขนส่วนใหญ่จะอยู่ในระยะนี้นานที่สุด แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของขน เช่น เส้นผมจะอยู่ในระยะนี้ถึงร้อยละ 80-90 และอยู่นานประมาณ 3 ปี ก่อนจะเปลี่ยนเข้าสู่ระยะอื่น ขณะที่ขนคิ้ว ขนตา ขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง ขนอก จะอยู่ในระยะนี้สั้นกว่าขนบนศีรษะ

2.ระยะเปลี่ยนแปลง (Catagen Phase)

ระยะนี้ต่อมขนจะเปลี่ยนแปลงไป โดยการเลื่อนตัวสูงขึ้นมาใกล้ผิว แต่ยังมีเลือดมาหล่อเลี้ยงอยู่ ขนจะอยู่ในระยะนี้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ เป็นช่วงก่อนหลุดร่วง

3.ระยะหยุดเจริญเติบโต (Telogen Phase)

ระยะนี้ต่อมขนเลื่อนขึ้นมาอยู่สูงต่ำกว่าช่องเปิดต่อมไขมันเพียงเล็กน้อย ไม่มีเลือดมาเลี้ยง ขนเตรียมหลุดร่วง หากเป็นเส้นผมจะอยู่ในระยะนี้ประมาณ 100 วัน แล้วหลุดร่วงจากการดันของขนระยะเจริญเติบโต หรือจากการแปรงผม สางผม

สาเหตุที่ต้องกำจัดขนน้องสาว

เนื่องจากการมีขนอาจทำให้ดูไม่สะอาด ก่อให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม การแต่งกายและหน้าที่การงาน เช่น นักกีฬาว่ายน้ำ นางแบบชุดว่ายน้ำ ฯลฯ จึงมีการกำจัดขนเพื่อเพิ่มความดูดีและสร้างความมั่นใจ แต่ประเทศไทยนิยมจะนิยมกำจัดขนน้อยกว่าประเทศทางตะวันตก โดยเฉพาะขนที่หัวหน่าว ซึ่งคนไทยที่มีการกำจัดขนที่หัวหน่าวในประมาณร้อยละ 10 ส่วนใหญ่เป็นหญิงอายุน้อยหรือวัยรุ่น งานวิจัยพบว่าหญิงอเมริกันจะกำจัดขนหรือเคยกำจัดขนหัวหน่าวประมาณร้อยละ 91.4 จากสาเหตุใหญ่ 5 ประการ ดังนี้

  1. ทำให้ดูดี สะอาด ดูแลสุขอนามัยง่าย
  2. เป็นเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ เป็นไปตามรสนิยม เพื่อความเรียบร้อย
  3. เกี่ยวกับชุดแต่งกาย เช่น ชุดว่ายน้ำ ชุดรัดรูป กางเกงสีขาว
  4. สามีหรือแฟนต้องการ
  5. ขนบริเวณนั้นเยอะมากเกินไป จึงเป็นอุปสรรคต่อการมีเพศสัมพันธ์ เช่น การทำรักด้วยปาก

วิธีกำจัดขนบริเวณทั่วไป

วิธีการกำจัดขนนั้นมีมากมายหลายวิธี หากมีการทำลายเซลล์ชั้นผิวหนัง (Dermal Papilla) ซึ่งเป็นตัวสร้างเซลล์ต่อมขน ขนเส้นนั้นก็จะไม่งอกอย่างถาวร ซึ่งวิธีการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมจะมีดังนี้

1.ถอน ถือว่าเป็นวิธีดั้งเดิม โดยใช้อุปกรณ์ ได้แก่ แหนบ คีม เส้นด้าย หรืออุปกรณ์ถอนขนชนิดต่างๆ ซึ่งได้รับความนิยมจนมีการรับจ้างถอนขนตามร้านค้า ร้านเสริมสวยหรือรับจ้างตามบ้านก็มี ข้อดีคือ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย ข้อเสียคือ เจ็บ หากทำเองอาจไม่ค่อยสะดวก หลังถอนอาจเกิดจุดแดงๆ คัน เจ็บ เกิดการอักเสบที่รูขุมขน ขนคุดจากการถอนผิดทิศทาง หรือหากอุปกรณ์ถอนและวิธีถอนไม่สะอาด ก็สามารถเกิดการอักเสบหรือเป็นฝีได้

2.แว๊กซ์ (Waxing) หลักการคล้ายการถอนขน เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ในการแว๊กซ์ขนแทน ซึ่งวิธีการก็มีให้เลือกทั้งแบบร้อนและแบบเย็น โดยการทาน้ำยาลงบนบริเวณที่ต้องการ จากนั้นก็ดึงแว๊กซ์ออก ขนก็จะหลุดออกมาด้วย ข้อเสียคือ ขนมักจะขึ้นใหม่ เนื่องจากการแว๊กซ์เป็นแค่การดึงขนขึ้นมา ไม่ได้ทำลายการสร้างขน ส่วนข้อเสียก็เช่นเดียวกับการถอนขน คือ เจ็บ

3.ใช้สารเคมี (Depilation) เป็นการสลายเส้นขนให้กลายเป็นเจล แล้วเช็ดหรือล้างออก มักใช้สารไทโอไกลโคเลต (Thioglycolate) สลายส่วนประกอบของขนที่เป็นกำมะถัน (Disulfide Bond) นิยมใช้ในคนที่จะสวมชุดว่ายน้ำ และในผู้ชายที่มีขนบริเวณใบหน้ามาก ข้อเสียคือ มักทำให้ระคายเคืองผิว เจ็บ แสบ คัน บางคนไวต่อสารเคมีมาก หลังทำผิวจะมีสีคล้ำ และเนื่องจากวิธีนี้ไม่ทำลายการสร้างขน ขนมักจะขึ้นใหม่ภายในสองสัปดาห์

4.โกน วิธีนี้เป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะทำได้ง่ายที่สุด ทั้งยังมีอุปกรณ์สำหรับโกนชนิดใหม่ๆ ให้เลือกมากมาย เช่น มีดโกน เครื่องโกนไฟฟ้า ข้อดีคือ การโกนไม่ทำให้ขนหนาขึ้นกว่าเดิม สะดวก ประหยัด ข้อเสียคือ ขนขึ้นเร็ว เช่น หากโกนหนวด ในบางรายต้องโกนวันละ 2 ครั้ง และอาจบาดเจ็บหลังโกน เพราะถูกมีดโกนบาด บางรายก็อาจบาดเจ็บจากการโกนขนที่อวัยวะเพศจนต้องเข้าห้องฉุกเฉิน ส่วนบางคนแพ้ครีมหรือมูสสำหรับโกน จึงเกิดการอักเสบ เป็นสิวหลังโกน ติดเชื้อจากแผลที่เกิดจากรอยบาด

5.ฟอกสี แม้จะไม่ใช่วิธีกำจัดขนให้หายไป แต่การฟอกขนให้มีสีอ่อน ก็จะทำให้มองไม่เห็นขน สารที่ใช้ฟอกมักจะประกอบไปด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์และกำมะถัน ข้อเสียคือ อาจเกิดการระคายเคือง คันผิว ผิวบริเวณที่ย้อมสีขนจะดูซีดจางไปด้วย

6.ใช้เลเซอร์กำจัดขน วิธีนี้เป็นการใช้แสงและความร้อนทำลายถึงเซลล์สร้างขน จึงเป็นการกำจัดขนอย่างถาวร จากงานวิจัยพบว่า การทำเลเซอร์กำจัดขนเพียงครั้งเดียว จะทำให้ขนงอกน้อยกว่าเดิมประมาณ 30% หากทำเลเซอร์กำจัดขนหลายครั้ง ส่วนใหญ่ขนจะไม่ขึ้นมาอีกอย่างถาวร

สำหรับการกำจัดขนน้องสาวมีข้อแนะนำ ดังนี้

1.หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรกำจัด เพราะขนในบริเวณนี้ถือว่าเป็นขนที่มีประโยชน์ เป็นตัวรับการกระแทกเมื่อมีเพศสัมพันธ์ ทั้งช่วยป้องกันอวัยวะเพศเสียดสีโดยตรงกับเสื้อผ้าหรือกางเกงชั้นใน

2.หากขนหัวหน่าวมีมากอาจเพียงตัดเล็มให้เป็นระเบียบ ดูสวยงาม ดูดีและดูสะอาดขึ้น

3.หากมีความจำเป็นต้องกำจัด ควรรักษาความสะอาด ป้องกันการบาดเจ็บและการติดเชื้อ จึงควรใช้ครีมฆ่าเชื้อหรือครีมลดการระคายเคืองที่ให้มาพร้อมอุปกรณ์กำจัดขน

การกำจัดขน ในบริเวณที่ไม่พึงประสงค์มีหลากหลายวิธี แต่ที่ได้ผลมากที่สุด เป็นที่นิยมมากที่สุดและจัดว่าได้ผลลัพธ์อย่างถาวร คือ การใช้เลเซอร์กำจัดขน โดยเลเซอร์ที่ใช้จะมีผลในการทำลายเฉพาะรากขนไม่ให้สร้างขนใหม่ขึ้นมาอีก และทำให้บริเวณที่ใช้เลเซอร์กำจัดขน ดูเรียบเนียนมากขึ้น ซึ่งวิธีนี้เหมาะสำหรับการกำจัดขนน้องสาวเป็นอย่างยิ่ง เพราะผลลัพธ์ที่ได้นอกจากจะทำให้บริเวณที่ใช้เลเซอร์กำจัดขนดูเรียบเนียนมากขึ้นแล้ว เส้นขนใหม่ที่เกิดหลังจากนี้จะมีขนาดที่เล็กลง สีอ่อนลง และจะค่อยๆ ขึ้นน้อยลง จนหมดไปในที่สุด

เลเซอร์กำจัดขนน้องสาว เจ็บไหม?

ก่อนทำจะมีการประคบเย็น เป่าลมเย็น หรือทาเจลเย็นในบริเวณที่ทำ ทำให้รู้สึกสบายขึ้น โดยระหว่าทำจะรู้สึกเหมือนยางดีดเบาๆ และอุ่นๆ ขณะทำเท่านั้น

ขนจะขึ้นอีกไหม?

โดยมากลูกค้าที่กำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ที่เอเพ็กซ์ไปประมาณครั้งที่ 3-4 จะรู้สึกว่าขนขึ้นช้าลงและบางลงค่ะ หลังจากทำ 5 ครั้ง ก็อาจจะยังมีขนอยู่บ้าง ซึ่งผู้ที่เข้ารับบริการสามารถมาเก็บรายละเอียดได้อีก 3 ครั้ง แต่จะต้องเว้นระยะในการทำ หลังจากทำไป 8 ครั้ง บางคนขนหายไปมากกว่า 2 ปี ส่วนน้อยที่อาจจะมีขนเส้นเล็กๆ บางๆ ขึ้นบ้าง ก็จะแนะนำให้มาเก็บเป็นรายครั้ง

หลังทำเป็นอย่างไร จะแดง แสบหรือร้อนไหม?

ผิวหนังในบริเวณที่ทำเลเซอร์กำจัดขนอาจมีสีอมชมพูประมาณ 15-30 นาที และจะค่อยๆ หายไปเอง ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของการทำเลเซอร์ขน โดยเส้นขนจะค่อยๆ ถูกดันให้หลุดออกจากผิวหนังภายใน 2 สัปดาห์ หลังการรักษา

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

LINE : http://line.me/ti/p/%40apexcallcenter

 

ไลน์ กำจัดขนน้องสาว