กัญชา ลดความอ้วน ได้ไหม ? สายเขียวมาฟัง !

กัญชา ลดความอ้วน
ปัจจุบันเทรนด์สายเขียวอย่างกัญชงและกัญชากำลังมาแรงแซงทุกโค้ง ยิ่งเมื่อประเทศไทยเพิ่งอนุมัติให้กัญชาไม่ผิดกฎหมาย ได้ทั้งปลูก สกัด หรือกระทั่งสูบในพื้นที่ส่วนบุคคล วงการอาหารและสารพัดผลิตภัณฑ์จึงนำเจ้าพืชชนิดนี้มาปรับใช้อย่างไม่มีใครยอมน้อยหน้า และอีกคุณประโยชน์ที่หลายคนสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก ก็คือสารแคนนาบินอยด์ทั้งในกัญชงและกัญชานั้นมีความสามารถช่วยให้ระบบเผาผลาญของร่างกายดีขึ้น ซึ่ง กัญชา ลดความอ้วน ได้จริง ๆ หรือเปล่า ตามไปหาคำตอบกันค่ะ

โดยการศึกษาระบาดวิทยาในสหรัฐอเมริกาชิ้นหนึ่งค้นพบว่า ผู้ที่สูบกัญชามีความชุกของโรคอ้วน และโรคเบาหวานต่ำกว่าคนที่ไม่สูบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสารแคนนาบินอยด์ (Cannabinoid) ที่พบในกัญชงและกัญชานั้นมีความสัมพันธ์กับระบบเผาผลาญในร่างกาย อีกทั้งยังมีงานวิจัยศึกษาความสัมพันธ์ของการสูบกัญชากับระดับน้ำตาลในเลือดของอาสาสมัคร 4,657 ราย โดยให้ทำแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ยา จากนั้นทำการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหาร 9 ชั่วโมง และประเมินภาวะต้านอินซูลินด้วย HOMA-IR (Homeostasis Model Assessment of Insulin Resistance)

ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่สูบกัญชาในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมามีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่เคยสูบกัญชาร้อยละ 16 ทั้งมีรอบเอวเล็กกว่าอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนกลุ่มที่เคยสูบกัญชาแต่เลิกแล้ว ไม่พบว่ามีการลดลงของระดับน้ำตาล เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่เคยสูบ แต่ทั้งนี้นี่เป็นเพียงงานวิจัยในเบื้องต้นเท่านั้นค่ะ ยังไม่สามารถยืนยันฤทธิ์ดังกล่าวที่เกี่ยวพันกับรูปแบบ ปริมาณ ขนาดของสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ หรือผลเสียในระยะยาวได้

นอกจากนี้จากการศึกษาในปี 2015 ยังพบว่าหนูที่ลักษณะอวบอ้วนมักมีน้ำหนักลดลงจากการบริโภคกัญชา เนื่องจากผลของ THC (Tetrahydrocannabinol) สารที่พบมากในกัญชา (CBD หรือ Cannabidiol จะพบมากในกัญชง) ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของไมโครไบโอมในลำไส้ ซึ่งเป็นตัวควบคุมการลดน้ำหนักและการย่อยอาหารนั่นเองค่ะ

กัญชา ลดความอ้วน ได้ แต่เพิ่มความอยากอาหาร

กัญชานั้นมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการดูดซึมของน้ำตาล จึงเป็นตัวช่วยเพิ่มการเผาผลาญ และเป็นสูตรลดน้ำหนักเร่งด่วนได้ดีระดับหนึ่งค่ะ แต่จากการศึกษาในปี 2014 ซึ่งตีพิมพ์ในวารสาร Nature Neuroscience พบว่า เมื่อบริโภคกัญชาจะช่วยเพิ่มการตรวจจับกลิ่น และส่งเสริมความอยากอาหาร จึงทำให้กินอาหารได้มากขึ้นด้วย

ดังนั้นการสูบหรือบริโภคกัญชาจึงยิ่งทำให้คุณรู้สึกเจริญอาหาร แม้ช่วยกระตุ้นการดูดซึมของน้ำตาลได้ดีก็ตาม หากคุณคิดใช้กัญชาเพื่อช่วยลดความอ้วน ต้องควบคุมชนิดของอาหารและปริมาณการกินให้ดีค่ะ ฉะนั้นอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ขนม รวมถึงของทอดใด ๆ ควรวางไว้ให้ห่างมือ แล้วหาผลไม้หรือธัญพืชมาไว้ใกล้ตัวแทนจะดีที่สุด ทั้งนี้การสูบกัญชาแม้ช่วยให้ผอมจริง แต่ถ้าคุณมุ่งมั่นสูบอย่างเดียว แต่ไม่ดูแลสุขภาพด้านอื่น ๆ จะเป็นการผอมแบบโทรมที่ทำร้ายสุขภาพระยะยาวค่ะ ดังนั้นคุณจึงควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

ประโยชน์ และโทษของกัญชา

กัญชาแม้นับว่ามีประโยชน์ ทั้งช่วยเพิ่มการดูดซึมน้ำตาลในเลือด ช่วยเจริญอาหารได้ดีโดยเฉพาะในคนที่เบื่ออาหาร อีกทั้งยังมีฤทธิ์กระตุ้นประสาททำให้อารมณ์ดีขึ้น คลายความเครียดความกังวล แต่นั่นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคุณรับกัญชาเข้าร่างกายอย่างเหมาะสมพอดีค่ะ เพราะแท้จริงกัญชาแม้เป็นพืชจากธรรมชาติที่มีความปลอดภัย แต่ก็มีผลข้างเคียงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งไม่ควรรับเข้าร่างกายเป็นปริมาณมาก หรือเป็นระยะเวลานาน ๆ เนื่องจากกัญชาจะทำให้มีอาการเคลิบเคลิ้ม ตัวเบา ปากแห้ง เกิดภาวะไซนัสอักเสบ ใจเต้นเร็ว ตอบสนองช้า สูญเสียความทรงจำ ยิ่งใช้ไปนาน ๆ จะทำให้แก่ไว และสุขภาพร่างกายเสื่อมไวกว่าปกติอีกด้วยค่ะ 

สำหรับสายเขียวที่กำลังให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนัก พอได้ทราบกันแบบนี้แล้วคงสบายใจได้ แต่ฤทธิ์ของกัญชาในแง่ลดความอ้วนนั้นมีความย้อนแย้งกันอยู่ แม้มันจะช่วยทำให้ระบบเผาผลาญของร่างกายคุณมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้รู้สึกอยากอาหารมากตามไปด้วย ดังนั้นใครที่คิดจะใช้การบริโภคหรือสูบกัญชา ต้องควบคุมการกินอาหารและตัวเองกันให้ดี ๆ ค่ะ ที่สำคัญแม้กัญชาจะนับว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่นั่นก็ต่อเมื่อคุณใช้ในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น ยิ่งกับวิธีสูบด้วยแล้ว ถ้ามากเกินไปย่อมให้โทษอย่างไม่ต้องสงสัยค่ะ 

ทว่าหากคุณไม่ได้อยากเสี่ยง หรือทดลองใช้กัญชง-กัญชาเพื่อลดน้ำหนัก แต่ก็อยากมีหุ่นเพรียวกระชับได้สัดส่วนในครอบครองแบบไม่ต้องเหนื่อย เราขอแนะนำ CoolSculpting Elite หรือนวัตกรรมสลายไขมันด้วยความเย็นที่จะช่วยให้คุณได้หุ่นในฝันอย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัว ที่สำคัญไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จ และปราศจากผลข้างเคียงให้หนักใจอีกด้วยค่ะ นอกจากนี้การทำแต่ละครั้งใช้เวลาเพียง 35-45 นาทีเท่านั้น ที่สำคัญ CoolSculpting Elite ยังเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้คุณเลือกสลายไขมันเฉพาะจุดตามร่างกายได้หลากหลายบริเวณอีกด้วย 

โดยการทำหนึ่งครั้งสามารถสลายไขมันส่วนเกินในบริเวณที่รักษาได้มาก 20-30% ซึ่ง CoolSculpting Elite จะเป็นการใช้ความเย็นที่อุณหภูมิ -11 ถึง -13 องศาเซลเซียสเข้าสลายไขมัน ไม่ว่าจะเป็นต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง ปีกหลัง ใต้คางหรือส่วนอื่น ๆ หลังจากนั้นเซลล์ไขมันที่ถูกทำให้ตายลงจะถูกกลไกตามธรรมชาติของร่างกายขจัดออก ซึ่งใช้เวลาราว 1-3 เดือนในการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

ทั้งนี้ระหว่างที่ทำคุณไม่จำเป็นต้องออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารตลอดเวลาก็ได้ค่ะ ทว่าหลังทำหากคุณออกกำลังกายหรือควบคุมอาหารร่วมด้วยจะยิ่งเสริมให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญต่อให้หุ่นคุณกลับมาเผละอีกครั้ง บริเวณที่ผ่านการทำ CoolSculpting Elite จะไม่กลับมาย้วยหรืออ้วนเท่าเดิม เนื่องจากเซลล์ไขมันบริเวณนั้น ๆ โดนกำจัดออกไปแล้วนั่นเอง

ที่ APEX เราเป็นอันดับหนึ่งในเอเชียด้วยเคสการทำ CoolSculpting Elite มากที่สุด หากคุณสนใจวิธีกำจัดไขมันด้วยความเย็น เรามีผู้เชี่ยวชาญประสบการณ์สูงที่พร้อมให้คำแนะนำ ช่วยคุณออกแบบรูปร่าง และดูแลอย่างมืออาชีพตลอดการรักษา เพื่อให้สัดส่วนสวยกระชับในฝันของคุณกลายเป็นจริงค่ะ

 

ปรึกษา และสอบถามเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
FB inbox : click http://m.me/apexprofoundbeauty
Line : http://line.me/ti/p/%40apexwomen