3 วิธีบอกลา กลิ่นเต่า ช่วงหน้าฝน

กลิ่นเต่า
ขึ้นชื่อว่า กลิ่นเต่า คงไม่มีใครพิสมัยนัก เพราะนอกจากจะทำให้ผู้คนไม่อยากเข้าใกล้แล้ว ยังทำลายความมั่นใจและบุคลิกภาพได้อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่อากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว แถมถ้าเจอฝนตกไปอีกทำให้อากาศชื้น ซึ่งอากาศที่อบอ้าวและชื้นนั้น เป็นตัวเร่งให้เกิดกลิ่นเหม็นตุๆ บริเวณใต้วงแขนจนทำให้เกิดเป็นกลิ่นตัวแรงที่ไม่น่าพึงประสงค์ได้ง่ายกว่าปกติ สำหรับใครที่ไม่อยากจะมีกลิ่นเต่าให้กังวลใจ เรามีวิธีดี ๆ ที่ช่วยในการป้องกันปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์มาฝากทุกคนกัน

1. รักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ

การรักษาความสะอาดใต้วงแขน ถือเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก เพราะส่วนใหญ่แล้ว กลิ่นเต่ามักจะเกิดจากการไม่รักษาความสะอาด จนทำให้เกิดการหมักหมมและกลายเป็นกลิ่นเหม็นตุได้ ซึ่งทุกครั้งที่อาบน้ำควรยกแขนขึ้นทำความสะอาดบริเวณรักแร้เพื่อให้เหงื่อหรือสิ่งสกปรกออกไป หรือหากในระหว่างวันหากรู้สึกเหนอะหนะ ไม่สบายตัวอาจใช้กระดาษเปียกทำความสะอาดแล้วเช็ดให้แห้งจะช่วยให้รักแร้ของคุณสะอาดไปได้ตลอดทั้งวัน

2. หมั่นดูแลขนรักแร้อย่างสม่ำเสมอ

การปล่อยให้ขนรักแร้ยาวโดยไม่ดูแลรักษาให้ดีเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพราะขนรักแร้ที่ยาวทำให้รักษาความสะอาดได้ยาก และกลายแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทางที่ดีควรหมั่นตัดและเล็มขนรักแร้ให้สั้นอยู่เสมอ หรือกำจัดขนออกไป เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่างๆ จนทำให้เกิดกลิ่นรักแร้ตามมานั่นเอง

3. เลเซอร์ขนรักแร้

สำหรับใครที่ขี้เกียจกำจัดขนรักแร้บ่อย ๆ และไม่อยากมีกลิ่นตัวที่ใต้วงแขน เลเซอร์ขนรักแร้ช่วยคุณได้ ซึ่งในปัจจุบันการทำเลเซอร์ขนรักแร้จะช่วยทำให้หมดปัญหาเส้นขนใต้วงแขน และผิวหนังไก่ รวมไปถึงขนคุดได้อย่างถาวร อีกทั้งยังทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค หรือสิ่งสกปรกที่ทำให้เกิดกลิ่นตัวอีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันการทำเลเซอร์ขนรักแร้ ก็มีให้เลือกหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น

  • Long-pulsed Alexandrite laser มีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 755 nm เป็นคลื่นเลเซอร์ที่ใช้ผลึกอเล็กแซนไดร์เป็นตัวกลางในการผลิตแสง ทำให้สามารถลงได้ลึกกว่า Long-pulsed ruby laser และ IPL อีกทั้งยังสามารถจับเม็ดสีได้ดีกว่าการทำเลเซอร์ขนแบบเก่า ทำให้ประสิทธิภาพในการกำจัดขนอยู่ในระดับที่ดี โดยเลเซอร์ชนิดนี้เหมาะกับคนที่มีผิวขาว ไปจนถึงสีผิวน้ำผึ้ง undertone เหลืองค่ะ
  • YAG Laser – มีช่วงความยาวของคลื่นอยู่ที่ 1064 nm ซึ่งช่วงความยาวคลื่นขนาดนี้จะสามารถลงลึกไปในผิวหนังชั้นลึกได้ถึง 7 มิลลิเมตร อีกทั้งยังสามารถจับกับเม็ดสีของเส้นขนได้ดีมาก จึงทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้อย่างหมดจด เหมาะสำหรับคนผิวสีแทน หรือผิวสีเข้ม ๆ หรือเป็นคนที่มีสีขนค่อนข้างเข็มอย่างคนไทยเป็นต้นค่ะ
  • Diode Laser – มีช่วงความยาวของคลื่นค่อนข้างหลากหลาย โดยมีช่วงคลื่นความยาวตั้งแต่ 800-810, 940, 1064-1350 nm เลเซอร์ Diode สามารถดูดซับเม็ดสีได้ค่อนข้างมาก และสามารถลงลึกถึงผิวหนังชั้นในส่วนลึกได้ จึงทำให้มีความสามารถในการกำจัดขนสูงเมื่อเทียบกับการใช้เลเซอร์ชนิดอื่น ๆ โดยเลเซอร์ชนิดนี้เหมาะสำหรับคนผิวขาว ไปจนถึงผิวสีกลาง ๆ แต่ยังไม่ถึงขั้นผิวแทน

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีเลเซอร์ใหม่ล่าสุดอย่าง เลเซอร์ขน 3 พลังงาน ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในการกำจัดขน เพราะเป็นการนำเอาคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง YAG Laser, Alexandrite Laser และ Diode Laser มารวมเข้าไว้ด้วยกัน และนำมากำจัดขน ผลลัพธ์ที่ได้จึงมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม กำจัดเส้นขนได้เรียบเนียนกว่า ใช้เวลาน้อยกว่า แถมยังปลอดภัยกว่า

เลเซอร์ขนรักแร้ 3 พลังงาน เจ็บไหม?

ในการทำเลเซอร์ขนรักแร้ 3 พลังงาน ที่ APEX จะมีการประคบเย็น และใช้เจลเย็น เพื่อช่วยลดอุณหภูมิบนชั้นผิว ทำให้รู้สึกสบายขึ้น ขณะทำเลเซอร์ขนจะรู้สึกอุ่นๆ และเหมือนถูกหนังยางดีดเบา ๆ ที่ผิวหนัง เท่านั้น แต่หลังจากทำเลเซอร์ขน ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์อาจมีรอยแดงเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปเองได้ตามธรรมชาติ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจะมีการทาครีมบำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวบริเวณที่ทำ เรียกได้ว่าตั้งแต่ทำเลเซอร์ ไปจนถึงเสร็จสิ้นทุกขั้นตอน คุณไม่ต้องกลัวเรื่องอาการเจ็บ หรือผลข้างเคียงจากการทำเลเซอร์เลยล่ะค่ะ

เรียกว่าปัญหา กลิ่นเต่า แก้ไขง่ายกว่าที่คิด ฉะนั้นหากใครที่มีปัญหาเรื่องกลิ่นใต้วงแขน หันกลับมาดูแลใต้วงแขนกันให้มากขึ้นจะดีกว่า แต่ถ้าคุณไม่อยากเสียเวลาจัดการกับเส้นขนใต้วงแขน และอยากมีผิวที่เรียบเนียน ขอแนะนำการทำเลเซอร์ขนเพราะสามารถกำจัดขนได้แน่นอนโดยไม่ต้องมาเสียเวลานั่งเล็ม นั่งถอนหรือโกนขนอีกต่อไป

หากคุณกำลังมองหาสถาบันเสริมความงามที่ให้บริการ เลเซอร์กำจัดขน ได้อย่างเป็นมืออาชีพก็ต้องเป็นที่ APEX ด้วยประสบการณ์ด้านความงามมากว่า 25 ปี จึงทำให้มั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้รับบริการเลเซอร์กำจัดขนอย่างเป็นมืออาชีพ ไม่ต้องนั่งกังวลเรื่องผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อีกต่อไป

ทำไมต้องทำเลเซอร์ขนรักแร้ที่ APEX

APEX ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเลเซอร์กำจัดขน ด้วยเคสการให้บริการที่มากที่สุด ทำให้ผู้ให้บริการมีความเชี่ยวชาญสูงในด้านทำเลเซอร์กำจัดขน อีกทั้งเรายังมีการนำเอาเทคโนโลยีเลเซอร์ขนตัวใหม่ล่าสุดอย่าง เลเซอร์ขนรักแร้ 3 พลังงาน มาให้บริการ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่นำเอา 3 คลื่นพลังงานอย่าง YAG Laser, Alexandrite Laser และ Diode Laser เข้าไว้ด้วยกัน จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้เวลาน้อยลง อีกทั้งในระหว่างการทำเลเซอร์ยังมีการประคบเย็นและใช้เจลเย็นควบคู่กันเพื่อให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบายมากขึ้นในขณะทำเลเซอร์ ผลลัพธ์ที่ได้จึงปลอดภัยและตรงใจผู้เข้ารับบริการมากที่สุดในราคาที่คุ้มค่า

คำถามน่ารู้เกี่ยวกับการทำเลเซอร์กำจัดขน 

Q: เลเซอร์ขนรักแร้ เจ็บไหม ?

A: การทำเลเซอร์ขนรักแร้ เป็นวิธีการกำจัดขนที่ไม่เจ็บ ซึ่งก่อนเริ่มกระบวนการยิงเลเซอร์ จะมีการประคบเย็น และทาเจลเย็นเพื่อให้รู้สึกสบายผิวมากขึ้น และในขณะที่ทำเลเซอร์จะมีความรู้สึกอุ่น ๆ และรู้สึกเหมือนยางดีดเบา ๆ ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะหมดไปเมื่อทำเลเซอร์เสร็จค่ะ 

Q: ทำเลเซอร์ขนแล้ว ขนจะขึ้นอีกไหม ?

A: โดยมากลูกค้าที่กำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ที่เอเพ็กซ์ไป ประมาณครั้งที่ 3-4 แรกจะรู้สึกว่าขนขึ้นช้าลง และบางลงค่ะ หลังการทำ 5 ครั้ง อาจจยังมีขนอยู่บ้าง สามารถมาเก็บอีก 3 ครั้ง เว้นระยะห่างหน่อย หลังจาก 8 ครั้งบางคนขนหายไปมากกว่า 2 ปี ส่วนน้อยที่อาจจะมีบ้าง ที่มีคนเส้นเล็กๆบางๆ ก็จะแนะนำให้มาเก็บเป็นรายครั้งค่ะ

Q: หลังทำเป็นอย่างไร จะแดง แสบ ร้อนไหม ?

A: ผิวหนังในบริเวณที่ทำเลเซอร์กำจัดขนอาจมีสีอมชมพูประมาณ 15-30 นาที และจะค่อยๆหายไปเอง ซึ่งเป็นกระบวนการปกติของการทำเลเซอร์ขน  โดยเส้นขนจะค่อยๆ ถูกดันให้หลุดออกจากผิวหนังภายใน 2 สัปดาห์ หลังการรักษา

Q: หลัง เลเซอร์ขน ต้องดูแลอย่างไร ?

A: ไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพียงงดการใช้สบู่ เคมี และครีมที่ระคายเคืองที่ผิวหนัง เช่น กรดวิตามินเอ (Retin-A), กรด AHA และแนะนำให้หลีกเลี่ยงแดดจัด โดยทากันแดดในบริเวณที่เลเซอร์ขน

Q: ทำไมต้องทำเลเซอร์ขนหลายครั้ง ?

A: เส้นขนในแต่ส่วนของผิวมีวงจรอายุไม่เท่ากัน เช่น เส้นผมบนศีรษะก็จะมีอายุประมาณ 3-4 ปี ใต้วงแขน ก็ประมาณ 1-3 เดือน นอกจากนี้ยังขึ้นกับเชื้อชาติอีกด้วย ระยะ Anagen เป็นช่วงเจริญวัยของขน ในระยะนี้ต่อมขนอยู่ลึกในชั้น Dermis มีเส้นเลือดมาเลี้ยง มีลักษณะเป็นกระเปาะ เป็นระยะที่ประกอบด้วยเซลล์เม็ดสี และมีรากที่พร้อมจะสร้างขนใหม่ พอครบอายุของมันแล้ว เส้นขนจะไม่โตขึ้นอีก จากระยะนี้ต่อมขนจะเลื่อนสูงขึ้น สีเริ่มจางลง เรียกว่าระยะ Catagen และจะเข้าสู่ระยะสุดท้าย คือแยกตัวจากเส้นเลือดที่มาเลี้ยง และหลุดไปในที่สุด จากนี้ ร่างกายก็จะสร้างขนระยะ Anagen ให้เกิดขึ้นมาใหม่แทนที่ เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

ในการทำเลเซอร์กำจัดขนถาวร จะใช้เลเซอร์ความยาวคลื่นที่เหมาะสม เพื่อไปทำลายเซลล์เม็ดสีในชั้นรากขน ทำให้เลเซอร์กำจัดขนมีผลกับขนในระยะ Anagen หรือระยะเติบโตเท่านั้น

โดยการส่งพลังงานความร้อน ผ่านแสงเลเซอร์ไปที่รากขน ตัวเซลล์เม็ดสีจะดูดซับพลังงาน ทำให้รากขนถูกทำลายอย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่ชัดเจนคือ วงจรการเกิดขนเส้นใหม่จะช้าออกไป โดยเส้นขนที่เกิดจากนี้จะมีขนาดที่เล็กลง สีอ่อนลง และจะค่อยๆ ขึ้นน้อยลง จนหมดไปในที่สุดค่ะ

Q: หลังเลเซอร์ขนรักแร้ ทาโรลออนได้ไหม

A: โดยทั่วไปแล้วหลังจากการทำเลเซอร์ขนรักแร้ ผู้เชี่ยวชาญจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากกรดผลไม้ หรือที่มีส่วนประกอบของสารเคมี หรือแอลกอฮอล์ เพราะในช่วงวันแรกๆ หลังจากทำเลเซอร์ขน ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์จะบอบบางมากกว่าปกติ ทำให้การใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและเกิดการอักเสบตามมาได้ ซึ่งถ้าหากผิวใต้วงแขนเกิดการอักเสบขึ้นก็จะยิ่งทำให้ดูแลรักษาได้ยาก และเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตามมาในที่สุด

ดังนั้นหลังจากทำเลเซอร์รักแร้แล้วควรหลีกเลี่ยงการทาโรลออนไปก่อน 2 – 3 วัน เพื่อให้ผิวกลับสู่สภาพปกติก่อน แต่ในขณะนี้ยังสามารถบำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ได้ตามปกติ นอกจากนี้ในการทำความสะอาดควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นจะดีที่สุด โดยใช้เพียงน้ำสะอาดทำความสะอาดเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว และถ้าไม่อยากให้มีกลิ่นตุ ๆ ก็ต้องหมั่นเช็ดทำความสะอาดกันเสียหน่อย อีกทั้งยังควรหลีกเลี่ยงแดดจัด หรือทาครีมกันแดดในบริเวณที่ทำเลเซอร์ขนด้วย เท่านี้ก็สามารถช่วยให้ใต้วงแขนหลังจากทำเลเซอร์ขนรักแร้ไร้กลิ่นและเรียบเนียนได้แล้วล่ะค่ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 063-310-8000
Line : http://line.me/ti/p/@apexcallcenter