โบท็อก (ฺBotox) โปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “Botulinum Toxin A” เมื่อฉีดเข้าไปในผิวแล้ว ตัวยาโบท็อกจะออกฤทธิ์โดยไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท มีผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานได้ลดลงชั่วคราว ช่วยลดริ้วรอยหรือในคนที่มีกรามใหญ่จากกล้ามเนื้อก็สามารถฉีดโบท็อกเพื่อให้กรามเล็กลง ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่นิยมใช้ในปัจจุบันสำหรับลดริ้วรอย ยกกระชับใบหน้า และลำคอ รวมถึงลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ เช่น น่อง กราม เป็นต้น
จริงๆ แล้วคำว่า “โบท็อก” เป็นชื่อยี่ห้อของสารที่ใช้ลดริ้วรอยจากประเทศอเมริกา แต่ทุกคนเรียกกันจนติดปากจนเป็นที่เข้าใจว่าโบท็อกคือชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อฉีดลดริ้วรอย
โบท็อก (Botox) เป็นนวัตกรรมที่นิยมใช้สำหรับลดริ้วรอย ยกกระชับหน้า และลำคอ รวมถึงลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณต่างๆ เช่น น่องและกราม การฉีดโบท็อกเป็นวิธีเสริมความงามที่มาแรงและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง อาจจะเพราะโบท็อกซ์เป็นวิธีที่ช่วยตอบโจทย์ผู้ที่รักสวยรักงามแบบทันใจเพราะเห็นผลภายใน 3-7 วัน
จริงๆ แล้วโบท็อก Botox คืออะไร?
Botulinum toxin A เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum)” ซึ่งเชื้อโรคนี้หากได้รับมากเกินไปจะทำให้อาหารเป็นพิษ หรือเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่ถ้าได้รับในปริมาณน้อยๆ อย่างพอเหมาะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวอันเป็นผลดีกับวงการแพทย์ ซึ่งเริ่มแรกได้นำสารโบท็อกซ์นี้มาใช้ในการรักษาโรคตาเหล่ ตาเข และพัฒนาต่อมาใช้ในวงการเสริมความงาม ช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ ลดลงและทำให้ผิวหน้าดูเด็ก กระชับขึ้น
การทำงานของโบท็อกซ์
เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปสารโบทูลินั่ม ท็อกซินจะเข้าไปจับที่ปลายประสาททำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้หรือทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลงชั่วคราว ส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัวและหลังฉีดโบท็อกซ์ยังสามารถแสดงสีหน้าต่างๆ ได้ตามปกติ ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะหรือขมวดคิ้ว แต่ริ้วรอยที่มักเกิดจากการแสดงอารมณ์เหล่านี้จะลดลงไป
ฉีดโบท็อก ทำให้กล้ามเนื้อตายจริงหรือ? วิธีการทำงานของ Botox เป็นอย่างไร
เมื่อแพทย์ฉีดโบท็อกไปในส่วนต่างๆ ที่ต้องการรักษาแล้ว Botox จะเข้าไปจับที่ปลายประสาททำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้ หรือกล่าวได้ว่าการ ฉีดโบท็อก เป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนแรงลงชั่วคราว ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อส่วนนั้นๆ ซึ่งสามารถเห็นผลลัพธ์หลังการฉีดได้ภายใน 2–3 วัน สำหรับริ้วรอยตื้นๆ และรอยลึกจะเริ่มเห็นผลประมาณ 7–14 วัน เมื่อฉีดไปแล้วยังสามารถแสดงอารมณ์ได้ตามปกติ เพียงแค่ริ้วรอยจากการแสดงอารมณ์จะหายไป หลังการฉีดผลลัพท์จะอยู่ได้นาน 6–8 เดือน หลังจากนั้นริ้วรอยจะกลับมาเหมือนเดิม
ฉีดโบท็อกซ์ช่วยอะไรบ้าง
เริ่มแรกสารสกัดโบทูลินั่มไม่ได้ถูกใช้ในวงการเสริมความงาม แต่เป็นสารที่นำมาใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาอาการตาเหล่ ตาเข ตากระตุก เมื่อฉีดเข้าไปในบริเวณที่มีปัญหาจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวจากการหดเกร็งแต่หลังจากฉีดไปสักพักแพทย์สังเกตเห็นว่าริ้วรอยบริเวณหางตาจางลงไปจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่แพทย์ในวงการเสริมความงามนำสารโบทูลินั่ม ท็อกซินมาพัฒนาสำหรับลดเลือนริ้วรอย
การฉีดโบท็อกซ์สำหรับเสริมความงาม สามารถช่วยในเรื่องความหย่อนคล้อยทำให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึง ริ้วรอยที่เคยมีจางลง เช่น รอยตีนกา รอยขมวดคิ้วและริ้วรอยบริเวณหน้าผาก รูขุมขนตื้นขึ้น หากฉีดโบท็อกริ้วรอยใต้ตา จะช่วยลดริ้วรอยใต้ดวงตา หากฉีดตรงกราม เมื่อเวลาผ่านไปกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดจะเล็กลง กรอบหน้าจะดูเรียวเข้ารูปหรือถ้าฉีดบริเวณน่อง กล้ามเนื้อจะเล็กลงได้ตามต้องการ ทำให้ขาดูเรียว ส่วนการฉีดเพื่อลดเหงื่อจะช่วยให้กล้ามเนื้อรอบๆ ต่อมเหงื่อทำงานน้อย การบีบรัดของต่อมเหงื่อทำงานน้อยลง เหงื่อจึงออกน้อยลงและกลิ่นตัวจะลดลงตามไปด้วย
โบท็อก Botox เหมาะกับใครบ้าง
โบท็อกของอเมริกาสามารเริ่มฉีดได้ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ การฉีด Botox จะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์ต่างๆ เช่นหน้าผาก รอยตีนกา ริ้วรอยรอบดวงตา ปาก และยังสามารถฉีดเพื่อยกคิ้วขึ้น ทำให้ตาดูโตขึ้น แลดูอ่อนเยาว์มากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ปรับรูปหน้าให้ดูเรียว กระชับผิวหนัง รวมทั้งลดเหงื่อบริเวณรักแร้ได้อีกด้วย
หลังจาก ฉีดโบท็อก อาจมีอาการปวดศีรษะหรือปวดในบริเวณที่ฉีด แต่ก็จะหายไปเองในเวลาไม่นาน บางรายอาจจะเคี้ยวอาหารได้ยากขึ้นโดยเฉพาะอาหารที่แข็งและเหนียวเพราะการขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดมีความหนืดมากขึ้น ทั้งนี้การฉีดโบท็อกจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์เป็นส่วนสำคัญเพราะถ้าฉีดผิดตำแหน่งอาจเกิดผลข้างเคียงอย่างตาตก ปากเบี้ยวยิ้มไม่ได้ หรือหน้าไม่เท่ากัน
ฉีดโบท็อกซ์กี่วันเห็นผล
โบท็อกซ์ ถูกขนานนามว่าเป็น ‘Lunch Time Beauty’ แค่ช่วงพักกลางวันคุณก็สวยได้ เพราะในการฉีดโบท็อกซ์ แต่ละครั้งใช้เวลาไม่นาน จิ้มหน้าทำสวยแปปเดียว มีเวลาเหลือเฟือ แถมไม่มี Downtime หลังฉีดไปหาของอร่อยทานหรือช้อปปิ้งได้อย่างสบายใจ หลังจากฉีดโบท็อกซ์ไปจะเริ่มเห็นผลลัพธ์ได้ใน 2-3 วัน สำหรับริ้วรอยตื้นๆ และ 7-14 วัน สำหรับริ้วรอยร่องลึก
ข้อปฏิบัติตัวที่ควรรู้ก่อนและหลังฉีดโบท็อก
สำหรับใครที่กำลังจะฉีดโบท็อกควรศึกษาข้อปฏิบัติตัว ก่อน-หลังฉีดให้ดีก่อนนะคะ เพื่อที่จะให้ผลลัพธ์ของการฉีดออกมาดีและคุ้มค่าที่สุดนั่นเอง
เตรียมตัวก่อนฉีดโบท็อก
- เช็คคลินิกที่มีมาตรฐานและคลินิกนั้นต้องเลือกใช้โบท็อกแท้เท่านั้นค่ะ
- ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป
- ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและหมอที่มีประสบการณ์
- ไม่ควรฉีดโบท็อกเกิน 300 ยูนิต ต่อครั้ง เพราะอาจจะทำให้หน้าตึงจนเกินไป
- ระหว่างการฉีดควรประคบด้วยความเย็น เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือดรอบๆ
ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก
- หลังฉีดโบท็อกควรรีบขยับเกร็งกล้ามเนื้อที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง
- งดนอนราบ 3 ชม.
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู หรืออาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ
- งดการนวดหน้า อย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังทำ
โบท็อกซ์ อเมริกาหรือเกาหลี ดีกว่ากัน
ถึงโบท็อกซ์ อเมริกาจะมีมานานแล้วแต่ด้วยความดังของซีรีย์เกาหลีและความสวยเป๊ะของดาราเกาหลีเลยพลอยทำให้โบเกาหลีฮอตฮิตติดชาร์ตไปด้วย เรียกได้ว่าโบท็อกซ์ทั้งของอเมริกาและเกาหลีได้รับความนิยมกันแบบสูสีเลยทีเดียว โบท็อกซ์แต่ละฟากฝั่งมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการผลิต ชนิดของโปรตีนและขนาดของโมเลกุล
โบท็อกซ์อเมริกา (Botox Allergan USA) เป็นโปรตีนที่สร้างจากแบคทีเรีย Clostridium Botulinum ซึ่งได้รับความนิยมจากทั่วโลก เพราะเป็นแบรนด์แรกของโลกที่คิดค้นสารโบทูลินั่มสำหรับลดเลือนริ้วรอยและเป็นเจ้าแรกที่ได้รับการรับรองจาก FDA USA ในเรื่องการลดริ้วรอย จุดเด่นหลักๆ ของโบท็อกซ์อเมริกา คือ
- หลังจากฉีดจะเห็นผลลัพธ์ภายใน 2-3 วัน
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6-8 เดือน
- มีการเก็บรวบรวมด้านความปลอดภัยและผลข้างเคียง
- มีงานวิจัยรองรับมากกว่า 4,000 งานวิจัย
- เปอร์เซ็นการดื้อยาน้อย เพราะโปรตีนที่ใช้มีโมเลกุลใหญ่
- โมเลกุลใหญ่ เมื่อฉีดเข้าไปจึงมีความเที่ยงตรงและแม่นยำสูง
- ไม่ไหลไปกล้ามเนื้อมัดอื่น
โบท็อกซ์เกาหลี (Neuronox, Zentox, Botulax) เป็นโปรตีนที่สกัดจากแบคทีเรียในอาหารกระป๋องที่เสียแล้ว ถูกใช้มายาวนานกว่า 10 ปี และได้รับความนิยมในเวลาอันรวดเร็ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะกระแสหน้าเรียวจากเหล่าไอดอลเกาหลี บวกกับราคาที่ถูกและได้ประสิทธิภาพ ซึ่งจุดเด่นของโบท็อกซ์เกาหลี คือ
- เห็นผลลัพธ์หลังฉีดภายใน 4-5 วัน
- ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 3-4 เดือน
- ราคาถูก
- ปลอดภัยแต่เสี่ยงในการดื้อยาสูง
โบท็อกซ์เกาหลีพึ่งมีการเริ่มใช้เพียงไม่กี่ปี ซึ่งเป็นระยะสั้นมากเมื่อเทียบกับโบท็อกซ์อเมริกาที่มีมากว่า 50 ปี และมีผลการวิจัยรองรับอย่างมากมาย เราจึงยังไม่ทราบว่าโบท็อกซ์เกาหลีจะมี Side Effect หรือผลข้างเคียงในระยะยาวหรือเปล่าเมื่อเร็วๆ นี้มีหนึ่งในโบท็อกซ์เกาหลีอย่าง Neuronox ที่เคยได้รับความนิยมสูงสุดโดน อย. ของไทยเรียกเก็บคืน เนื่องจากพบว่ามีการปลอมแปลงข้อมูลผลวิเคราะห์และใช้สารตั้งต้นที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
ผู้ชายก็สามารถฉีดโบท็อกซ์ได้
ไม่น่าเชื่อเลยว่าปี 2019 นี้ จะมีลูกค้าผู้ชายเข้าคลินิกเสริมความงามเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว และหนึ่งในทรีตเม้นต์ที่ได้รับความนิยมจากคุณผู้ชายในคลินิกเอเพกซ์คือ “โบท็อกซ์” โดยลูกค้าผู้ชายส่วนมากที่พึ่งเริ่มเข้ารับบริการฉีดโบท็อกซ์มักจะเริ่มฉีดโบท็อกซ์บริเวณขมวดคิ้วและหน้าผากก่อน เพราะเป็นบริเวณที่เหล่าคุณผู้ชายมีปัญหามากที่สุด
ทำไมผู้ชายถึงเลือกฉีดโบท็อกซ์มากขึ้น
การฉีดโบท็อกของผู้ชายบางคนต้องการเพิ่มโอกาสในการทำงานและต้องแข่งขันกับเพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่า บางคนก็ต้องการปรับปรุงตัวเองให้ดูดี มั่นใจมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการเดทสาวๆ หรือเป็นโอกาศในการเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งสำคัญ
“ผมเริ่มฉีดโบท็อกซ์ไม่ใช่แค่อยากดูอ่อนเยาว์แต่ด้วยงานที่ต้องเจอผู้คน พอหน้าเรามันไม่ดูยับดูย่นเราก็มั่นใจขึ้น” ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่เอเพกซ์กล่าว
สำหรับผู้ชายหลายคนการ ฉีดโบท็อกซ์ เป็นเพียงเรื่องของการเพิ่มความภาคภูมิใจในตนเองและการฟื้นความมั่นใจที่สูญเสียไป แตกต่างจากผู้ชายกลุ่มอายุในช่วงอายุ 20 ปลายๆ ถึงช่วงอายุต้นๆ 30 ปีกลับใช้โบท็อกซ์เพื่อป้องกันการเกิดริ้วรอย คงความอ่อนเยาว์และรูปร่างหน้าตาของพวกเขาไว้
เรารู้อยู่แล้วว่าโบท็อกซ์สามารถช่วยแก้ปัญหาทางการแพทย์ได้หลากหลาย เช่น ฉีดโบท็อกซ์ลดเหงื่อ ฉีดโบท็อกซ์แก้อาการเกร็งกระตุก รวมถึงการฉีดโบท็อกเพื่อแก้อาการนอนกัดฟัน แต่ถ้าคุณผู้ชายคนไหนคิดจะฉีดโบท็อกซ์เพื่อความงามอาจจะพิจารณาประโยชน์ของการฉีดโบท็อกซ์ดังต่อไปนี้
ทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดสำหรับริ้วรอยและเส้นเล็กบนหน้าและลำคอ
โบท็อกซ์เป็นกระบวนการที่ง่าย ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องดมยาสลบ และใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีสำหรับการฉีดโบท็อกซ์ เมื่อเปรียบเทียบการฉีดโบท็อกซ์กับการผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้าลดริ้วรอย เช่น facelifts ซึ่งอาจใช้เวลา 3-4 ชั่วโมงในการผ่าตัด และต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกหลายสัปดาห์
โบท็อกซ์มักถูกเรียกว่า Lunch time beauty หรือ “ทำสวยตอนพักกลางวัน” เพราะคุณสามารถเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ได้ในช่วงพักเที่ยงและกลับไปทำงานได้ตามปกติโดยไม่มีใครรู้ว่าคุณไปทำอะไรมา
ช่วยให้คุณดูดีขึ้นในแบบที่เป็นตัวคุณเอง
ประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการฉีดโบท็อกซ์ คือ รูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น โบท็อกซ์มีประสิทธิภาพสูงสุดในการขจัดริ้วรอยและเส้นที่ไม่พึงประสงค์เช่นเดียวกับการป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยใหม่ สาเหตุสำคัญที่ลูกค้าผู้ชายเข้ามาฉีดโบท็อกซ์มากที่สุดคือ “การแข่งขันในที่ทำงาน”ความอ่อนเยาว์และดูดีขึ้นสามารถทำให้คุณผู้ชายมีความมั่นใจขึ้น ต่อให้คลื่นลูกใหม่จะซัดมากี่ครั้ง จะกดดันแค่ไหนก็ยังมั่นใจ
ช่วยเพิ่มความนับถือให้กับตนเอง
ริ้วรอยเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังนับว่าดูดีอยู่ แต่ถ้ามีมากเกินไปก็จะทำให้ผู้ชายดูแก่กว่าอายุที่เขาเป็นอยู่จริง ไม่ว่าริ้วรอยนั้นจะเกิดจากการใช้เวลาในแสงแดดมากเกินไป โดยไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม หรือพันธุกรรมการมีริ้วรอยก่อนวัย ริ้วรอยสามารถทำให้ผู้ชายคนหนึ่งรู้สึกประหม่าเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองได้
โบท็อกซ์สามารถลบสัญญาณแห่งวัยได้ จึงช่วยเพิ่มความมั่นใจและอารมณ์แห่งความสุขของคุณผู้ชายได้ มีข้อมูลอ้างอิงบางฉบับกล่าวว่าการฉีดโบท็อกซ์มีประสิทธิภาพในการรักษาผู้ป่วยโรคซึมเศร้า สามารถช่วยลดอาการของโรคซึมเศร้าได้ ในทำนองเดียวกันการฉีดโบท็อกซ์สามารถช่วยเปิดประตูสำหรับคุณผู้ชายในอาชีพการงาน และชีวิตส่วนตัวของพวกเขา สิ่งนี้สามารถนำไปสู่การเพิ่มคุณภาพชีวิตและความสุขของพวกเค้าได้
คุณหมอเอก – เอกลักษณ์ ธรรมสุนทร เล่าให้ฟังถึงกฎของการฉีดโบท็อกซ์ในกลุ่มลูกค้าผู้ชายว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “Keep masculine look” คือฉีดโบท็อกซ์ให้หน้ายังดูแมนอยู่ การฉีดโบท็อกซ์ในกลุ่มลูกค้าผู้หญิงและกลุ่มลูกค้าผู้ชายนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง จริงอยู่ว่าเราใช้ยา Botulinum Toxin เหมือนกัน แต่เทคนิคการฉีดโบท็อกซ์นั้นไม่เหมือนกันเลย
สำหรับผู้หญิงเมื่อฉีดโบท็อกซ์ไปแล้วก็อยากให้หน้าเล็ก หน้าวี ดูเรียว คิ้วดูยก แต่กลุ่มผู้ชายเราไม่สามารถฉีดโบท็อกซ์แบบนั้นได้เพราะจะทำให้ขาดความแมนทันที ห้ามคิ้วยก หน้าผากห้ามแข็งจนแสดงอารมณ์ไม่ได้ คางยังต้องเป็นคางตัดเหมือนเดิม ผู้ชายยังคงต้องดูเป็นผู้ชายเพียงแค่หลังจากฉีดโบท็อกไปจะทำให้ดูหนุ่มขึ้น อ่อนเยาว์ลง
เดี๋ยวนี้การเข้าคลินิกเสริมความงามในกลุ่มของคุณผู้ชาย ถือเป็นเรื่องที่ธรรมดามากและยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นมาก เพราะไม่ว่าเพศไหนก็อยากดูดี เวลาไปไหนก็มีแต่คนทักว่าหน้าดูเด็ก ดูสดใสกันทั้งนั้น ยังทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเราเองและมั่นใจเพิ่มขึ้นอีกด้วย
รีวิว ฉีดโบท็อก ที่ เอเพ็กซ์