ผิวหน้าแห้ง ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด
เมื่ออายุเข้าเลข 3 ปลายๆ หลายคนเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงทางผิวหน้าของตัวเอง จากตอนสาวๆ ผิวที่ดูฉ่ำ ชุ่มชื้น ก็เริ่มมีความแห้ง กร้าน ริ้วรอยก็เริ่มตามมา ซึ่งอาการหน้าแห้งหรือผิวแห้ง พบได้ทั้งในเพศชายและเพศหญิงแสดงว่าฮอร์โมนที่ลดลงไม่ได้เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการแห้ง แต่เกิดจากเมื่อเราอายุมากขึ้นการสร้างไขมันที่ผิวหนังของเราลดลงโดยเฉพาะในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน
อีกทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การอาบน้ำบ่อยๆ หรือการอาบน้ำอุ่นและการใช้สบู่ที่มีฤทธิ์เป็นด่างก็ทำให้ผิวหนังสูญเสียไขมันที่เป็นเกราะป้องกันผิวชั้นนอกไปอีกด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดผิวแห้งในผู้สูงอายุ และยิ่งในฤดูหนาว ความชื้นในอากาศต่ำลง ทำให้ผิวสูญเสียน้ำได้มากขึ้น ผิวจึงแห้งและคันมากกว่าปกติ ภาวะหน้าแห้งหรือผิวแห้งไม่ได้เกิดจากปัจจัยภายนอกเพียงอย่างเดียวแต่ยังเกิดจากภาวะภายในอีกด้วย เช่น ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน โรคไต ขาดฮอร์โมนไทรอยด์ ขาดสารอาหาร ขาดน้ำหรือได้รับยาบางชนิดในการรักษาโรค อาทิเช่น ยาขับปัสสาวะ กรดวิตามินเอ เป็นต้น
ผู้สูงอายุ ผิวหนังทุกชั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ความสามารถในการสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์เก่าลดลง ซึ่งปกติวงจรการผลัดเซลล์ผิวของชั้นหนังกำพร้าจะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ ในผู้สูงอายุวงจรเหล่านี้จะใช้เวลานานขึ้นถึง 2 เท่า ความสามารถในการกักเก็บน้ำไว้ที่ผิวหนังจะลดลง ผิวหนังจะบางลงมากถึง 50% โดยเฉพาะในบริเวณที่ถูกแสงแดดบ่อยๆ เช่น ใบหน้า คอ หลังมือและแขนไม่เพียงแต่ผิวบางลง เส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินก็จะบางลงเช่นกัน เส้นใยที่ประสานกันจะขาดความยืดหยุ่น ทำให้ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่น ต่อมเหงื่อ และต่อมไขมันทำงานลดลง ทำให้ผิวหนังในผู้สูงอายุมีลักษณะแห้ง เป็นขุย มีสะเก็ดและหยาบง่ายขึ้น
10 วิธีการดูแลตนเองเพื่อป้องกันภาวะ หน้าแห้ง ผิวแห้ง
-
- เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่เหมาะสม คือ มีค่าความเป็นด่างน้อยแนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ประมาณ 5 มีสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิวและไม่มีสารลดแรงตึงผิว (surfactant)
- ทาโลชั่น ครีมหรือน้ำมันเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง (moisturizer) แนะนำให้ทาหลังอาบน้ำทันที เช้า-เย็น หรือทาบ่อยๆ ในกรณีที่ผิวแห้งมาก ควรเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่ไม่มีน้ำหอม เพื่อลดโอกาสในการแพ้สารเหล่านั้น
- งดการอาบน้ำอุ่นจัดหรืออาบน้ำเป็นเวลานาน
- งดการกัดผิวและขัดผิว
- หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอม
- หลีกเลี่ยงการเกาหรือเสียดสีบริเวณที่มีอาการคัน เนื่องจากจะกระตุ้นให้มีอาการอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังได้
- สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบายผิว
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง
- หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดจัดเป็นเวลานานและควรป้องกันแสงแดดโดยทาครีมกันแดด สวมหมวก กางร่มและสวมใส่เสื้อแขนยาว
- ในฤดูหนาวควรเลือกครีมที่มีความเข้นข้นเป็นพิเศษ
การรักษาภาวะ หน้าแห้ง ผิวแห้งที่มักได้ยินกันมาตลอดคือ การทาครีม ทาโลชั่นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ช่วยเพิ่มเกราะป้องกันผิวหนัง (Skin Barrier) ลดการสูญเสียน้ำในผิวหนัง พอผิวชุ่มชื้นขึ้นอาการแห้งและคันก็จะลดลง แต่นั่นก็แค่ภาวะภายนอกและต้องทาตลอดถึงจะเห็นผล แต่ตอนนี้เรามีนวัตกรรมที่ง่ายและเห็นผลยาวนานเรียกว่า HA Skin Booster หรือ Juvéderm Volite จากประเทศสหรัฐอเมริกา (USA)
ซึ่งเป็นสารไฮยาลูรอนชนิดเข้มข้น Cross Link ชนิดใหม่ที่ทำให้การฉีดเพียงครั้งเดียวผิวชุ่มชื้นนานไปถึง 9 เดือน หรือเท่ากับการทาครีมแพงๆ เป็นเวลา 1 ปี HA Skin Booster หรือ Juvéderm Volite ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องผิวแห้งกร้าน แต่ยังช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ผิว ให้ผิวดูฟูขึ้น ริ้วรอยเล็กๆ รูขุมขนกระชับ ผิวละเอียดดูฉ่ำวาว ทำให้คุณดูเด็กลงอีกด้วย