ลองให้ดูก่อนใคร ‘Picosure’ เลเซอร์ใหม่ล่าสุด ฝ้า กระ หลบไป…หน้าเนียนใสจนต้องร้องขอชีวิต!

banner-apex-696x365

กระ ฝ้า รอยแดง และสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ล้วนเป็นปัญหาที่หลายๆ คนไม่ต้องการพบเจอ เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างนาน ยิ่งถ้าเป็นการรักษาด้วยเลเซอร์ในสมัยก่อนนั้นยิ่งทำให้ใครหลายๆ คนไม่อยากรักษา เพราะทั้งเจ็บ ต้องทำการรักษาหลายครั้ง และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นนาน ซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบในการทำงานหรือการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ในปัจจุบันนี้การรักษาด้วยเลเซอร์มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก ทั้งเจ็บน้อยกว่ารักษาด้วยเลเซอร์แบบเก่าๆ แต่สามารถรักษาได้มีประสิทธิภาพมากกว่า ทำให้จำนวนครั้งในการทำลดน้อยลง และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อยกว่า

‘Picosure’ เลเซอร์หน้าใสนั้นเหมาะกับใครที่สุด?

เมื่อ ‘Apex Profound Beauty’ คลินิกความงามหรูย่านทองหล่อได้เชิญชวนพัดชาให้มารู้จักกับนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า ‘Picosure’ ก็ทำให้พัดชาเกิดอาการอยากรู้อยากเห็น เพราะพัดชาเองก็เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากบล็อกเกอร์ต่างชาติถึงความ ‘เทพ’ ในหลายๆ ด้านของนวัตกรรมเลเซอร์ตัวนี้

ซึ่งเลเซอร์ตัวนี้สรรพคุณของเขาก็คือ สามารถแก้ไขปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ โดยเคลมว่า “ไม่ร้อน ไม่เจ็บ ไม่เสี่ยงผิวไหม้ สามารถเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว”

ผิวของพัดชามีปัญหาอะไร?

เล่าให้ฟังก่อนว่าสภาพผิวของพัดชา บิวตี้ เอดิเตอร์เดนตายที่ลองสกินแคร์มาแล้วแทบทุกชิ้น ไม่ได้มีปัญหาหนักที่กระ ฝ้าและจุดด่างดำ แต่ปัญหาคือความ ‘ไม่สดใส’ ดูเหนื่อยล้าจากร่างกายที่พักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะตั้งใจอย่างมากในการทำงานเพื่อแฟนๆ PRAEW.COM

แบบนี้จึงเกิดคำถามว่า ‘Picosure’ นั้นเหมาะกับพัดชาหรือไม่? ซึ่งทาง APEX เองก็ได้คอนเฟิร์มว่า ผลลัพธ์ที่จะได้จะทำให้ ‘หน้าใส’ ขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินดังนั้นพัดชาจึงตอบตกลงทันที เรื่องหน้าใสเราไม่รอค่ะ

01-1

วันขึ้นเขียง เอ้ย! เตียง

คลินิก APEX นั้นหาไม่ยาก อยู่ที่ทองหล่อซอย 8 เข้าจากปากซอยไปเพียงเล็กน้อย บรรยากาศกว้างขวางโอ่อ่า เหมาะกับการให้ ‘ผู้’ ที่มาด้วยนั่งรอได้โดยไม่งอแง

02-1

จุดเด่นของ ‘APEX’ คือ ไม่ว่าจะมีนวัตกรรมอะไรที่ดีและเป็นที่นิยมมาใหม่ในวงการบิวตี้ ที่นี่ก็มักจะมีมาก่อนเสมอ เรียกว่าถามหาอะไร ‘ใหม่ที่สุด’ ให้ลองมาที่ ‘APEX’ บรรยากาศจึงอัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีด้านบิวตี้ล้ำสมัยต่างๆ เพียบ

03-1

Step1: Consult เม้าท์กับคุณหมอนันท์

สเต็ปแรกของการทำเลเซอร์ที่นี่นั้นจะเน้นไปด้านการพูดคุยกับคุณหมอ เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งพัดชาโชคดีที่ได้คุณหมอผู้ก่อตั้ง APEX แพทย์หญิง ‘นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ’ ได้ให้เกียรติมอบคำปรึกษาให้กับพัดชาโดยตรง คุณหมอเป็นกันเองมาก สรุปปัญหาได้อย่างรวดเร็ว กระฉับกระเฉงและตรงไปตรงมา สามารถเข้าใจได้ง่าย แบบนี้เลยค่ะที่ชอบ

คุณหมอสรุปให้ฟังว่า ปัญหาผิวของพัดชาคือ ‘รอยแดง’ ที่ได้ฝากรอยแค้นเอาไว้ไม่ยอมจากไปไหน (อันนี้ดราม่าเอง คุณหมอไม่ได้เอ่ย) ซึ่งเลเซอร์ตัวนี้จะจัดการปัญหาตรงนี้ได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาสูง

04-1

Step2: ชาไหม?…ให้ทาย

อย่าเพิ่งตกใจว่า ‘อิมนุษย์ฟิล์มถนอมอาหาร’ นี่คืออะไร เนื่องจากด่านแรกจะเริ่มจากการลบเมคอัพที่บรรจงแต่งประมาณสองชั่วโมงออกจนหมด เพื่อมาส์กยาชา ซึ่งจะใช้เวลา 30-40 นาที แต่ถ้าหากใครนึกอยากได้อะไรที่เร้าใจกว่านี้ก็ข้ามเสต็ปยาชาไปได้เลย (แต่พี่ไม่แนะนำ) โดยในระหว่างรอยาชาออกฤทธิ์ก็สามารถเล่นสมาร์ทโฟนรอได้…สไลท์วนไปค่ะ

05-1

Step3: เก๋านัก…ยิงเลยมะ! 

คุณหมอนันท์จะทำการปิดตาให้เหมือนการทำเลเซอร์ทั่วไป โดยอธิบายถึง ‘Picosure’ ว่าเป็น ‘คลื่นแสงความถี่สูง’ ที่มีความเร็วถึงหนึ่งต่อล้านล้านวินาที สามารถทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติด้วยการสั่นสะเทือนอย่างแรงได้โดยไม่ก่อให้เกิดความร้อนตกค้างแบบเลเซอร์เดิมๆ จึงถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการพัฒนาพลังงานแสงเลเซอร์

image

โดยพลังงานที่ว่านี้จะเข้าถึงเม็ดสีที่ผิดปกติ ทำให้อะตอมที่เรียงตัวกันอย่างหนาแน่นเป็นกระจุก ซึ่งถือว่าเป็นต้นตอของฝ้า กระและจุดด่างดำ แตกกระจายตัวออก แล้วจากนั้นจะดูดซึมออกจากร่างกายไปได้เอง

ที่เจ๋งสุดๆ ก็คือเทคนิคนี้สามารถใช้ได้ไปถึงกับการลบรอยสัก อย่างรอยสักคิ้วหรือรอบดวงตา โดยไม่เสียงต่อการเกิดผิวไหม้ ดังนั้นถ้ารอยสักยังลบได้รอยสิวก็ไม่ต้องพูดถึงสินะ!

‘Picosure’ ทำแล้วเจ็บไหม?

อันนี้สาวๆ หลายๆ คนคงอยากรู้ถึงความเจ็บของเลเซอร์ตัวนี้ ซึ่งพัดชาให้คะแนนอยู่ในระดับแค่ 4 จาก 10 ริกเตอร์ คือถ้าขวัญอ่อนก็จะออกไปทางตกใจเสียมากกว่าเจ็บ โดยคุณหมอจะยิงเลเซอร์ลงบนหน้าด้วยความรวดเร็ว พัดชาได้ถามคุณหมอว่าทำไมต้องเร็ว? เธอตอบว่า ‘ยิ่งช้าจะยิ่งเจ็บ’ โอเคงั้นให้ไวเลยค่ะคุณหมอ

ขณะที่คุณหมอยิงจะเกิดเสียงดังเปรี๊ยะๆ คล้ายกับการโดนหนังยางดีดบนหน้ารัวๆ เป็นความรู้สึกที่สาวๆ ทนได้อยู่แล้วล่ะ แค่อย่าตกใจก็แล้วกัน ใช้เวลาในการทำจริงๆ สั้นมากไม่ถึง 20 นาทีก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

06-1

Step4: มาส์กหน้าสบายคลายร้อน

ด่านสุดท้ายคือการทำมาส์กหน้า เพราะหลังจากที่ทำเสร็จผิวหน้าอาจมีอาการแสบร้อนนิดๆ มาส์กหน้าตัวนี้จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายสบายผิวขึ้น สังเกตว่าในภาพหน้าจะยังแดงอยู่นิดหน่อย แต่ถือว่าน้อยมาก ซึ่งเรียกได้ว่าดูไม่ออกเลยค่ะ

07-1

แต่งหน้าไปอีเว้นท์ต่อสิคะยูว์ หา! ไหนว่าทำเลเซอร์หน้าใสต้องมีการพักฟื้นเป็นอาทิตย์ กว่าจะแดง กว่าจะลอก กว่าจะเห็นผล แจ้งก่อนว่าหน้าของพัดชาไม่ได้หนาเป็นพิเศษ แต่ข้อดีของเลเซอร์ตัวนี้คือการ ‘ไม่ต้องพักฟื้น’ ใครที่ผิวเซ้นท์สิทีฟก็อาจจะเกิดอาการแดงมากหน่อย แต่หลังจากทำเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็จะค่อยๆ หายไปเอง

สำหรับประสบการณ์ตรงของพัดชานั้นขอบอกว่าชิลด์มาก ทำเสร็จเดินไปแต่งหน้าเข้าอีเว้นท์ต่อได้ใสๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เสียงตอบรับ 2-3 อาทิตย์ผ่านไปก็เริ่มรับรู้ได้ถึงฟีดแบ็ค เวลาเพื่อนๆ ทักว่าช่วงนี้ไปทำอะไรมา ทำไมหน้าใส? อยากจะตอบไปเหมือนกันว่าแค่ ‘ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วก็คิดบวก’ แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าผลของการทำเลเซอร์ตัวนี้ทำให้ริ้วรอยแดงที่เคยเป็นปัญหาจางลงอย่างชัดเจน จนต้องบอกต่อเพื่อนสาวที่มีปัญหาผิวไปหลายนาง

สำหรับคนที่มีปัญหากระหรือฝ้าหนักๆ คุณหมอแนะนำว่าให้ทำซ้ำ 2-3 ครั้ง รับรองว่าเห็นผล ถือเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์สาวยุคดิจิทัล เนื่องจาก

  1. ไม่เจ็บ

2. ไม่ต้องพักฟื้น

3. เห็นผลรวดเร็ว

ดังนั้นนัดคิวไปทำซ้ำรัวๆ เจ้จะหน้าใสให้โลกตะลึง! เอาซี๊

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

LINE ID : @apexmedicalcenter
หรือคลิก : http://line.me/ti/p/%40apexmedicalcenter
และ FB inbox : m.me/apexprofoundbeauty

ขอบคุณที่มา : praew.com